“ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ทำผลงานได้ตามเป้าหลังเชือด โปรตุเกส แชมป์เก่า 1-0 จากประตูช่วงท้ายครึ่งแรกของ ธอร์กาน อาซาร์ พาทีมลอยลำเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายดวล อิตาลี สำเร็จ ในศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
เบลเยี่ยม 1 – โปรตุเกส 0
วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2564
สนาม : เอสตาดิโอ โอลิมปิโก เดอ เซบีย่า, เซบีย่า (สเปน)
ฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ประจำวันวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน เกมนี้ เบลเยี่ยม ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม บี ส่ง โรเมลู ลูกากู ลงซัลโว ส่วน โปรตุเกส ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นอันดับ 3 กลุ่ม เอช วาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ดิโอโก้ โชต้า เป็นสามประสานในแดนหน้า
ครึ่งแรก
เกมในครึ่งแรกผ่านมาถึงนาทีที่ 6 โปรตุเกส มีโอกาสได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ เรนาโต้ ซานเชส ผ่านบอลมาที่ โชต้า หวดด้วยซ้าย แต่บอลหลุดกรอบออกไป
อีก 4 นาทีถัดมา เบลเยี่ยม ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ เอแด็น อาซาร์ ทำชิ่งกับ ลูกากู ก่อนที่ ลูกากู จะคืนบอลกลับมาที่ อาซาร์ ได้ง้างเท้ายิง ทว่าบอลโด่งข้ามคานหลุดออกหลังไปไกล
ผ่านมาถึงนาทีที่ 25 ฝอยทอง ได้จบสกอร์จากลูกฟรีคิกที่ โธมัส แฟร์มาเล่น ทำแฮนด์บอล ก่อนที่ โรนัลโด้ รับหน้าที่ยิง แต่ซัดไปติดเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ถึงแม้ว่า ชูเอา ปาลินญ่า ปรี่เข้ามาโหม่งซ้ำ แต่ กูร์กตัวส์ รับบอลเอาไว้ได้
แต่ในนาทีที่ 37 ปีศาจแดงแห่งยุโรป ได้เสียวจากจังหวะที่ โธมัส เมอนิเย่ร์ ทำชิ่งกับ เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนที่ เดอ บรอยน์ จะคืนบอลมาให้ เมอนิเย่ร์ ได้ยิง แต่บอลพลาดเป้าออกไป
กระทั่งนาทีที่ 42 เบลเยี่ยม มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่แนวรับโปรตุเกสสกัดบอลไม่พ้นอันตราย ทำให้ เมอนิเย่ร์ เก็บบอลได้แล้วผ่านบอลไปที่ ธอร์กาน อาซาร์ ยิงไกลบอลเข้าไปเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
ในช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม หมดครึ่้งแรก เบลเยี่ยม นำ โปรตุเกส 1-0
ครึ่งหลัง
เกมในครึ่งหลังผ่านมาถึงนาทีที่ 48 เบลเยี่ยม จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวโดยส่ง ดรีส เมอร์เท่นส์ ลงสนามมาแทนที่ของ เควิน เดอ บรอยน์ หลัง เดอ บรอยน์ มีปัญหาอาการบาดเจ็บจากการโดน ชูเอา ปาลินญ่า เสียบสกัดในครึ่งแรกแล้วฝืนเล่นต่อไม่ไหว
อีก 10 นาทีให้หลัง โปรตุเกส ได้ลุ้นประตูตีเสมอจากจังหวะที่ โรนัลโด้ ทำชิ่งกับ ดาโล่ต์ ก่อนที่ โรนัลโด้ จะไหลไปที่ โชต้า มีโอกาสได้ยิง แต่ โชต้า ซัดข้ามคานออกไป
ผ่านมาถึงนาทีที่ 62 ฝอยทอง ยังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่องและมีโอกาสได้สับไกจากจังหวะที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ตัวสำรองลองซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลก็ไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 77 เกิดเหตุชลมุนเล็กน้อยจากจังหวะที่ เปเป้ ไปเข้าสกัดหนักใส่ ธอร์กาน อาซาร์ จนทำให้ผู้เล่นทั้งสองทีมมีปากเสียงกัน แต่สุดท้ายก็ไม่มีเหตุบานปลาย
โปรตุเกส ได้เสียวในนาทีที่ 82 จากลูกเตะมุมที่ บรูโน่ เปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษแล้ว อันเดร ซิลวา กองหน้าสำรอง เทกตัวขึ้นโขกไปตรงตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ ที่เซฟไว้ได้
อีก 2 นาทีถัดมา โปรตุเกส ได้ลุ้นอีกหนจากจังหวะที่แนวรับเบลเยี่ยมสลัดบอลไม่ขาด ทำให้บอลมาเข้าทาง ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ยิงไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
ในช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เบลเยี่ยม เฉือนชนะ โปรตุเกส 1-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับ อิตาลี ที่ฝ่าด่านของ ออสเตรีย มาได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เบลเยี่ยม : ติโบต์ กูร์กตัวส์, โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์, โธมัส แฟร์มาเล่น, ยาน แฟร์ต็องเกน, โธมัส เมอนิเย่ร์, ยูริ ตีเลอมันส์, อั๊กเซล วิตเซล, ธอร์กาน อาซาร์, เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์, โรเมลู ลูกากู
โปรตุเกส : รุย ปาตริซิโอ, ดิโอโก้ ดาโลต์, เปเป้, รูเบน ดิอ๊าส, ราฟาแอล เกร์เรยโร่, เรนาโต้ ซานเชส, ชูเอา ปาลินญ่า, ชูเอา มูตินโญ่, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ดิโอโก้ โชต้า
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ไบรช์ (เยอรมัน)