ทัพ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ยังคงโชว์ฟอร์มแกร่งสมราคาหลังทุบเอาชนะ ฟินแลนด์ 2-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ ลูคัส ฮราเด็คกี้ ก่อน โรเมลู ลูกากู จะมาซัดปิดกล่อง ส่ง ฟินแลนด์ กลับไปรั้งบ๊วยของกลุ่มตกรอบไปตามระเบียบ ในศึกยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย เมื่อวันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้าย กลุ่ม บี
ฟินแลนด์ 0 – เบลเยี่ยม 2
วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2564
สนาม : เซนต์-ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม, เซนต์-ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย)
ฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้าย กลุ่ม บี ประจำวันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน เกมนี้ ฟินแลนด์ ที่ยังคงมีลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายส่ง ตีมู ปุ๊กกี้ และ โยเอล โปห์ยานปาโล่ เป็นคู่กองหน้า ส่วน เบลเยี่ยม ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปแล้วและขอเพียงแค่เสมอก็จะจบภารกิจในรอบแบ่งกลุ่มด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม บี ส่ง โรเมลู ลูกากู เป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้า
ครึ่งแรก
เกมในครึ่งแรกผ่านมาถึงนาทีที่ 15 เบลเยี่ยม เป็นฝ่ายที่ได้โหมบุกกดดันใส่ ฟินแลนด์ อย่างหนัก แต่ก็ยังไม่สามารถใส่สกอร์ได้สำเร็จ
อีก 8 นาทีถัดมา ปีศาจแดงแห่งยุโรป ได้จบสกอร์จากจังหวะที่ อักเซล วิตเซิ่ล ตั้งป้อมซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลเบาไปเลยทำให้ ลูคัส ฮราเด็คกี้ รับเอาไว้ได้สบาย ๆ
เบลเยี่ยม ยังคงเดินหน้าทำเกมบุกอย่างต่อเนื่องและได้ลุ้นอีกหนในนาทีที่ 34 จากจังหวะที่ เลอันโดร โตรส์ซาร์ พาบอลขยับหาช่องก่อนลองส่องด้วยซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังไม่ใกล้เคียงกับการได้ประตูขึ้นนำ
และอีก 4 นาทีถัดมา ทีมของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ เทรนเนอร์ชาวสเปน ได้เสียวอีกหนจากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ครอสบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ ลูกากู เทกตัวขึ้นโขก แต่ก็ยังไปตรงตัวของ ฮราเด็คกี้
เบลเยี่ยม ยังคงเดินหน้าทดสอบเกมรับของ ฟินแลนด์ และได้ลุ้นในนาทีที่ 42 จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ ออกบอลไปทางกราบซ้ายให้ เฌเรมี่ โดกู ใช้ความเร็วพาบอลเลี้ยงจี้ตัดเข้าในก่อนซัดไปติดเซฟของ ฮราเด็คกี้ ที่ช่วยให้ทีมยังไม่เสียประตู
ในช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้น หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง
เกมในครึ่งหลังผ่านมาถึงนาทีที่ 51 เบลเยี่ยม ได้จบสกอร์จากจังหวะที่ เจสัน เดนาเยอร์ ได้ตั้งป้อมซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไปไกล
อีก 4 นาทีถัดมา ปีศาจแดงแห่งยุโรป มีโอกาสได้สับไกอีกครั้งจากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ เปิดบอลไปติดบล็อคของแนวรับฟินแลนด์ ทำให้บอลมาเข้าทางของ วิตเซิ่ล ป้ายต่อให้ นาเซอร์ ชาดลี่ แต่ ชาดลี่ ดันยิงไปเข้ามือของ ฮราเด็คกี้
ในนาทีที่ 65 เบลเยี่ยม พลาดโอกาสในการได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายจากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ แทงทะลุช่องมาให้ ลูกากู หลุดเข้ามายิงในกรอบเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะซัดเข้าไปตุงตาข่าย แต่สุดท้ายผู้ตัดสินย้อนไปเช็กวีเออาร์และไม่ให้เป็นประตู หลังมองว่า ลูกากู อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า
กระทั่งนาทีที่ 74 ปีศาจแดงแห่งยุโรป มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุมที่ เดอ บรอยน์ เปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ โธมัส แฟร์มาเล่น เทกตัวขึ้นโขกแล้วบอลไปชนเสา ก่อนที่จะกระเด้งมาโดนมือของ ลูคัส ฮราเด็คกี้ เข้าประตูตัวเองไป
และในนาทีที่ 81 เบลเยี่ยม มาได้ประตูเพิ่มเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ ผ่านบอลมาที่ ลูกากู พลิกหนีตัวประกบแล้วซัดด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย
ในช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เบลเยี่ยม เอาชนะ ฟินแลนด์ 2-0 ทำให้ ปีศาจแดงแห่งยุโรป จบภารกิจในรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม บี ส่วน ฟินแลนด์ จบอันดับที่ 3 ทำให้ต้องไปลุ้นเป็น?หนึ่ง?ใน?ทีมที่ดีที่สุดเพื่อเข้ารอบต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฟินแลนด์ : ลูคัส ฮราเด็คกี้, ยุคก้า ไรตาล่า, ยูน่า ทอยวิโอ, เปาลุส อรายูรี่, ดาเนี่ยล โอชอนเนสซี่, เยเร่ ยูโรเน่น, โรบิน ล็อด, ทิม สปาร์ฟ, เกล็น กามาร่า, ตีมู ปุ๊กกี้, โยเอล โปห์ยานปาโล่
เบลเยี่ยม : ติโบต์ กูร์กตัวส์, เดดริค โบยาต้า, เจสัน เดนาเยอร์, โธมัส แฟร์มาเล่น, เลอันโดร โตรส์ซาร์, เควิน เดอ บรอยน์, อักเซล วิตเซิ่ล, นาเซอร์ ชาดลี่, เฌเรมี่ โดกู, เอแด็น อาซาร์, โรเมลู ลูกากู
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ บรีช (เยอรมัน)
สรุปผลอีกคู่กลุ่มบี
รัสเซีย แพ้ เดนมาร์ก 1-4
ผู้ทำประตู : 0-1 มิคเกล ดามส์การ์ด น.38, 0-2 ยุสซุฟ โพลเซ่น น.59, 1-2 อาร์เต็ม ซิวบา (จุดโทษ) น.70, 3-1 อันเดรียส คริสเตนเซ่น น.79, 4-1 โยอาคิม เมห์เล่ น.82