fbpx

ธีราทร บุญมาทัน แจงจังหวะดราม่าถูกมอง “สับศอก” ใส่ ปาณเดชา เงินประเสริฐ กองกลาง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ในเกมที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอ “จงอางผยอง” 0-0 ในศึกรีโว่ ไทยลีก 2021/22

ความเคลื่อนไหวของ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายดีกรีทีมชาติไทย ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ล่าสุดออกมาโพสต์ข้อความแจงดราม่าผ่านโซลเชียลมีเดียส่วนตัวถึงจังหวะที่ถูกมองว่า ใช้ศอกกระแทกใส่ “ปาณเดชา” ในเกมที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอ “จงอางผยอง” 0-0 ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จนกลายเป็นประเด็นดราม่าบนโซเชียล

โดย “โก๋อุ้ม” โพสต์ว่า “1.ผมขอพูดในจังหวะนี้ที่เป็นประเด็น คือผมรู้ว่าน้องจะแตะบอลไปทิศทางนี้ ผมเลยดักแล้วเป็นเหลี่ยมบอลของผม แล้วในการเล่น ในมุมของผม 60%น้อง40% แล้วผมคิดว่าน้องอาจจะวิ่งเบียดกระแทกแบบไหล่ชนไหล่ ผมจึงเกร็งแขนด้านซ้ายเพื่อที่จะใช้ไหล่ต่อไหล่กระแทก แต่จังหวะนี้น้องก้มต่ำลงมา เลยชนช่วงไหล่ของผมจากด้านหลัง น้องไม่ได้โดนศอกผม(ถามจากน้องได้เลยครับ) และในสนามจังหวะนี้ที่น้องนอนเจ็บ ผมเดินไปดูและได้อธิบายว่าเหลี่ยมบอลของพี่นะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่ขอโทษด้วย แล้วให้กรรมการเช็คVARด้วยซ้ำ และกรรมการเช็คVARจากด้านบนแล้ว เค้าก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไรเช็คแล้ว ถ้าผมศอกจริงๆVARจากด้านบนส่งสัญญาณให้ใบแดงแน่นอน (และพี่ๆทั้งหลายที่ไม่ได้ดูทั้งเกมส์ แล้วคิดว่ากรรมการไม่เช็คVAR กรรมการเช็คแล้วนะครับ) แล้วไม่ต้องคิดว่าถ้าเป็นบุรีรัมย์แล้วจะไม่แดง คนเหมือนกัน แดงหมดถ้าทำ ผมสนับสนุนทุกกรณี”

2.ท่าผมสับศอกจริงๆ ทำไมแขนซ้ายผมถึงหนีบอยู่ข้างลำตัวอยู่อย่างนั้น..?

3.ผมเห็นคนที่แชร์คลิปแล้วตั้งสเตตัสแบบว่า ทับถมซ้ำเติม รอวันล้ม ผมขอบคุณมากถ้าจะตัดสินจังหวะเหตุการณ์จากมุมกล้องมุมเดียวแบบนี้ แล้วจะเอามากระทืบผมให้จมดิน แล้วทำให้ชีวิตของพวกคุณสนุกขึ้น ผมยินดีด้วย หรือบางคนอาจจะด้วยหมั่นไส้ หรือไม่ชอบหน้าผมอยู่แล้ว ได้ทีก็เลยใส่สักหน่อยหรอครับ และคนที่บอกว่า คิดว่าเป็นแชมป์เจลีกแล้วคิดว่าตัวเองเก่ง ขี้แอ็ค ผมขอพูดตรงนี้เลยว่า ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งหรือเหนือกว่าใคร ผมให้เกียรติทุกคนครับ ส่วนเรื่องขี้แอ็ค ผมต้องขอโทษที่บุคลิกผมอาจจะดูเป็นแบบนั้น แต่จริงๆผมไม่ได้แอ็ค ผมก็คนธรรมดานี่แหละครับ

3.สุดท้ายนี้ใครจะตัดสินผมด้วยคลิปนี้แล้วเกลียดผมเลย ก็ไม่เป็นไรครับ ส่วนคนที่ยังอยู่เชียร์และเป็นกำลังใจคอยซัพพอร์ตผมเสมอมา ผมขอบคุณมากๆครับ

4.ฝากบอกเพจนี้ด้วยว่าอย่าลืมเอาข้อความผมไปลง

ทั้งนี้ผลการแข่งขันในเกมนี้จบลงด้วยผลเสมอกัน 0-0 ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังต้องไปลุ้นแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 7 ในเกมต่อไป ซึ่งจะเปิดบ้านพบ เชียงราย ยูไนเต็ด ในวันพุธที่ 6 เมษายน 2565 เวลา 18.30 น.