ย้อนกลับไปเมื่อตอนปิดตลาดซัมเมอร์ปีที่แล้ว ดิ แอธเลติก สื่อเมืองผู้ดีได้ไปสอบถามความเห็นจากเอเยนต์นักเตะ 18 คนว่าการย้ายทีมของใครที่เป็นดีลแย่สุดและดีสุด ซึ่งดีลที่ได้ผลโหวตเป็นดีลเจ๋งสุดประจำซัมเมอร์คือ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ของ ลิเวอร์พูล ขณะที่ดีลยอดแย่ที่สุดตกเป็นของ เอดินสัน คาวานี่ ผู้ซึ่ง “ปีศาจแดง” คว้าตัวแบบฟรีพร้อมกับให้ค่าเหนื่อยถึง 200,000 ปอนด์ (ประมาณ 8 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ เหล่าเอเยนต์ให้เหตุผลว่านักเตะอุรุกวัยรายนี้อายุมากแล้วและทีมยังต้องเสียค่าเหนื่อยมหาศาลอีก โดย คาวานี วัย 34 ปี ออกสตาร์ทฤดูกาลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างเชื่องช้า ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะเขาไม่ได้ลงสนามเลยนับตั้งแต่หมดสัญญากับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อเดือน มิถุนายน ทำให้เขาต้องเรียกความฟิตอย่างมาก และกว่าจะยิงประตูแรกในสีเสื้อของ “ปีศาจแดง” ต้องรอจนถึงเกมที่ 8 ของฤดูกาล ในเกมที่ แมน ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ที่รังกูดิสัน พาร์ค 3-1 จังหวะนี้คาวานี่แสดงให้เห็นถึงคลาสระดับโลก เมื่อได้บอลจาก บรูโน่ ก่อนจะหลอก จอร์แดน พิคฟอร์ด มือกาว ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน ว่าจะยิงไปเสาไกล ก่อนจะยิงด้วยขวาเสียบเสาแรกอย่างเฉียบคม จากนั้นจังหวะลูกหนังของ คาวานี เริ่มเป็นทำนองเดียวกันกับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น โดยเฉพาะ บรูโน่ และ ดาวนรุ่งอย่าง เมสัน กรีนวูด จนก้าวเข้ามามีส่วนสำคัญในการจบสกอร์อย่างเฉียมคมให้กับ “ปีศาจแดง” พร้อมกับสถิติ 15 ประตู 4 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 35 เกมทุกรายการ โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 ที่เขาโชว์การวิ่งไลน์ ก่อนสอดมาโหม่งประตูอย่างเฉียบขาดเป็นประตูปิดเกมพาทีมเก็บ 3 แต้ม แถมสถิติบ่งบอกว่าคาวานี่ใช้โอกาสคุ้มมาก เมื่อมีโอกาสสับไกในพรีเมียร์ลีกตรงกรอบ 13 ครั้ง ถูกเปลี่ยนเป็น 9 ประตู นอกจากนี้ยังขึ้นแท่นเป็นซูเปอร์ซับ ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมายิงประตูในพรีเมียร์ลีก มากที่สุดในฐานะตัวสำรอง ที่ 5 ประตู