fbpx

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 ใกล้ที่จะได้บทสรุปเรื่องราวต่างๆ แล้ว ภายหลังทิ้งโค้งเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการแข่งขันซึ่งในเรื่องของโควต้าต่างๆ ยังคงได้ลุ้นกันอย่างสนุกทั้งพื้นที่ท็อปโฟร์ หรือการแย่งชิงตั๋วไปลุยฟุตบอลถ้วยยุโรปรายการอื่นๆ ส่วนพื้นที่ตกชั้นยังคงต้องลุ้นแบบนัดต่อนัดมองไปที่พื้นที่ลุ้นแชมป์เหลือม้าแข่งเพียง 2 สโมสรเท่านั้นคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล ซึ่งในช่วงที่เดือนที่ผ่านมาสถานการณ์ก็พลิกผันไปมากพอสมควร

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     แน่นอนว่ามันความมันส์ในสนามแล้ว เรื่องนอกสนามของศึกพรีเมียร์ลีกที่น่าสนใจไม่แพ้กันในซีซั่นนี้คือเรื่องของการเปลี่ยนแปลงกุนซือของสโมสรต่างๆ บางทีมเปลี่ยนแล้วดีขึ้น ทว่าบางสโมสรยิ่งแก้ไขเหมือนจะยิ่งเลวร้าย โดยเฉพาะบางสำนักใช้บริการโค้ชแบบขัดตาทัพซึ่งเรื่องที่เราจะเล่าในวันนี้ก็คือประเด็นกุนซือขัดตาทัพที่ฤดูกาลนี้โค้ชคนไหนมาอยู่ในบทบาทดังกล่าว มักมีผลงานที่น่าผิดหวังมากเหลือเกิน

คนที่ 1 : คิสเตียน สเตลลินี่

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     เริ่มต้นคนแรกที่ คิสเตียน สเตลลินี่ ที่เข้ามาขัดตาทัพหลัง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ประกาศปลด อันโตนิโอ คอนเต้ ออกจากตำแหน่งกุนซือ โทษฐานที่ออกมาวิจารณ์สโมสร และผลงานของนักเตะในทีม ซึ่งการเข้ามารับตำแหน่งของ สเตลลินี่ ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใดเพราะช่วงหนึ่งที่ คอนเต้ กลับไปรักษาอาการป่วยก็เป็นเจ้าตัวที่ขึ้นมารักษาการณ์อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนถอยกลับไปเป็นผู้ช่วย และกลับมานั่งเก้าอี้นายใหญ่อีกครั้ง

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     ทว่าเรื่องของผลงานต้องยอมรับเลยว่าน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก แม้จะมีข้อโต้งแย่งว่าเจ้าตัวเพิ่งมีโอกาสคุมทีมในช่วงเวลาสั้นๆ ทว่าฟอร์มในสนามกลับทรุดตกหล่นหายไปแบบน่าเกลียด 4 เกมในบทบาทกุนซือขัดตาทัพ สเตลลินี่ พา สเปอร์ส คว้าชัยได้เพียงนัดเดียวเท่านั้นเหนือ ไบร์ทตัน ส่วนที่เหลือต้องบอกว่าน่าผิดหวังมีเสมอ เอฟเวอร์ตัน และแพ้ให้กับ บอร์นมัธ 2-3 และ พ่าย นิวคาสเซิ่ล 6-1 จนกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายปลดออกจากตำแหน่งไป

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     กลายเป็นว่าในช่วงเวลาในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา สเปอร์ส มีการปรับเปลี่ยนกุนซือไปแล้วถึง 2 ครั้ง จาก คอนเต้ สู่ สเตลลินี่ และปัจจุบันก็กลายเป็นอีกกุนซือขัดตาทัพที่ผลงานยังไม่ค่อยสู้ดีนักอย่าง ไรมัน เมสัน การเข้ามาของกุนซือหนุ่มวัย 31 ปี เป็นการหวนคืนตำแหน่งครั้งที่ 2 ภายหลังเคยมานั่งในบทบาทนี้แล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2021 แทนที่ของ โชเซ่ มูรินโญ่

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     ซึ่งผ่านไป 2 เกมในยุค เมสัน ถ้าจะมีเรื่องน่าพอใจคือเกมรุกทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำมากขึ้นหลังกระหน่ำไป 5 ตุง กับสองทีมใหญ่อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ทว่าก็ยังไม่อาจพาทีมเก็บชัยชนะได้เลย แน่นอนว่าถ้าจะตัดสินผลงานของ เมสัน ในตอนนี้อาจดูใจร้ายไปหน่อย เพราะโปรแกรมที่หฤโหด และเพิ่ง 2 เกม เท่านั้น ซึ่งถ้าจะให้ตัดเกรดอีกครั้งคงเป็นหลังจบซีซั่นว่าจะเข็นทัพ ไก่เดือยทอง ไปจบตำแหน่งไหนในฤดูกาลนี้

คนที่ 2 : แฟรงค์ แลมพาร์ด

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     จบจาก สเปอร์ส ไปยังคงวนเวียนอยู่กับทีมในกรุงลอนดอน คราวนี้เราไปดู เชลซี กันหน่อยที่สถานการณ์ในฤดูกาลนี้วุ่นวายไปหมดทั้งเรื่องในสนาม และนอกสนามนับตั้งแต่ ท็อดด์ โบห์ลี่ เข้ามาบริหารงาน สิงห์บลูส์ ที่คุ้นเคยก็แปรสภาพเปลี่ยนไปทันที เพราะนอกจากเรื่องเม็ดเงินที่ทุ่มลงไป ก็ไม่เห็นการออกแอ็คชั่นครั้งไหนที่ทำให้แฟนบอลอุ่นใจได้เลยเฉกเช่นกับการประกาศปลด โธมัส ทูเคิ่ล ออกจากตำแหน่ง และไปดึง แกรแฮม พ็อตเตอร์ เข้ามาก็เหมือนโชคชะตาทำให้ เชลซี ปรับลดสภาพกลายเป็นทีมกลางตารางอย่างสมบูรณ์แบบ

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     ซึ่งเมื่อผลงาน พ็อตเตอร์ ขี้เหร่ แถมน่าน่าเกลียด โบห์ลี่ ก็กลืนน้ำลายตัวเองที่หวังให้กุนซือคนนี้เป็นอนาคตวางรากฐานด้วยการปลดออกจากตำแหน่ง พร้อมแต่งตั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด ขึ้นมาคุมทีมมองในเรื่องของเงื่อนไขเวลาตัวเลือกอย่าง แลมพาร์ด ย่อมน่าสนใจ เพราะกุนซือคนอื่นๆ คงไม่อยากมารับเผือกร้อนที่ไม่รู้ว่าทิศทางฝนช่วงที่เหลืออยู่จะเป็นอย่างไร

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     ทว่ากับจากที่ผ่านมาผลงานของ แลมพาร์ด ดูจะไม่ค่อยน่าประทับใจมากนัก เพราะก่อนหน้านี้กับ เอฟเวอร์ตัน มันค่อนข้างชัดเจนว่าผลงานติดลบ มากกว่าจะเป็นคนที่จะมาช่วยพลิกวิกฤตของสโมสรนับมาจนถึงตรงนี้งานของ แลมพาร์ด ในการรีเทิร์นภาค 2 คุมทีมไป 5 เกมไม่อาจพาทีมสะกดคำว่า ชนะ ได้เลย แถมเป็นการแพ้รวด และทำไปได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     มันชัดเจนแล้วว่าการเข้ามาของ แลมพาร์ด ไม่ได้ช่วยให้สถานภาพของทีมดีขึ้น แถมเหมือนเดินวนในอ่างน้ำเช่นเคย ส่วนที่เหลือของฤดูกาลนี้เหมือนลงสนามให้ครบตามโปรแกรม และพาทีมจบอันดับที่ดีที่สุดก่อนเดินหน้าแก้ปัญหา และนับหนึ่งใหม่กับกุนซือคนใหม่

คนที่ 3 : อดัม แซดเลอร์ กับ ไมค์ สโตเวลล์

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     นอกจากกุนซือขัดตาทัพ 2 รายข้างต้นที่กล่าวมาในระหว่างฤดูกาลนี้หลายๆ ทีมในพรีเมียร์ลีกก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เช่นกัน ทว่าก็เป็นเพียงการขัดตาทัพสั้นๆ หาใช่อยู่กระทั่งจบฤดูกาลยกตัวอย่างในเคสของ เลสเตอร์ ซิตี้ หลังแยกทางกับ เบรนดอน ร็อดเจอร์ส ก็มืดแปดด้านไปพักใหญ่หากุนซือคนที่ลงตัวไม่ได้ ก็ต้องใช้บริการของโค้ชคนคู่อย่าง อดัม แซดเลอร์ กับ ไมค์ สโตเวลล์ ขัดตาทัพไปพลางๆ

คนที่ 4 : สตีฟ เดวิส

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     สตีฟ เดวิส กับ วูล์ฟส ที่เข้ามาทำทีมหลังปลด บรูโน่ ลาจ ออกจากตำแหน่งช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งผลงานของ เดวิส ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก คุมทีมไป 8 เกม ชนะเพียง 2 นัดเท่านั้น ทำให้เปอร์เซ็นต์คว้าชัยต่ำเตี้ย 25% เท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทัพ หมาป่า ร่วงลงไปท้ายตาราง ก่อนมีการแต่งตั้ง ฆูเลียน โลเปเตกี เข้ามาทำหน้าที่แทนแบบถาวร

แถมให้อีกนิด

พรีเมียร์ลีก : ซีซั่นนี้ใครขัดตาทัพฟอร์มแย่แทบทั้งนั้น

     หรือถ้าจะใส่ชื่อของ บรูโน่ ซัลตอร์ ที่คุมทัพ เชลซี หลังปลด แกรมแฮม พ็อตเตอร์ เข้าไปในลิสต์ด้วยก็ย่อมได้ แม้จะคุมทีมเพียงเกมเดียวก็ตามซึ่งตอนนี้ศึกพรีเมียร์ลีกได้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายกันแล้ว เรามาลุ้นกันว่าจะมีสโมสรปรับเปลี่ยนตำแหน่งกุนซืออีกหรือไม่และจะใช้บริการกุนซือแบบขัดตาทัพ หรือตั้งถาวรในช่วงปลายฤดูกาลนอกจากพวกโควต้าต่างๆ แล้วก็คือเรื่องของปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้จัดการทีมนี่แหละที่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ฟุตบอลคอนเทนต์

รับชมฟุตบอลออนไลน์ :: ดูบอลสด

ติดตามบทวิเคราะห์บอลเพิ่มเติม :: วิเคราะห์บอลวันนี้

คอนเทนต์เพิ่มเติม

     นอกจากกุนซือขัดตาทัพ 2 รายข้างต้นที่กล่าวมาในระหว่างฤดูกาลนี้หลายๆ ทีมในพรีเมียร์ลีกก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เช่นกัน ทว่าก็เป็นเพียงการขัดตาทัพสั้นๆ หาใช่อยู่กระทั่งจบฤดูกาลยกตัวอย่างในเคสของ เลสเตอร์ ซิตี้ หลังแยกทางกับ เบรนดอน ร็อดเจอร์ส ก็มืดแปดด้านไปพักใหญ่หากุนซือคนที่ลงตัวไม่ได้ ก็ต้องใช้บริการของโค้ชคนคู่อย่าง อดัม แซดเลอร์ กับ ไมค์ สโตเวลล์ ขัดตาทัพไปพลางๆ