อายุเป็นเพียงตัวเลข! 5 กุนซือเริ่มงานคุมทีมอายุน้อยสุด
5 กุนซือเริ่มงานคุมทีมอายุน้อยสุด
นอกจาก ยูฟ่า ซูเปอร์ลีก ที่กลบมิดทุกกระแสลูกหนังในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การกระเด็นตกเก้าอี้ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน การถูกปลดของ “เดอะ สเปเชี่ยล วัน” ไม่ใช่เรื่องที่น่าเซอร์ไพรส์อะไร ถ้าวัดจากฟอร์มที่ไม่ค่อยดีนักของ “ไก่เดือยทอง” แต่ที่น่าแปลกก็คือเป็นภารกิจที่ดูเร่งด่วน และเกิดขึ้นก่อนเกมนัดสำคัญที่จะชิงคาราบาว คัพ กับ แมนฯ ซิตี้ เพียงแค่ 6 วันเท่านั้น ที่สำคัญคนที่มาแทนกลับเป็น “ไก่อ่อน” ที่ชื่อ ไรอัน เมสัน อดีตเด็กเก่าที่เลิกเล่นก่อนวัยอันควร เนื่องจากปัญหาบาดเจ็บ และไม่เคยมีโปรไฟล์คุมทีมไหนมาก่อน ที่สำคัญอายุของเจ้าตัวก็ยังไม่แตะหลัก 30 เลยด้วยซ้ำ “เมสัน” ประเดิมคุมทีมไปแล้วเมื่อกลางสัปดาห์ ต้องบอกว่าทำผลงานได้ดีด้วยหลังฮึดพาทีมชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 พร้อมจารึกชื่อเป็นกุนซืออายุน้อยที่สุด ที่ประเดิมคุมทีมในพรีเมียร์ลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้านับเฉพาะ 5 ลีกใหญ่ของยุโรป อยากรู้มั้ยว่าเขาจะอยู่อันดับที่เท่าไร และท็อป 5 กุนซือที่ประเดิมงานนัดแรกด้วยอายุน้อยที่สุดจะมีหน้าตาแบบไหนกันบ้าง
1.ยูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์
นัดแรก : เบรเมน 1-1 ฮอฟเฟนไฮม์
อายุ : 28 ปี 6 เดือน 21 วัน
เจ้าของฉายา “มินิมูรินโญ่” เป็นอดีตผู้เล่นเยาวชนของ เอาก์สบวร์ก และ 1860 มิวนิค แต่ต้องเลิกเล่นก่อนวัยอันควร หลังมีปัญหาที่หัวเข่า จนต้องผลันตัวมาเรียนรู้เสพวิชาชีพโค้ช และเริ่มต้นทำงานในระดับเยาวชนเหมือนกับคนทั่วไป
นาเกิ้ลมันน์ สร้างชื่อด้วยการพา ฮอฟเฟนไฮม์ คว้าแชมป์บุนเดสลีกา รุนอายุไม่เกิน 19 ปี เคยก้าวขึ้นไปเป็นผู้ช่วยของ แฟรงค์ คราเมอร์ ในฤดูกาล 2012-13 และก้าวขึ้นมารับตำแหน่งเต็มตัว ภายหลังทีมปลด มาร์คุส กิสโดล และ ฮุบ สตีเว่นส์ ที่เข้ามาแทนเกิดมีปัญหาสุขภาพจนต้องลาออก เวลานั้น “นาเกิ้ลมันน์” เพิ่งอายุ 28 ปี กลายเป็นผู้จัดการทีมอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกา แต่เจ้าตัวก็พิสูจน์ด้วยผลงานในสนาม จากอันดับ 17 แต่ก็พาทีมรอดตกชั้น แถมซีซั่นต่อมาสามารถพาทีม เข้าไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย
ปัจจุบัน “นาเกิ้ลมันน์” โยกมาคุม อาร์บี ไลป์ซิก และแว่วๆ มาว่าหลังจบฤดูกาลนี้เจ้าตัวอาจย้ายไปหาความท้าทายที่ใหญ่กว่าเดิม โดยมี บาเยิร์น มิวนิค กับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่อยู่ในข่ายด้วย
2.ไรอัน เมสัน
นัดแรก : สเปอร์ส 2-1 เซาธ์แฮมป์ตัน
อายุ : 29 ปี 10 เดือน 8 วัน
อดีตเด็กปั้นของ สเปอร์ส ที่ถูก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ปลุกปั้นขึ้นสู่ชุดใหญ่ เส้นทางของเขาแรกๆ คือดาวโรจน์ที่วงการฟุตบอลอังกฤษ จับตา ถึงขนาดที่ ฮัลล์ ยอมทุ่มเงิน 13 ล้านปอนด์เป็นสถิติสโมสรดึงไปร่วมทีม แต่ “ความโชคร้าย” ไม่เคยเข้าใคร ออกใคร การปะทะกับ แกรี่ เคฮิลล์ กลายเป็นฝันร้ายให้เขาได้รับบาดเจ็บ จนถึงขั้นต้องผ่าตัดกระโหลกศรีษะ และต้องแขวนสตั๊ดในปี 2018 ซึ่งเจ้าตัวก็ผลันมารับงานโค้ชเยาวชนให้กับทีมเก่าอย่าง “ไก่เดือยทอง”
และอย่างที่เป็นข่าวไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา “เมสัน” ถูกดันขึ้นมารับบทกุนซือชั่วคราว หลังทีมตัดสินใจปลด “มูรินโญ่” และงานแรกที่คุมทีมเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 ทำให้เขากลายเป็นกุนซืออายุน้อยที่สุดที่ได้ประเดิมคุมทีมในพรีเมียร์ลีก
วันอาทิตย์นี้ สเปอร์ส มีคิวจะชิง คาราบาว คัพ กับ แมนฯ ซิตี้ การได้วัดกึ๋นกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกุนซือที่เก่งที่สุดในยุคนี้ ถ้าเจ้าตัวทำเซอร์ไพรส์ได้งานนี้ชื่อของ “เมสัน” คงถูกจับตามองไปทั่วโลกแน่
3.โดเมนิโก้ เทเดสโก้
นัดแรก : บีเอฟซี ไดนาโม 0-2 ชาลเก้
อายุ : 31 ปี 11 เดือน 7 วัน
กุนซือสายเลือดเยอรมัน-อิตาเลี่ยน แทบจะโนเนมมากๆ ในเส้นทางลูกหนัง เขาไม่มีประวัติการเล่นฟุตบอลในระดับอาชีพ แต่มามีชื่อเสียงหลังสามารถพา แอร์ซเกเบียเก้ เอา ทีมบ๊วยของลีกา 2 รอดตกชั้นในปี 2017 ทั้งๆ ที่คุมทีมไม่ถึงครึ่งซีซั่น
ผลงานของ “เทเดสโก้” ไปเตะตา คริสเตียน ไฮเดิ้ล ที่เคยให้โอกาส เยอร์เก้น คล็อปป์ และ โธมัส ทูเคิ่ล มาโชว์ฝีมือในการคุมทีม ไมนซ์ ด้วยวัยแค่ 32 และ 35 ปี ซึ่งเจ้าตัวตอนนั้นเป็นผู้อำนวยการกีฬาให้กับ ชาลเก้ จึงตัดสินใจดึงเขามาคุมทีม
กุนซือวัย 31 ปีในตอนนั้นไม่ทำให้ เฮเดิ้ล ผิดหวัง “เทเดสโก้” สร้างเกมปาฏิหาริย์หลังจบ 45 นาทีแรกตามหลัง ดอร์ทมุนด์ 4-0 แต่กลับมาเสมอ 4-4 พร้อมทั้งพา “ราชันสีน้ำเงิน” จบฤดูกาลด้วยตำแหน่งรองแชมป์
อย่างไรก็ตามในฤดูกาลต่อมาการแพ้ต่อ แมนฯ ซิตี้ 0-7 รวมถึงการไม่ชนะใคร 7 เกมติดต่อกันทำให้ ชาลเก้ ตัดสินใจปลดเขาออก และปัจจุบันเจ้าตัวโยกไปคุม สปาร์ตัค มอสโก ในลีกรัสเซีย
4.อังเดร วิลลาส โบอาส
นัดแรก : อคาเดมิก้่า 2-1 ปอร์ติโมเนนเซ่
อายุ : 32 ปี 8 วัน
แม้ลีกโปรตุเกส อาจไม่ถูกนับว่าอยู่ใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป แต่ชื่อของ “โบอาส” คงไม่มีใครปฎิเสธว่าเขาคือหนึ่งในกุนซือที่มีชื่อเสียง แต่มีเส้นทางการคุมทีมข้างสนามที่น่าสนใจมากๆ และเป็นหนึ่งคนที่ไม่เคยมีโปรไฟล์ผ่านการค้าแข้งอาชีพมาก่อน จุดเริ่มต้นของ “โบอาส” ค่อนข้างแปลก เพราะเขาอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์บล็อกเดียวกับ เซอร์บ็อบบี้ ร็อบสัน ที่ตอนนั้นคุม ปอร์โต้ ด้วยการพูดคุยอย่างถูกคอ ทำให้เขาถูกแต่งตั้งเข้าสู่ทีมสตาฟฟ์ด้วยวัยเพียง 17 ปี “โบอาส” ที่จบหลักสูตรโค้ชซี-ไลเซนส์ ของยูฟ่า ในวัย 17 ปี เติบโตขึ้นเรื่อยจนได้มาทำงานเป็นผู้ช่วย โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ปอร์โต้ รวมถึง อินเตอร์ มิลาน และ เชลซี ด้วย ก่อนจะมาปีกกล้าขาแข็ง เริ่มคุมทีมเต็มตัวกับ อคาเดมิก้า จากทีมไม่ชนะใคร จบอันดับ 11 ไม่ต้องลุ้นหนีตาย “โบอาส” สร้างชื่อให้ตัวเองที่สุดคือพา ปอร์โต้ คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในประเทศในปี 2011 ทว่าน่าเสียดายที่เส้นทางของเขา ไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่หลายคนจับตา การคุม เชลซี, สเปอร์ส, เซนิต, เซียงไฮ้ SIPG และ มาร์กเซย ต่างล้มเหลวทั้งหมด
5.ดิดิเยร์ เดส์ช็องป์ส
นัดแรก : โมนาโก 0-1 โซโชซ์
อายุ : 32 ปี 9 เดือน 13 วัน
ตำนานกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 เริ่มต้นงานกุนซือทันที ภายหลังที่ประกาศแขวนสตั๊ดกับทาง บาเลนเซีย โดยเข้ามาคุมทีมยักษ์ใหญ่ในบ้านเกิดอย่าง โมนาโก และทำได้ดีด้วยหลังพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก โดยแพ้ให้กับ ปอร์โต้ ของ โชเซ่ มูรินโญ่ อย่างน่าเสียดาย
หลังจากนั้น “เดส์ช็องป์ส” ไปกู้วิกฤติให้ทีมเก่า ยูเวนตุส พาทีมคว้าแชมป์เซเรีย บี ก่อนย้ายมาประสบความสำเร็จพา มาร์กเซย ซิวแชมป์ลีก เอิง เรียกว่าเจ้าตัวค่อยๆ เก็บโปรไฟล์ขึ้นมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ถูกเลือกคุมทีมชาติฝรั่งเศส
แม้จะล้มเหลวตกรอบ 8 ทีมหลังแพ้ เยอรมัน 0-1 ในฟุตบอลโลก 2014 แถมต้องอกหักปราชัยในยูโร 2016 แต่ความไว้วางใจที่สมาคมฟุตบอลฝรั่งเศส มีให้กับ “เดส์ช็องป์ส” ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะท้ายที่สุดเจ้าตัวก็สร้างประวัติศาสตร์พาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 เป็นเพียงไม่กี่คนที่ได้ทั้งสมัยเป็นนักเตะและกุนซือ
คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ข่าวบอล
คอนเทนต์เพิ่มเติม
5 ปัญหาใหญ่ของ ยูไนเต็ด
5 แข้งดังจากอคาเดมี่ อาแจ็กซ์
3 ประเด็นหลังเกม สาลิกา จิก ผี
5 อดีตดาวดังของ ลียง ลงเป็นยิง
เกิดอะไรขึ้นกับ สเปอร์ ที่เครื่องเริ่มสะดุด
ผู้คนเลยหันมาโจมตีนักเตะกองหลังราคาแพงของแมนยูที่ได้รับการคัดเลือกให้ติดทีมชาติอังกฤษแบบมีข้อกังขาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วนั่นก็คือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ นั่นเอง แรกเริ่มเดิมทีแฟนบอลอังกฤษไม่เห็นด้วยอยู่แล้วที่กุนซืออย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกกองหลังคู่นี้มาติดทีมชาติทั้งที่เขานั้นแทบจะไม่ได้ลงสนามกับสโมสรในช่วงหลังที่ผ่านมาเลยแม้ว่าจะมีตำแหน่งเป็นถึงกัปตันทีมก็ตาม เห็นได้ชัดว่าฟอร์มของเขาตกลงจนเกินเยียวยาแล้ว