
วรวุฒิ นามเวช เเนวรับจาก การท่าเรือ เอฟซี เผยภูมิใจหลัง มีชื่อติด 1 ใน 47 ขุนพลทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่เข้ามาฝึกซ้อมเตรียมทีมลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
วรวุฒิ นามเวช กองหลังวัย 26 ปี กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ดี เมื่อกลายเป็นหนึ่งในแข้งหลักของ “สิงห์เจ้าท่า” ในยุค สระราวุฒิ ตรีพันธ์ โดยมีโอกาสลงเล่นในฤดูกาลนี้ไปถึง 18 นัด และ โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม ก่อนถูก อากิระ นิชิโนะ เรียกเข้ามาลุ้นติดธง ช้างศึกชุดใหญ่ อย่างเป็นทางการครั้งแรก
“ดีใจ และ เป็นเกียรติมากๆ ครับ ที่มีชื่อเข้ามาซ้อมกับชุดใหญ่ครั้งแรก” วรวุฒิ เริ่มกล่าวกับเรา
“ก่อนหน้านี้ไม่มีเฉี่ยวเลยครับ (ยิ้ม) ผมเคยติดตั้งแต่รุ่น 19 ปี 21 ปี และ 23 ปี แล้วก็หายไปเลย ก่อนที่จะกลับมาครั้งนี้ แน่นอนว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตนักฟุตบอล เป็นอะไรที่ดีใจมากๆ ครับ”
“เหตุผลที่โค้ช (อากิระ นิชิโนะ) ให้โอกาส ผมคิดว่าน่าจะเป็นช่วงหลังครับ ที่ผมมีโอกาสลงเล่นบ่อย และ ได้โชว์ผลงานของตัวเอง แต่เอาจริงๆ ระหว่างนั้น ผมก็ไม่ได้คิดเลยว่าจะต้องมีชื่อติด ทีมชาติไทย ผมแค่โฟกัสกับการทำหน้าที่ของตัวเอง”
“ขนาดตอนที่ผมเห็นชื่อตัวเอง ตอนนั้นอยู่บ้าน ผมยังพูดกับแม่เลยว่า ใช่ชื่อผมหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่พอเป็นเราจริงๆ ครอบครัวก็ดีใจไปกับเราด้วย และ แค่ผมมีชื่อติดเข้ามา ผมก็ภูมิใจมากๆแล้วครับ”
“วรวุฒิ” ยังกล่าวถึงช่วงชีวิตค้าแข้งที่ยากลำบากก่อนหน้านี้ “ช่วงที่ผมถูกปล่อยยืมบ่อยๆ จริงๆเป็นผมเองครับ ที่เข้าไปคุยกับสโมสรว่าถ้าไม่ใช้ผม ปล่อยผมไปเล่นที่อื่นได้มั้ย ผมรู้สึกว่าการที่เราอยู่ทีมใหญ่ แต่เราไม่ได้เล่น มันก็ไม่ได้ช่วยให้เราพัฒนาอะไร”
“ดังนั้น ผมคิดแค่ว่าขอโอกาสลงเล่นไว้ก่อน ก็อาจจะมีเสียตัวตนไปบ้างครับ เพราะย้ายไปย้ายมา หรือ บางทีเราไปทีมกลางๆ ทีมเล็กๆ เรามีผลงาน คนก็ไม่ค่อยมอง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากครับ อย่างที่ผมบอก ขอลงเล่นไว้ก่อน ก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ที่ส่งผลมาถึงตอนนี้ครับ”
นอกจากนี้ “วรวุฒิ” ยังกล่าวถึงการเข้าแคมป์ฝึกซ้อมตลอด 3 วันที่ผ่านมาว่า “การทำงานกับโค้ช (อากิระ นิชิโนะ) ก็โอเคครับ ค่อนข้างมีวินัย และ ทำให้เราเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เช่นเดียวกับ บรรยากาศการซ้อมที่เข้มข้น และ เคี่ยวกว่าที่ผมเจอมา ส่วนตัวก็ถือว่าปรับตัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ แต่ในฐานะน้องใหม่ ผมก็ยังต้องเรียนรู้ และ พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ครับ”
“เป้าหมาย ก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ ใช้เวลาในแต่ละวันให้คุ้มค่า และพยายามแสดงสิ่งที่เรามีให้โค้ชเห็น ลึกๆ ก็หวังว่าจะมีชื่อติดไปเล่นที่ “ยูเออี” ครับ แต่สุดท้ายแล้วถ้าไม่มีชื่อติดไป ก็ไม่เป็นไรครับ อย่างที่ผมบอก แค่มีโอกาส เข้ามาสัมบรรยากาศในทีมชุดใหญ่ ก็เป็นอะไรที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิตแล้วครับ”
“ก็หวังว่าแฟนบอลจะเป็นกำลังใจให้ผม และพี่ๆในทีมชุดนี้ด้วยครับ ผมยืนยันว่าระหว่างนี้ทุกคนทำงานหนักกันมากๆ เพื่อตอบแทนในสิ่งที่แฟนบอลหลายคนสนับสนุนทีมมาตลอดครับ” วรวุฒิ ปิดท้าย
สำหรับ ทีมชาติไทย จะเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ก่อนเริ่มต้นพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย วันที่ 3 มิถุนายน 2564 เวลา 23.45 น. ณ สนามอัล มัคตูม