เสริมทัพติดลบ! จุดเริ่มต้นหายนะผีแดง
เสริมทัพติดลบ! จุดเริ่มต้นหายนะผีแดง
“คนเชียร์ก็ท้อ คนล้อก็เหนื่อย” คำแซวล่าสุดที่สะท้อนภาพปัจจุบันได้อย่างชัดเจนว่าในนาทีนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในสภาพที่น่าหดหู่แค่ไหน ประเดิมฤดูกาลใหม่ กุนซือคนใหม่ แต่ผลการแข่งขันก็ยัง “ห่วย” เหมือนเดิม เอริค เทน ฮาก กลายเป็นกุนซือ “ผีแดง” คนแรกในรอบ 101 ปี ที่ออกสตาร์ตบอลลีกด้วยการแพ้ 2 เกมติดต่อกัน หลังเปิดบ้านพ่าย ไบรท์ตัน 1-2 และสดๆ ร้อนๆ โดน เบรนท์ฟอร์ด ถล่มแบบไม่ไว้หน้า 0-4 สิ่งที่แฟนบอลตั้งคำถามไม่ใช่เรื่องฝีไม้ลายมือของกุนซือชาวดัตช์ แม้จะมีบางส่วนกระแหนะกระแหนอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ยังเข้าใจวิถีของฟุตบอล การทำงานในลีกใหม่ ลีกที่ใหญ่กว่า เจ้าตัวจำเป็นต้องได้เวลาเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
นักเตะชุดปัจจุบันคือเป้าหมายขอการโจมตี มีการขุดคุ้ยคำพูดของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่โจมตีนักเตะหลายคนสมัยคุมบังเหียมในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อหลายปีก่อน รวมถึงคำกล่าวของ ราล์ฟ รังนิก ที่บอกว่าทีมต้องซื้อแข้งใหม่ 10 ราย เปลี่ยนโค้ชมาแล้วก็หลายคน แต่ทำไมกราฟของทีมยังไม่พุ่งขึ้นสักที สุดท้ายก็หนีไม่พ้นนักเตะหน้าเดิมๆ ที่ฟอร์มไม่อยู่กับร่องกับรอย สาวกบางคนปรามาสหนักแบบเป็นคำคมว่า “มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่ทำแต่สิ่งเดิมๆ แต่คาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง” ไม่มีใครเถียงว่า แมนฯ ยูไนเต็ด อาจถึงเวลา “ล้างบาง” ครั้งใหญ่ของสโมสร แต่ส่วนตัวกลับไม่มีความมั่นใจว่าต่อให้ซื้อ “ยกโหล” ทีมจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ เพราะผลงานการเสริมทัพที่ผ่านมามัน “สอบตก” อย่างชัดเจน
ตั้งแต่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือเมื่อปี 2013 บอร์ดบริหารของ “ผีแดง” เหมือนพวกหลงทิศหลงทาง พูดกันแบบบ้านๆ 9 ซัมเมอร์ 17 ตลาดซื้อขายมีที่พอเป็นหน้าเป็นตาได้จริงๆ ก็แค่ บรูโน่ แฟร์นานเดส คนเดียวเท่านั้นคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่ได้แย่แต่ก็ปัญหาเยอะ ให้กลับไปตัดสินใจใหม่ก็ไม่น่าเซ็นร่วมทีม ฆวน มาต้า กับ อันแดร์ เอร์เรร่า ก็แค่ทรงๆ ไม่ได้พีกอะไรมากมาย ลุค ชอว์ ฟอร์มยังกับรถไฟเหาะ ตอนดีก็ดีใจหาย ตอนร้ายก็เล่นเหมือนคนละคน ปอล ป็อกบา กลายเป็นดีลที่ “เสียค่าโง่” ขาดทุนมากที่สุดในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ ผลงานในสนามก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน 2 แชมป์บอลถ้วยกับนักเตะค่าตัวระดับ 100 ล้านยูโร มองยังไงก็ไม่คุ้มค่า อังเคล ดิ มาเรีย, เมมฟิส เดปาย, เฮนริค มคิตาร์ยาน, โรเมลู ลูกากู, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, อเล็กซิส ซานเชซ, เฟร็ด, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค, อาจรวมถึง ราฟาแอล วาราน กับ เจดอน ซานโช่ ไม่ต้องอธิบายเยอะ “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับ อารอน วาน บิสซาก้า ก็ถูกล้อว่าซื้อมาแพงเกินจริง ไหนจะ อาหมัด ดิยัลโล่ ดาวรุ่งค่าตัวแพงจาก อตาลันต้า ที่ไม่รู้ลูกผีลูกคนจะได้ขึ้นมาแจ้งเกิดกับทีมตอนไหน
ปีนี้ทีมมีการเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหารจาก เอ็ด วู้ดเวิร์ด มาเป็น ริชาร์ด อาร์โนลด์ เห็นทีมคิดไว ทำไว เลือกแต่งตั้ง เอริค เทน ฮาก ที่โปรไฟล์หรูดีกรีแชมป์ลีกแดนกังหันลมตั้งแต่ยังไม่จบซีซั่น แฟนบอลเหมือนถูกปลุกให้กลับมามีความหวังอีกครั้ง แต่ทำไมทำมาก็ “หนังม้วนเดิม” มีเวลาเตรียมทีมหลายเดือน แต่การเสริมทัพไม่มีความชัดเจนอะไรเลย คิดช้า ทำช้า พยายามทำตัว “ขึงขัง” ว่าข้าเป็นเสือ ไม่ยอมให้โขกสับราคากันง่ายๆ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นเป็น “หมูในอวย” ตัวเดิม ไปแย่ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ กับ อาร์เซนอล สุดท้ายโดนปั่นจนต้องซื้อแบบแพงเว่อร์ 57 ล้านปอนด์ เสี่ยงมากๆ กับเซนเตอร์ฮาล์ฟที่สูงเพียง 175 เซนติเมตร และไม่รู้ว่าจะรับมือกับแรงปะทะ หรือลูกกลางอากาศของพรีเมียร์ลีกได้แค่ไหน ไทเรลล์ มาลาเซีย กับ คริสเตียน เอริคเซ่น ก็เป็นแค่ดีลแบ็กอัพ เอามาเพื่อแข่งขัน เอามาหมุนเวียนกับเจ้าของตำแหน่งเดิมอย่าง ลุค ชอว์ และ บรูโน่ แฟร์นานเดส ซึ่งหากไม่ดีกว่าจริงๆ ก็เบียดตัวจริงยาก ทั้ง 3 คนเป็นการเสริมทัพที่ไม่ได้แย่ แต่ดูแล้วก็ไม่ตรงจุด ไม่ใช่การเสริมทัพที่ทำให้แฟนบอล “ร้องว้าว” หรือคู่แข่งร้อง “อุ๊ย”
จริงๆ บอร์ดบริหาร กับ เทน ฮาก รู้ดีว่ามิดฟิลด์ตัวกลางคือ “จุดอ่อน” ที่จำเป็นต้องแก้ไขมากที่สุด ซึ่งพวกเขามองว่า เฟรงกี้ เดอ ยอง จะเป็นกุญแจสำคัญที่เข้ามาอุดรู้โหว่ตรงนี้ เรื่องฝีเท้าทุกคนเห็นด้วย แฟนบอลเองก็อยากได้ แต่จีบมา 2-3 เดือนไม่มีความคืบหน้า อุตส่าห์ปิดดีลราคากับ บาร์เซโลน่า ได้แล้ว แต่ไมู่รู้ว่าทีมเจรจาไปคุยกับนักเตะอย่างไรถึงกล่อมให้เจ้าตัวเปลี่ยนใจไม่ได้สักที ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติคุยกัน 2-3 ครั้งก็น่าจะได้คำตอบแล้ว ไม่เข้าใจทำไมถึงยังรอ และไม่เปลี่ยนเป้าหมาย ทั้งๆ ที่ตลาดก็ยังเปิดกว้างนักเตะอย่าง ยูริ ตีเลอมันส์, รูเบน เนเวส ฝีเท้าก็ระดับใกล้เคียง สัญญาเหลือคนละปี สองปี คุยง่าย จีบง่ายกว่าเยอะ ไหนจะนักเตะฟรีเอเยนต์ ที่ซัมเมอร์นี้มีแข้งฝีเท้าดีมากมาย เปาโล ดีบาล่า ทำไมไม่สนใจ หรือจะพวกแข้งยืมอย่าง จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ก็ยกระดับทีมได้แน่ ถ้าแข่งกันจริงๆ แมน ยูไนเต็ด มีอะไรด้อยกว่า โรม่า ?
เคสของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่แสดงให้เห็นถึงความด้อยคุณภาพของทีมบริหาร ปล่อยให้คาราคาซัง ไม่มีความชัดเจน นักเตะมีอิทธิพลถึงขนาดอ้างเรื่องส่วนตัวเลื่อนซ้อมและไม่ต้องไปทัวร์ปรีซีซั่น สุดท้ายซ้อมน้อย พอเล่นจริงก็ไม่เข้ากับเพื่อนร่วมทีม ซึ่งต้องนับรวมแข้งใหม่อย่าง ลิซานโดร และ เอริคเซ่น ที่กว่าจะได้ตัวมาร่วมทีม ก็อุ่นเครื่องแค่ 1-2 เกม ก็ต้องลุยสนามจริงเลย สุดท้ายมีข้อผิดพลาด เล่นไม่ได้อย่างที่ เทน ฮาก คาดหวังซีซั่นก่อน อาร์เซนอล เคยฟอร์มบู่ออกสตาร์ตแพ้ 3 เกมรวดจมบ๊วย แต่ก็หาจุดเปลี่ยนเจอจากการเสริมทัพที่เข้าเป้า อารอน แรมส์เดล, เบน ไวท์ และ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ เปลี่ยนหลังสุดปวกเปียกให้กลายเป็นสุดแกร่งเดินหน้าเก็บคลีนชีตอย่างมากมาย
ฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังจะตามรอย ออกสตาร์ตแพ้แล้ว 2 และอาจจะเป็น 3 ในเกมหน้าที่เจอกับ ลิเวอร์พูล บอกตรงๆ ไม่มั่นใจเลยว่า “ผีแดง” จะคืนชีพได้อย่างไร จะเลียนแบบ “ปืนใหญ่” ซีซั่นก่อนด้วยวิธีแบบไหน นักเตะที่เป็นข่าวสุดท้ายแล้วจะได้เพิ่มอีกกี่คน และคุณภาพจะดีพอ “เปลี่ยนเกม” ให้ทีมได้หรือไม่ เอาแค่ชื่อคนที่มีโอกาสย้ายมากที่สุดในเวลานี้อย่าง อาเดรียง ราบิโอต์ กองกลางของ ยูเวนตุส แฟนบอล “ผีแดง” ส่วนใหญ่ก็ยิ้มมุมปากกันทั้งนั้น อะไรที่มันทำพังมานานเกือบ 10 ปี วันดีคืนนี้จะให้ดีขึ้นแบบทันตาเห็นมีแต่ “ปาฎิหาริย์” เท่านั้นแหละที่เชื่อได้
คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ข่าวบอล
คอนเทนต์เพิ่มเติม
5 ปัญหาใหญ่ของ ยูไนเต็ด
5 แข้งดังจากอคาเดมี่ อาแจ็กซ์
3 ประเด็นหลังเกม สาลิกา จิก ผี
5 อดีตดาวดังของ ลียง ลงเป็นยิง
