ในเกมกีฬาโดยเฉพาะรองเท้าความสำเร็จที่ทุกคนหาแล้วการได้เห็นพัฒนาการของถุงเท้าเป็น “ยาเสพติด” ชนิดหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับคอบอลพันธ์แท้
ในพรีเมียร์ลีกจะมีการทดสอบการแข่งขันของปีซึ่งนับเป็นความสำเร็จในการแข่งขันกับรถไฟยังบลัดซึ่งซีซั่นก่อนหน้านี้อเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์เดอร์ดัสไปสกปรกไร้คู่ต่อกร
ส่วนในอินนี้ต้องบอกว่าดุเด็ดเผ็ดมันส์มากเพราะมีนักเตะจู๋น้อยหลายคนที่ทำผลงานได้ดีพัฒนาเส้นทางแบบเหยียบจนขึ้นมาเป็นหลักของสโมสรตัวเองประเภทที่ขาดไม่ได้
และนี่คือ 6 ตัวเต็งในมุมมองของผู้เขียนที่คิดว่ามีโอกาสมากที่สุดที่จะได้รับ “PFA Young Player Of The Year 2020-21” งานนี้มั่นใจว่าเกินตรงต้องตรงใจผู้อ่านอย่างแน่นอน
1.เมสันเมาท์ (เชลซี)
ผลงาน: 28 นัด 5 ประตู 4 แอสซิสต์
ลูกรักของแฟรงค์แลร์มอดิชันตัวเองให้เห็นแล้วว่า “เพชรแท้” อยู่ที่ไหนก็เป็น “เพชรแท้” แม้จะเปลี่ยนชามาเป็นโทมัสทูเคลดาวเตะวัย 22 ปีก็ยังเป็นตัวแรกใน ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกของทีมทร
คันนี้เมาท์พัฒนาชีคอย่างมากเรียกมาเป็นคนในเกมรุกเลยก็ว่าได้ไม่ใช่แค่ผลงานกับเชลซีมีกับทีมชาติอังกฤษก็มีโจรแบบเด่นชัดมีแฟนไทยตั้งกระทู้ว่าคือใครที่พัฒนา เรือใบดีสุดซีซั่นนี้เชื่อหรือไม่ชื่อของเมาท์คือคนที่ถูกพูดถึงเยอะที่สุด
2.ฟิลโฟเด้น (แมนฯ ซิตี้)
ผลงาน: 22 นัด 6 ประตู 5 แอสซิสต์
โฟเด้น ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะอังกฤษ ที่มีพรสวรรค์ดีที่สุด หลังทำผลงานเด่นพา “สิงโตคำรามจูเนียร์ส” คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งเจ้าตัวถูกวางให้เป็นทายาทของ ดาบิด ซิลบา ที่เพิ่งแยกย้ายกับทีม
ดาวเตะวัย 20 ปีไม่ทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผิดหวัง ได้ลงเล่นนัดชิงลีก คัพ กับ วิลล่า เมื่อฤดูกาลก่อน ซีซั่นนี้ก็ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง แถมเล่นเกมใหญ่ดีด้วยหลังยิง 1 จ่าย 1 ได้ในเกมที่เจอทั้ง เชลซี และ ลิเวอร์พูล
3.บูคาโย ซาก้า (อาร์เซนอล)
ผลงาน : 25 นัด 5 ประตู 3 แอสซิสต์
ดาวรุ่งวัย 19 ปี ถูกเรียกว่า “เดอะแบก” ประจำทีม ปืนใหญ่ ฤดูกาลนี้ หลังเป็นนักเตะเพียงไม่กี่รายที่ทำผลงานได้ดีอย่างสม่ำเสมอในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ขณะที่บรรดาแข้งซีเนียร์สตัวความหวังต่างจับมือกันออกทะเลชนิดไม่ได้นัดหมาย
ซาก้า เป็นนักเตะอเนกประสงค์เล่นมาหมดแล้ว 11 ตำแหน่งตั้งแต่เดบิวต์เมื่อซีซั่นก่อน และแทบทุกตำแหน่งก็ทำได้ดีด้วย ผลงานปีนี้บอกเลยว่าเด่นจริงๆ ในฐานะ “เดอะ กันเนอร์ส” เอาหัวเป็นประกันเลยว่าติดโผ 6 คนสุดท้ายอย่างแน่นอน
4.ดีแคลน ไรช์ (เวสต์แฮม)
ผลงาน : 29 นัด 1 ประตู 1 แอสซิสต์
การที่ “ขุนค้อน” บินสูงมีลุ้นแย่งท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้จริงอยู่ว่านักเตะทุกคนควรได้เครดิต แตุ่จุดแข็งของพวกเขาถ้าต้องชมจริงๆ คงหนีไม่พ้นคู่กองกลางอย่าง ดีแคลน ไรช์์ กับ โทมัส ซูเช็ค ที่เล่นร่วมกันได้อย่างแข็งแกร่งและลงตัวมากๆ
กัปตันทีมวัย 22 ปี อ่านเกมได้ดี นับถึงตอนนี้ดักตัดบอลไปแล้วถึง 58 ครั้งมากที่สุดในผู้เล่นกองกลาง เล่นดีแค่ไหนวัดจากก้าวไปยึดตัวจริงทีมชาติอังกฤษ ในเวลานี้ บวกกับ เวสต์แฮม กล้าแปะป้ายตั้งราคา 100 ล้านปอนด์ ก็น่าจะตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่่างดี
5.รูเบน ดิอาส (แมนฯ ซิตี้)
ผลงาน : 27 นัด 1 ประตู 15 คลีนชีต
ด้วยผลงานระดับ “จุดเปลี่ยน” ของทีมว่าที่แชมป์พรีเมียร์ลีก จริงๆ ชื่อของ รูเบน ดิอาส ต้องไปลุ้นรางวัลแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีเลยด้วยซ้ำ หลังแนวรับชาวโปรตุกีส เข้ามาขันแนวรับของ แมนฯ ซิตี้ จนเก็บคลีนชีตรัวๆ จากไม่ติดท็อปเทน จนก้าวขึ้นไปเป็นจ่าฝูง
ทว่ารางวัลดาวรุ่ง กำหนดชัดเจนว่าให้กับแข้งอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่ง ดิอาส ก็ยังอยู่ในข่าย ซึ่งที่ผ่านมาเราก็เห็นบ่อยครั้งที่มีนักเตะควบถึง 2 รางวัล ซึ่งมีแนวโน้มสูงไม่น้อยหาก หัวใจของแนวรับ “เรือใบ” ชวดได้แข้งแห่งปี อาจถูกปลอบใจด้วยรางวัลนี้แทนก็ได้
6.ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (เลสเตอร์)
ผลงาน : 25 นัด 9 ประตู 4 แอสซิสต์
นับตั้งแต่ก้าวขึ้นชุดใหญ่ในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาล 2016-17 ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ก็พัฒนาฝีเท้าได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะถูกปล่อยยืมตัวไปบ้าง แต่ก็ค่อยๆ สอดแทรกเข้ามาอยู่ในทีมจนกระทั่งเป็นตัวหลักได้ในยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
ชื่อของบาร์นส์อาจจะถูกพูดถึงมากนักเพราะต้องพูดว่าเขาอยู่ใต้เงาของแม็คแม็ดดิสันเพื่อนร่วมทีม แต่ผลงานนี้เรียกว่าไม่สูงกว่ากันเลยหลังยิงไปแล้วถึง 9 ประตูดาว ยิงรุ่นพี่อย่างเจมี่วาร์ดี้คนเดียวในทีม “ฮีโร่สยาม”