เบน ไวท์ กับ 4 ข้อที่ทำให้ปืนยอมทุ่ม
เบน ไวท์ กับ 4 ข้อที่ทำให้ปืนยอมทุ่ม

หากไม่มีอะไรพลิกโผเชื่อเหลือเกินว่าไม่เกินในสัปดาห์นี้ อาร์เซนอล จะประกาศคว้าผู้เล่นคนใหม่ที่ทำให้ชื่อของ เบน ไวท์ กลายเป็นกองหลังค่าตัวแพงที่สุดอันดับ 3 ของสโมสร หลังทีม “ปืนใหญ่” ยอมทุ่ม 50 ล้านปอนด์พรากมาจากอกของ ไบรท์ตัน ดีลนี้เอาจริงๆ ทำเอาแฟนบอล “เดอะ กันเนอร์ส” สับสนอยู่ไม่น้อย เพราะจริงๆ เกมรับของยอดทีมจากนอร์ทลอนดอน ไม่ได้ขี้เหร่เลย ฤดูกาลที่เพิ่งจบไปก็เสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีก แถมชื่อชั้นของแนวรับวัย 23 ปี เอาจริงๆ ก็ไม่น่าจะมีราคาแพงขนาดนี้ อย่างไรก็ตามเพื่อให้เพื่อนๆ กูนเนอร์ส สบายใจกันไม่มากก็น้อย วันนี้เรามีข้อดีของเซนเตอร์ฮาล์ฟหนุ่มดีกรีทีมชาติอังกฤษ มาให้เพื่อนๆ ได้ลองวิเคราะห์กันดูว่า สมเหตุ สมผล หรือไม่ สำหรับดีลว่าที่แข้งป้ายแดงของ อาร์เซนอล รายนี้

1. เป็นกองหลังที่สร้างเกมได้ ในฟุตบอลสมัยใหม่การทำเกมรุกจากเกมรับได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่ง มิเกล อาร์เตต้า ก็เป็นอีกหนึ่งกุนซือที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และการจากไปของ ดาวิด ลุยซ์ กองหลังที่วางบอลได้ดีที่สุดของทีมคือโจทย์สำคัญที่ทำให้ทีมต้องการตัวแทน แนวรับวัย 23 ปีเป็นกองหลังประเภทดังกล่าว เป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟที่เล่นบอลฉลาด จ่ายบอลได้หลากหลาย ไวท์ จ่ายบอลขึ้นหน้าสูงถึง 40.07% มากกว่าแนวรับ อาร์เซนอล ทุกคน แถมเป็นการจ่ายเข้าพื้นที่สุดท้ายของคู่แข่งเฉลี่ยเกมละ 10.09 ครั้ง มีแค่ ดาวิด ลุยซ์ ในทีม “ปืนใหญ่” ที่ทำได้มากกว่า (11.15 ครั้ง) นอกจากนี้ลูกจ่ายของเขาก็หวังผลได้ เพราะสร้างโอกาสให้เพื่อนลุ้นประตูได้ถึง 0.23 ครั้งต่อเกม มากกว่าเซนเตอร์ทั้ง 4 ของทีม อาร์เซนอล แบบชัดเจน เพราะดีสุดของทีม “ปืนใหญ่” คือ ดาวิด ลุยซ์ ที่มีตัวเลขอยู่ที่ 0.13 ครั้งต่อเกมเท่านั้น

2. เป็นเซนเตอร์ที่พาบอลขึ้นหน้าได้ ถ้านิยามสั้นๆ ให้กับ เบน ไวท์ การใช้ว่ากองหลังที่ครบเครื่องคงจะไม่ผิดนัก เพราะนอกจากการจ่ายบอลที่ดีแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นเลยก็คือการเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟที่เทคนิคดีมากๆ เอาตัวรอดได้เก่ง โดยเฉพาะเรื่องของการเลี้ยงบอล ตามข้อมูลของ OPTA เว็บเก็บสถิติที่เชื่อถือได้ระบุว่า อดีตแนวรับของ “ยูงทอง” เป็นกองหลังตัวกลางที่เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งมากทั่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวเลี้ยงผ่านถึง 24 ครั้ง มากกว่า คริส บาแชม อันดับ 2 จาก เชฟฯ ยูไนเต็ด อยู่ 3 ครั้ง ด้วยเทคนิคการเอาตัวรอดที่ดี น่าจะช่วยยกระดับ “ปืนใหญ่” ได้เยอะ หลังซีซั่นที่ผ่านมาพยายามจะเซ็ตเกมจากแนวรับ แต่ดันสร้างข้อผิดพลาดจนทำให้ทีมเสียประตูบ่อยครั้ง ที่สำคัญการเลี้ยงบอลของ ไวท์ หากเอาตัวรอดได้ดี มันจะกลายเป็นการกินตัวคู่แข่ง และทำให้เกมรุกและเกมโต้กลับของทีมมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นด้วย

3. สถิติเกมรับดูดีกว่ากองหลัง ปืน ทุกคน ไม่ใช่แค่เกมรุกที่เจ้าตัวดูจะมีการจ่ายบอลที่ดีกว่า แต่องค์ประกอบอื่นๆ ในเรื่องของเกมรับรวมๆ แล้วก็ดีกว่าเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ อาร์เซนอล มีอยู่แทบทุกคนในฤดูกาลที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการลงสนามอย่างสม่ำเสมอถึง 36 เกม (ของ ปืน โฮลดิ้ง มากสุด 30 นัด) แม้ ไบรท์ตัน จะจบอันดับ 16 จากซีซั่นที่ผ่านมา แต่เกมรับพวกเขาถือว่าดีมากๆ เสียไปแค่ 46 เกมมากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เกมรับดีสุดในลีกอันดับ 2 เพียงแค่ 2 ประตู แถมยังเก็บคลีนชีตไปถึง 12 เกม เทียบเท่า อาร์เซนอล และ “ผีแดง” ซึ่งมีถึง 11 นัดที่เป็นเกมที่ เบน ไวท์ ลงสนาม (มากสุดทีม ปืนใหญ่ คือ ร็อบ โฮลดิ้ง 11 เกมเท่ากัน) นอกจากนี้สถิติปลีกย่อยก็ดูดีไม่น้อย โดยเฉพาะการอ่านเกมตัดบอลที่ทำได้สูงถึง 1.75 ครั้งต่อเกมมากกว่า (สูงสุดกองหลัง อาร์เซนอล คือ กาเบรียล 1.13 ครั้งต่อเกม) ขณะที่การเข้าสกัดก็ไม่ขี้เหร่เลย 1.38 ครั้งต่อเกมน้อยกว่า ร็อบ โฮลดิ้ง และ พาโบล มารี ที่สูงสุดของ “ปืนใหญ่” เพียงนิดเดียว

4. ความหลากหลายในตำแหน่งการเล่น จากข้อมูลข้างต้นที่เผยให้เห็นว่า เบน ไวท์ เป็นกองหลังที่เทคนิคดี เลี้ยงบอลได้ จ่ายบอลได้หมดทั้งใกล้และไกล รวมถึงรูปร่างที่ไม่เทอะทะจนเกินไปสูงอยู่ประมาณ 182 เซนติเมตร มันมีผลต่อตำแหน่งการเล่นของเขาที่ค่อนข้างหลากหลาย แม้ปกติแล้วแนวรับวัย 23 ปี จะเล่นเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวขวาเป็นหลัก แต่ก็สามารถเล่นได้ทั้งเซนเตอร์ตัวกลางและตัวขวาในระบบหลัง 3 คน นอกจากนี้ยังเล่นแบ็กขวาและกองกลางตัวรับได้ด้วย นับเฉพาะสถิติการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด ไวท์ ถูก เกรแฮม พ็อตเตอร์ ใช้งานหลายตำแหน่งลงเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟ 26 เกม, กองกลาง 6 เกม, แบ็กขวาและกองกลางตัวรับอีกอย่างละ 2 เกม
คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ข่าวบอล
คอนเทนต์เพิ่มเติม

5 ปัญหาใหญ่ของ ยูไนเต็ด
11/12/2023

5 แข้งดังจากอคาเดมี่ อาแจ็กซ์
05/12/2023

3 ประเด็นหลังเกม สาลิกา จิก ผี
04/12/2023

5 อดีตดาวดังของ ลียง ลงเป็นยิง
02/12/2023

เกิดอะไรขึ้นกับ สเปอร์ ที่เครื่องเริ่มสะดุด
01/12/2023