
“ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 หลังได้ เดนิส มูริลโล่ ซ้ำจังหวะจุดโทษ และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ยิงประตูปิดกล่อง เก็บ 3 คะแนนสำคัญ ในศึกรีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 มีเพิ่มเป็น 24 คะแนน ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 เรียบร้อย
ฟุตบอล รีโว่ ไทยลีก 2021/22
วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2564
สนาม : ชลบุรี สเตเดียม
ชลบุรี เอฟซี 2-0 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ผู้ทำประตู : 1-0 เดนนิส มูริลโล่ (จุดโทษ) น.74, 2-0 วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ น.90+5
สะสม พบประเสริฐ กุนซือเจ้าถิ่น มีปัญหาจัดทัพในแนวรับพอสมควร เมื่อขาดทั้ง เรนาโต เคลิช ที่ติดสัญญายืมตัว และ นพนนท์ คชพลายุกต์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องส่งดาวรุ่งลงสนามทดแทนทั้ง จักรพงษ์ แสนมะฮุง , ทรงชัย ทองฉ่ำ และ บุคฆอรี เหล็มดี ส่วนแนวรุกยังมี เดนนิส มูริลโล และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เป็นตัวชูโรง
ขณะที่ อเล็กซานเดร กามา เฮดโค้ชทีมเยือน ยังไม่มี เรบิน ซูลากา กองหลังคนสำคัญ ที่เดินทางไปรับใช้ ทีมชาติอิรัก ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ทำให้ต้องส่งแนวรับไทยลงสนามทั้งหมด นำโดย พรรษา เหมวิบูลย์ , ชิติพัทธ์ แทนกลาง และ อภิวัฒน์ งั่วลำหิน ส่วนแนวรุกดร็อป ซามูเอล โรชา เป็นสำรอง และใช้ ไมคอน มาร์เกวซ เป็นตัวจริง
นาทีที่ 11 บุรีรัมย์ เกือบขึ้นนำเร็ว สุภโชค สารชาติ โยนเข้าเขตโทษ ชนินทร์ แซ่เอียะ ชกบอลไม่ดี เข้าทาง ศุภชัย ใจเด็ด จ่ายกลับมาให้ ไมค่อน มาร์เกวซ พลิกยิงด้วยขวาเหน่งๆ แต่ ชนินทร์ ยังตามมาแก้ตัว เซฟไว้ได้
นาทีที่ 16 บุรีรัมย์ เกือบขึ้นนำอีกครั้ง ศุภชัย ใจเด็ด หักกลับมาให้ สุภโชค สารชาติ วิงมาแปในเขตโทษ บอลข้ามคานหวุดหวิด
จากนั้นรูปเกม ชลบุรี เริ่มดีขึ้น นาทีที่ 22 ได้ลุ้นบ้าง จิดี้ คานยุค เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ เดนนิส มูริลโล ล้มตัวโลก บอลหลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 44 ชลบุรี พลาดโอกาสทองขึ้นนำ ยู บยอง ซู ชิ่งให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนแปไปติดเซฟ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เหลือเชื่อ
จบครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0
ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ ปรับแท็คติกด้วยการถอดเอา ชิติพัทธ์ แทนกลาง และ ปิยพล ผานิชกุล ออก แล้วส่ง ทินกร อสุรินทร์ และ อ่องทู ลงเล่นแทน
เปิดเกมมายังเป็นทีมเยือน “ปราสาทสายฟ้า” ที่บุกใส่ เจ้าถิ่น และมาได้ลุ้นนาทีที่ 50 ไมค่อน มาร์เกวซ เก็บบอลจากจังหวะเปิดของ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ก่อนจะไหล่มาให้ อ่องทู ยิงแต่วางเท้าไม่ดีบอลเหินข้ามคานออกหลัง
บุรีรัมย์ แก้เกมต่อเนื่องด้วยการถอด สุภโชค สารชาติ แล้วส่ง ซามูเอล โรซ่า ลงเล่นแทน ส่วน ชลบุรี ส่ง สหรัฐ สนธิสวสัดิ์ ลงเล่นแทน กีดี้ คานยุค
จนกระทั่งเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 74 มีจังหวะฟาวล์ในกรอบเขตโทษ อภิวัฒน์ งั่วลำหิน ไปทำฟาวล์ เดนนิส มูริลโล ก่อนที่ผู้ตัดสินเช็ค VAR และให้ ชลบุรี เอฟซี ได้ลูกโทษ ซึ่ง เดนนิส มูริลโล ลุกขึ้นมายิงเอง จังหวะแรกไปติดเซฟของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน แต่บอลยังเข้าทาง เดนนิส มูริลโล่ ยิงซ้ำเขช้าไปให้ ชลบุรี เอฟซี ขึ้นนำ 1-0
หลังเสียประตู บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โหมบุกเข้าใส่อย่างหนักหวงทวงประตูคืนให้ได้ แต่ทว่า ชลบุรี เอฟซี ที่รอเล่นเกมโต้กลับเกือบบวกสกอร์เพิ่ม 2 ครั้งติดต่อกัน แต่ทว่ายังเป็นแค่จังหวะหวาดเสียว
ท้ายเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกกดดันหนัก จนผู้เล่นของ ชลบุรี เอฟซี ต้องถอดลงไปรับ แต่ช่วงทดเจ็บ นาที 90+5 “ฉลามชล” โต้กลับและได้ประตูตอกฝาโลงจาก วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ
จบเกม ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 คว้าชัยในลีก 4 นัดรวด มีเพิ่มเป็น 24 คะแนน แต่ยังรั้งที่ 4 ตามเดิม ส่วน “ปราสาทสายฟ้า” ไม่ชนะ 3 นัดติด มี 26 คะแนนเท่าเดิม แต่ยังรั้งรองจ่าฝูง
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม
ชลบุรี เอฟซี : ชนินทร์ แซ่เอียะ (GK) , บุคฆอรี เหล็มดี , ทรงชัย ทองฉ่ำ , จูเนียร์ เอลสตอล , ฉัตรมงคล เรืองณฐโรจน์ , จักรพงษ์ แสนมะฮุง , กฤษดา กาแมน , วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ , ยู บยอง ซู , กีดี้ คานยุค , เดนนิส มูริลโล่
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) , ชิติพัทธ์ แทนกลาง , อภิวัฒน์ งั่วลำหิน , พรรษา เหมวิบูลย์ , นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม , ไมค่อน มาร์เกวซ , รัตนากร ใหม่คามิ , อิรฟาน ดอเลาะ , ปิยพล ผานิชกุล , สุภโชค สารชาติ , ศุภชัย ใจเด็ด