fbpx

ลิซานโดร มาร์ติเนซ เดอะบุชเชอร์

ลิซานโดร มาร์ติเนซ เดอะบุชเชอร์

ลิซานโดร มาร์ติเนซ เดอะบุชเชอร์

ชื่อเต็ม :: ลิซานโดร มาร์ติเนซ
วันเกิด :: 18 มกราคม ค.ศ. 1998 (25 ปี)
สถานที่เกิด :: เมือง กัวเลกาย อาร์เจนตินา
ส่วนสูง :: 175 เซนติเมตร
สัญชาติ :: อาร์เจนตินา
ตำแหน่ง :: กองหลัง
สโมสรปัจจุบัน :: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ลิซานโดร มาร์ติเนซ ( Lisandro Martinez ) 

ลิซานโดร มาร์ติเนซ เหมือนกับหลายคนที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอล โดยเขามี กาเบรียล ไอน์เซ่ เป็นไอดอลส่วนตัวด้วย ซึ่งเขามักฝึกการเล่นฟุตบอลในบริเวณที่ใกล้กับบ้านของคุณปู่ ก่อนที่จะเข้าทีมท้องถิ่นชื่อ คลับ อูร์กีซ่า ในปี 2002 หลังจากฝึกฝีเท้ากับ คลับ อูร์กีซ่า ได้ราว 4 ปี มาร์ติเนซ ตัดสินใจที่จะท้าทายตัวเองขึ้นไปอีกระดับด้วยการไปฝึกฝีเท้ากับ คลับ ลิเบอร์ตัด ซึ่งเป็นทีมที่ใหญ่กว่า โดยเขาทำผลงานได้โดดเด่นกับคลับ ลิเบอร์ตัด ตั้งแต่ช่วงอายุ 8-15 ปี และในปี 2014 เขายกระดับตัวเองได้อีกด้วยการเข้าอะคาเดมี่ของ นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ หนึ่งในทีมดังของ อาร์เจนตินา

การเริ่มต้นอาชีพ

ลิซานโดร มาร์ติเนซ ได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ นีเวลล์ส ด้วย แต่เป็นนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2016-17 โดยพอถึงซีซั่นต่อมาเขาโดนปล่อยให้ ดีเฟนซ่า จัสตีก้า ทีมในอาร์เจนตินายืมตัวไปใช้งาน ซึ่งเขาทำผลงานได้น่าประทับใจจนทำให้ ดีเฟนซ่า ซื้อร่วทีมแบบถาวรเมื่อปี 2018 ผลงานของ มาร์ติเนซ ไปเข้าตาแมวมองของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จนทำให้ ทีมยักษ์ใหญ่ลีกเนเธอร์แลนด์ ยอมควักเงิน 7 ล้านยูโรเพื่อดึงตัวไปร่วมทัพเมื่อช่วงกลางปี 2019 และเขาปรับตัวได้รวดเร็วมากๆ จนได้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ตั้งแต่การลงเล่นนัดที่สองของศึก เอเรดิวิซี่ ให้กับ อาแจ็กซ์ โดยเป็นเกมที่ อาแจ็กซ์ ชนะ เอฟซี เอ็มเม็น

ก้าวสู่ความโดดเด่นกับอาแจกซ์

นับตั้งแต่เข้าร่วมทีมยักษ์ใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ในปี 2019 มาร์ติเนซได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะบุคคลสำคัญในแนวรับของทีม โดยเปลี่ยนบทบาทระหว่างตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คและกองกลางตัวรับได้อย่างราบรื่น ด้วยความสามารถในการอ่านเกม สกัดบอล และเข้าปะทะที่เฉียบขาด เขากลายเป็นเกราะป้องกันที่ไว้ใจได้สำหรับแนวหลังของทีม นอกจากนี้ ความสามารถในการเล่นบอลและการจ่ายบอลที่แม่นยำของเขามีส่วนอย่างมากต่อความสามารถในการโจมตีของอาแจ็กซ์  สุดท้ายแล้วฤดูกาล 2019-20 มาร์ติเนซ ลงเล่นให้ อาแจ็กซ์ ไปทั้งหมด 41 นัดจากทุกรายการ ขณะที่ซีซั่นต่อมาเจ้าตัวยังคงเป็นกำลังหลักคนสำคัญของทีมและช่วยพาทีมได้ทั้งแชมป์ เอเรดิวิซี่ รวมถึง เคเอ็นวีบี คัพ ไปครองโดยลงเล่นไปถึง 42 นัดในทุกรายการ

ผลงานกับทีมชาติ

มาร์ติเนซ เคยเล่นให้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีของ อาร์เจนตินา 4 นัดเมื่อช่วงปี 2017 ก่อนจะได้ลงสนามให้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 1 หนในช่วงปี 2019 ซึ่งสุดท้ายในปีเดียวกันนั้นเขาได้รับโอกาสประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของ “ฟ้า-ขาว” ด้วย โดยเกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องที่ อาร์เจนตินา แพ้ เวเนซูเอล่า 1-3 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2019 ในเวลาต่อมา มาร์ติเนซ ขยับขึ้นมาเล่นชุดใหญ่แบบเต็มตัวและได้เป็นหนึ่งในขุนพลของ อาร์เจนตินา ชุดที่ได้แชมป์ โคปา อเมริกา 2021 รวมทั้งอยู่ในทีมชุดที่ได้แชมป์ ฟินาลิสซิม่า หรือรายการพิเศษที่เอาแชมป์ทวีปยุโรป พบ แชมป์ทวีปอเมริกาใต้ เมื่อช่วงปี 2022 ด้วย โดยเกมนั้น อาร์เจนตินา เอาชนะ อิตาลี ไปได้ 3-0 เพียงแต่วันนั้น มาร์ติเนซ ไม่ได้ลงสนามแต่อย่างใด และล่าสุดมีชื่ออยู่ในทีมชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์ด้วย

คว้าแชมป์โลกกับอาร์เจนตินา

แม้ว่าในศึกฟุตบอลโลก 2022 มาร์ติเนซ จะไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวหลักในทุกนัด ทว่า เจ้าตัว ก็มีส่วนสำคัญ ที่ช่วยให้ อาร์เจนตินา ฝ่าด่านทีมชั้นนำ จนไปถึงรอบชิชนะเลิศ และก็สามารถเอาชนะจุดโทษ ทีมชาติฝรั่งเศส คว้าแชมป์มาครองได้แบบสุดยิ่งใหญ่ และในฤดูกาล 2021-22 มาร์ติเนซ ยังรักษาคุณภาพการเล่นของตัวเองเอาไว้ได้จนทำให้เขาได้ลงเล่นกับทีมไป 37 นัดในทุกรายการ และในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 เอริค เทน ฮาก ตัดสินใจดึงเขาตามไปร่วมงานด้วยกันที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมจนเป็นหนึ่งในขวัญใจของเหล่า เร้ด อาร์มี่ ไปแล้ว

กลายเป็นคนสำคัญของผีแดง

ตอนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควักเงินในเบื้องต้นราว 47-49 ล้านปอนด์เพื่อดึง ลิซานโดร มาร์ติเนซ มาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานั้น หลายคนยังกังขาว่าเขาจะเอาตัวรอดในศึก พรีเมียร์ลีก ได้หรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่องส่วนสูงที่โดนจี้มากเป็นพิเศษ แต่จนถึงตอนนี้เขาถือเป็นคนที่ “ปีศาจแดง” ขาดไม่ได้ไปแล้ว ซึ่งเส้นทางการค้าแข้งของเขาก็ถือว่าน่าสนใจพอตัว

แหล่งที่มาข้อมูล :: th.wikipedia.org

ติดตามประวัตินักฟุตบอลเพิ่มเติม :: ประวัตินักฟุตบอล

Instagram : lisandromartinezzz

Twitter : @LisandrMartinez