fbpx

ทีมชาติเบล

ทีมชาติเบล

ทีมชาติเบล

   ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม แถมเป็นทีมที่ต้องเล่นถึง 11 คน ที่ผ่านมาจึงมักจะมีวลีเด็ดอยู่เสมอ ว่าต่อให้นักเตะเก่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถพาทีมชนะได้ด้วยตัวคนเดียวตัวอย่างง่ายๆ ก็ทีมชาติเวลส์ ในยุคหนึ่งพวกเขามีตัวริมเส้นที่เก่งที่สุดในโลกที่ชื่อ ไรอัน กิ๊กส์ นักเตะที่ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์อย่างมากมายกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ทีมชาติเบล

แต่ในนามทีมชาติ “ปีกพ่อมด” ก็ร่ายมนต์ไม่ออก ไม่สามารถเป็น “เดอะ แบก” พาทีมบรรลุเป้าหมายใดๆ ได้เลย การไม่ได้เป็นชาติมหาอำนาจ เอาแค่ในเครือสหราชอาณาจักร เป็นได้แค่ลูกไล่ของ อังกฤษ หรือแม้กระทั่ง สกอตแลนด์ กับ ไอร์แลนด์ ก็ยังผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลระดับเมเจอร์ได้มากกว่า ดังนั้นเทียบความสำเร็จของ “มังกรแดง” คงไม่ได้มองการณ์ไกลถึงขั้นเป็นแชมป์ แค่ยกระดับทีมผ่านรอบคัดเลือกของฟุตบอลโลก หรือ ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ก็เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจแล้ว เวลส์ มามี “ความหวัง” เมื่อมีนักเตะคนหนึ่งพัฒนาฝีเท้ากลายเป็นแข้งระดับ “World Class” แกเร็ธ เบล จากแบ็กซ้ายดาวรุ่ง สู่ปีกซ้ายตัวฉกาจ และกาลครั้งหนึ่งเคยเป็นดาวเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก

ทีมชาติเบล

จากไม่เคยเล่นรอบสุดท้าย ยูโร มาก่อน แต่มาในยุคของ “พญาวานร” ก็สามารถผ่านเข้าไปเล่นเป็นครั้งแรกใน ยูโร 2016 ก่อนจะสวมบท “ม้ามืด” เข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้อย่างเหลือเชื่อ ทัวร์นาเมนต์นั้นต้องบอกว่า เบล พีกมากๆ เด่นตั้งแต่รอบคัดเลือกที่ยิงได้ 7 ประตู ส่วนในรอบสุดท้ายที่ฝรั่งเศส ก็ยิงทุกนัดในรอบแบ่งกลุ่ม รวมแล้วทำไปทั้งสิ้น 3 ประตู มาตรฐานของ “มังกรแดง” ดีขึ้นผิดหูผิดตา ฟุตบอลสไตล์บ้านๆ เน้นเกมรับช่วยกันเล่นอย่างมีวินัย เสียประตูให้ยาก ส่วนเกมรุกลุ้นเอากับความมหัศจรรย์ของดาวเตะจาก เรอัล มาดริด

ทีมชาติเบล

น่าเสียดายที่ฟุตบอลโลก 2018 ดันมาตกม้าตายในรอบคัดเลือก ทั้งๆ ที่กุมความได้เปรียบมาตลอดในกลุ่มดี แต่นัดสุดท้ายดันพ่ายคาบ้านต่อ ไอร์แลนด์ 0-1 ชวดแม้กระทั่งโอกาสเพลย์ออฟ แต่อย่างที่ว่าไว้ข้างต้น เวลส์ นาทีนี้ไม่ใช่ “หมูในอวย” ที่ใครจะมาเชือดได้ง่ายๆ พวกเขาหักด่าน สโลวาเกีย และ ฮังการี ตามหลัง โครเอเชีย ผ่านเข้ารอบสุดท้ายศึกชิงแชมป์ยุโรป ได้เป็นคำรบสอง

ทีมชาติเบล

ใน ยูโร 2020 อาจไม่ได้มีผลงานเซอร์ไพรส์เหมือน 4 ปีก่อน แต่การผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ก็ถือว่าทะลุเป้าหมาย แม้ เบล จะยิงไม่ได้เลย แต่อย่างน้อยๆ ก็มี 2 แอสซิสต์จาก 3 ลูกที่ทีมทำได้ ล่าสุดลูกทีมของ โรเบิร์ต เพจ ก็สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ได้เป็นครั้งที่ 2 และเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี นับตั้งแต่ “เวิลด์ คัพ 1958” ที่ประเทศสวีเดน แน่นอนว่าสตาร์วัย 32 ปียังคงเป็นคีย์แมนสำคัญของทีม รอบคัดเลือกยิงไป 3 ประตู ส่วนรอบเพลย์ออฟก็มีส่วนทั้ง 3 ลูกที่ทีมทำได้ เหมา 2 ประตูพาทีมชนะ ออสเตรีย 2-1 เป็นคนเปิดลูกฟรีคิกไปโดน อังเดร ยาร์โมเลนโก้ สกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองกลายเป็นประตูชัยเบียดชนะ ยูเครน 1-0 ในเกมชิงตั๋วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ทีมชาติเบล

จริงๆ เบล กำลังอยู่ช่วงโค้งสุดท้ายของอาชีพนักเตะ 3 ฤดูกาลหลังสุดมันคือ “ขาลง” อย่างแท้จริง เมื่อไม่ได้เป็นที่รักของ เรอัล มาดริด อีกต่อไป จากปัญหาในสนามที่ถูกดร็อปบ่อยครั้งเพื่อบีบให้ย้ายออก ซึ่งเจ้าตัวก็ “แก้เผ็ด” ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ซ้อมตามหน้าที่ รอรับเงินก้อนโตไปจนหมดสัญญา นำไปสู่มรสุมนอกสนามที่ถูกทั้งแฟนบอลและสื่อท้องถิ่นถล่มอย่างหนัก ถูกด่ารุนแรงว่าเป็น “ปรสิตดูดเงิน” จนเป็นที่มาของป้ายล้อเลียน “เวลส์, กอล์ฟ, มาดริด” ที่ทำให้สาวก “ลอส บลังกอส” หัวร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ

ทีมชาติเบล

เอาจริงๆ ก็เข้าใจหัวอกแฟนบอล มาดริด เพราะภาพที่แสดงออกชวนให้คิดเช่นนั้นจริงๆ เบล ในสีเสื้อ “ราชันชุดขาว” กับ “มังกรแดง” มันคนละความรู้สึกเลย เล่นในทีมชาติดูมีความมุ่งมั่น ดูมีชีวิตชีวา ดูสนุกกับการลงสนามมากกว่าเห็นๆ แต่จะให้โทษ เบล ก็ไม่ใช่เรื่องเหมือนกัน เพราะเขาก็เป็นมืออาชีพ ร่วมซ้อมตามโปรแกรม สัญญาก้อนโตที่ตกลงเซ็นกันก็สมยอมทั้งสองฝ่าย เมื่อสโมสรไม่เลือกใช้งานเอง เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ทว่ากับ เวลส์ ไม่ว่าจะเป็น เฮดโค้ช, เพื่อนร่วมทีม รวมถึงแฟนบอล ทุกคนเชื่อใจเขา ทุกคนพร้อมให้การสนับสนุนเขา เมื่อได้รับการสงเสริมที่ดี ฟุตบอลที่ใช้หัวใจลงเล่น มันย่อมตอบแทนด้วยผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ จริงอยู่ฟุตบอลคือกีฬาที่ต้องเล่นเป็นทีม นักเตะเก่งแค่ไหนก็พาทีมชนะคนเดียวไม่ได้ แต่บางช่วงบางเวลากับนักเตะบางคนที่ผลงานโดดเด้งแบบชัดเจน ก็มักจะถูกนิยามว่าเป็น “เดอะ แบก”

ทีมชาติเบล

เราเคยได้ยิน โรนัลโด้ FC หรือ เมสซี่ ยูไนเต็ด กันอยู่บ้าง และวันนี้หากเราจะเปรียบ “มังกรแดง” ตัวนี้เป็น “ทีมชาติเบล” ก็คงไม่เกินเลยแต่อย่างใด เพราะผลงานในสนามมันฟ้องอยู่ทนโท่จริงๆ

คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ข่าวบอล