3 ประเด็นหลังเกม เอลกลาซิโก้

จบไปแล้วเมื่อคืนสำหรับเกมเอลกลาซิโก้ที่ทาง บาร์เซโลน่า เปิดบ้านพ่ายไปให้กับทาง ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด 1-2 ซึ่งถือว่าเป็นเกมที่สนุกและสู้กันอย่างสูสีแบบสุดๆ ซึ่งรายละเอียดของเกมมีสิ่งที่ต้องพูดถึงมากมายแต่สิ่งที่น่าจะเรียกได้ว่าพระเอกของงานคงหนีไม่พ้นชายที่ชื่อว่า จู๊ด เบลลิงแฮม ที่นัดนี้เป็นเอลกลาซิโก้ครั้งแรกของเจ้าตัวแต่เจ้าตัวนั้นกดไป 2 เม็ด พา ราชันชุดขาว ไปลูบคม บาร์ซ่า ถึงถิ่น เรียกได้ว่าเด็กคนนี้มันเก่งเกินอายุของเจ้าตัวไปแล้วอาจจะเรียกได้เลยว่าเจ้าหนูรายนี้เป็นนักเตะระดับโลกไปแล้วก็เป็นได้ วันนืทางเพจ Singsanam จะพาท่านผู้อ่านไปดูกันว่า 3 ประเด็นหลังเกม เอลกลาซิโก้ มันมีอะไรที่น่าพูดถึงและน่าสนใจกันบ้าง

1. บาร์ซ่า เล่นดีมากแต่จบไม่ได้เอง

ถือว่าวันนี้ฝั่งเจ้าบ้านอย่าง บาร์เซโลน่า มาดีมากๆเลยทีเดียวหนำซ้ำยังได้ประตูเร็วตั้งแต่นาทีที่ 6 ของเกมการแข่งขันอีกด้วยจากการยิงของ กุนโดกัน รวมๆแล้วครึ่งแรกทาง บาร์เซโลน่า เหนือกว่าทาง เรอัล มาดริด แทบจะทุกทาง ครองบอลได้มากกว่าและสร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูได้มากกว่า ด้วยความที่ทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าตัวเก่งของทีมที่วันนี้ไม่ฟิตเต็มถังทำได้แค่ออกสตาร์ทเป็นตัวสำรองเท่านั้นทำให้ในช่วงครึ่งแรกทาง บาร์ซ่า ขาดความเฉียบคมในการจบสกอร์ ทำให้ในครึ่งแรก บาร์ซ่า ยิงไปได้แค่ 1 ลูกเท่านั้นส่วนจังหวะที่เหลือก็เหมือนยิงนกตกปลาไปกันเอง เฟร์รัน ตอร์เรส กองหน้าเฉพาะกิจของทีมวันนี้ดูเหมือว่าได้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองไม่ค่อยถนัดทำให้เขานั้นน่าจะเป็นแนวรุกเพียงคนเดียวของทีมที่แทบไม่มีส่วนร่วมอะไรกับเกมในวันนี้เลย ส่วนคนที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมากน่าจะเป็นดาวรุ่งวัย 20 ปีอย่าง เฟอร์มิน โลเปซ ที่วันนี้ถูกจับมายืนกองกลางตัวรุกและวันนี้เจ้าตัวเล่นได้อย่างโดดเด่นอีกด้วย การจ่ายบอล การพาบอลขึ้นไปข้างหน้า ทักษะในการเลี้ยงผ่านคู่ต่อสู้ นับวันเจ้าหนูรายนี้ยิ่งจะเก่งเข้าไปเรื่อยๆซะแล้ว

2. การแก้เกมของ อันเชล็อตติ

เนื่องจากครึ่งแรกทาง เรอัล มาดริด เล่นได้ต่ำกว่ามาตราฐานเดิมๆไว้มาก หรือเรียกได้ว่านักเตะของ เรอัล มาดริด พากันเล่นไม่ออกไปซะทุกคนอย่างงั้น เกมรุกมันก็ดูจะฝืด ส่งบอลกันแบบขาดๆเกินๆ เก็บนับก็ก่อความผิดผลาดเยอะและลูกเสียประตูก็มาจากความผิดพลาดส่วนตัวของนักเตะเอง เรียกได้ว่าจบครึ่งแรกไปมีงานให้ทาง อันเชล็อตติ ทำอย่างเยอะเลย เริ่มครึ่งหลังมาทาง อันเชล็อตติ ได้เปลี่ยนเอาทาง เอดูอาร์โด กามาวินก้า ลงสนามมาแทนทาง แฟร์ลอง เมนดี้ ที่ครึ่งแรกนั้นเขาหยุดการขึ้นเกมบุกของทาง เจา กันเซโล่ ไม่อยู่เลย ปรากฏว่ารูปเกมของ เรอัล มาดริด ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เกมรุกฝั่งซ้ายดูลื่นไหลมากกว่าครึ่งแรก เกมรับก็เล่นได้อย่างดีและรัดกุมขึ้นมาก

3. จู๊ด เบลลิงแฮม สวมบทฮีโร่ในนัดนี้

MOTM ในเกมนี้คงหนีไม่พ้นเด็กนรกแตกที่นามว่า จู๊ด เบลลิงแฮม ที่นับวันยิ่งฉายแววเก่งขึ้นไปเรื่อยๆ มันทำให้เราสามารถตอบคำถามที่ว่า 105 ล้านปอนด์ที่ เรอัล มาดริด จ่ายไปนั้นมันคุ้มแสนคุ้มแค่ไหน และเกมนี้เขาสวมบทเป็นฮีโร่ของ เรอัล มาดริด กดไป 2 ตุงพา เรอัล มาดริด บุกมาชนะทาง บาร์เซโลนา ได้ถึงถิ่น จากรูปเกมที่ดูเหมือนว่า เรอัล มาดริด ดูจะตันๆในการเจาะประตูของ บาร์เซโลน่า แต่เขาก็ตะบันลูหไฟบรรลือโลกพา เรอัล มาดริด ตีเสมอ บาร์เซโลน่า ได้ อีกทั้งในช่วงที่ทดเวลาบาดเจ็บอยู่จังหวะที่ ลูก้า โมดริช จับบอลลั่นแต่มันดีและมาเข้าทาง จู๊ด เบลลิงแฮม ยิงจ่อๆเข้าไปแบบไม่เหลือ จากผลงานของ จู๊ด เบลลิงแฮม ในปีนี้เขาลงสนามไปแล้ว 13 นัด ยิงไป 13 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์ หรือเฉลี่ยแล้ว จู๊ด ลงเล่นเมื่อไหร่ทำประตูได้ทุกเกม และคาดว่า จู๊ด คงจะไม่หยุดความร้อนแรงของเขาไปด้วยตัวเลขแค่นี้อย่างแน่นอน

คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ฟุตบอลคอนเทนต์

ติดตามผลบอลสดเพิ่มเติม :: ผลบอลสด888

ติดตามบทวิเคราะห์บอลเพิ่มเติม :: วิเคราะห์บอลวันนี้

ติดตามข่าวฟุตบอลเพิ่มเติม :: ข่าวฟุตบอล

แหล่งที่มาของข้อมูล :: 3 ประเด็นหลังเกม

instagram :: @Judebellingham