โปรแกรมฟุตบอลลีกอาชีพของไทย เตรียมขยับวันแข่งในช่วงปลายเดือน พ.ย. เพื่อเพิ่มเวลาเก็บตัวฝึกซ้อมให้กับทีมชาติไทย ลุยชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5 ธ.ค.64 – วันที่ 1 ม.ค.65 ทำให้จะมีเวลาเพิ่มในการเก็บตัวเป็น 10 วัน
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.30 น. บริษัท ไทยลีก จำกัด จัดงานประชุมเพื่อพูดคุยกับตัวแทนของสโมสรในไทยลีก 1 ในเรื่องของการปรับเปลี่ยนปฏิทินการแข่งขัน สำหรับ รีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2564/65
งานครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด พร้อมด้วยตัวแทนของสโมสรในไทยลีก 1 เข้าร่วมพูดคุยในงานประชุมครั้งนี้
สำหรับกาารประชุมครั้งนี้ มีหัวข้อสำคัญในเรื่องของการพูดคุย เพื่อหาแนวทางในการปรับเปลี่ยนปฏิทินการแข่งขัน เนื่องจากทาง ไทยลีก ได้รับการประสานงานจากทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อให้สอดคล้องกับโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย ในฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2564 ถึง 1 มกราคม 2565
ซึ่ง ฝ่ายจัดการแข่งขันของไทยลีก ได้เสนอแนวทางในการปรับเปลี่ยนปฏิทินการแข่งขันเป็นดังนี้
- ขยับโปรแกรมการแข่งขัน รีโว่ ไทยลีก 2021/22 แมตช์เดย์ที่ 15 (เกมสุดท้ายในเลกแรก) จากวันที่ 27-28 พฤศจิกายน 2564 มาแข่งในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2564
- ขยับโปรแกรมการแข่งขัน รีโว่ ลีก คัพ 2021/22
- รอบ 32 ทีมสุดท้าย จากวันที่ 1 ธันวาคม 2564 มาแข่งในวันที่ 12 มกราคม 2565
- รอบ 16 ทีมสุดท้าย จากวันที่ 5 มกราคม 2565 มาแข่งในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565
- รอบ 8 ทีมสุดท้าย จากวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 มาแข่งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565
- รอบรองชนะเลิศ จากวันที่ 2 มีนาคม 2565 มาแข่งในวันที่ 9 มีนาคม 2565
3. ขยับโปรแกรมการแข่งขัน ช้าง เอฟเอ คัพ 2021/22
- รอบ 32 ทีมสุดท้าย จากวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 มาแข่งในวันที่ 19 มกราคม 2565
- รอบ 16 ทีมสุดท้าย จากวันที่ 19 มกราคม 2565 มาแข่งในวันที่ี 16 กุมภาพันธ์ 2565
- รอบ 8 ทีมสุดท้าย จากวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 มาแข่งในวันที่ 2 มีนาคม 2565
โดย คุณกรวีร์ ได้กล่าวในงานประชุมว่า “สวัสดีตัวแทนของสโมสรจากไทยลีก 1 ทุกท่านครับ วันนี้ ทางไทยลีก รวมถึงสมาคมฯ ที่เป็นผู้ประสานงานให้กับฝั่งของทีมชาติ จะมาพูดคุยกับทุกท่านในเรื่องของการปรับเปลี่ยนปฏิทินการแข่งขัน ทั้งในเรื่องของทางเลือก ผลกระทบ รวมถึงแผนการก่อนที่จะจบการแข่งขันเลกแรก รวมถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นคร่าวๆ ในเลกที่ 2 และโปรแกรมทีมชาติที่จะเกิดขึ้นในช่วงฟีฟ่าเดย์ด้วย”
“เราเอง ได้รับการประสานงานมาจากทางทีมชาติ ซึ่งเราได้คุยกันในเรื่องของความต้องการจากเฮดโค้ชทีมชาติไทย ในส่วนของการเตรียมพร้อมก่อนแข่งขันซูซูกิ คัพ ในเดือนธันวาคม ว่ามีข้อจำกัดในด้านใดบ้าง ทั้งการเดินทาง การเตรียมความพร้อม หรือจำนวนเกมการแข่งขัน ทางทีมชาติจึงได้มีการร้องขอ ให้พิจารณาเรื่องของการปรับเปลี่ยนการแข่งขัน เพื่อให้ทีมชาติมีเวลาที่ฝึกซ้อมมากขึ้น”
“ผมเองได้แจ้งกับทางสมาคมฯ ไป และได้มีการพูดคุยกับทาง มาโน่ โพลกิ้ง เฮดโค้ชทีมชาติไทย ซึ่งได้อธิบายถึงแนวคติดของไทยลีก และการทำงานกับสโมสร ซึ่งการเลื่อนโปรแกรม ที่อาจกระทบกับสโมสรทั้งหมดในกรณีนี้ ไทยลีก หรือสมาคมฯ จะไม่ตัดสินเอง เพราะอาจเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบของสโมสร การขยับโปรแกรมแบบนี้จึงต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกันของทั้ง 16 สโมสร ผมจึงแจ้งเรื่องนี้กลับไปถึงสมาคมฯ และทางมาโน่แล้ว ถึงเงื่อนไขที่เรามี”
ทั้งนี้ ไทยลีก จะให้เวลาแก่สโมสรสมาชิกในการตัดสินใจว่า ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนปฏิทินตามการแข่งขัน ตามที่ไทยลีกเสนอหรือไม่ หรือมีข้อคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะอย่างไรสำหรับการจัดปฏิทินการแข่งขันนี้ ซึ่งต้องเป็นความสมัครใจของทางสโมสรสมาชิก โดยไทยลีกทำหน้าที่เพียงแค่เสนอทางออกที่ดีที่สุดต่อทุกฝ่ายเท่านั้น ซึ่งในเรื่องนี้ นายกรวีร์กล่าวว่า
“นอกจากนี้ เรายังมีการพูดคุยถึงผลกระทบที่อาจเกิดกับการถ่ายทอดสด ที่ทางเอไอเอส รวมถึงฟรีทีวี ได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปถ่ายทอดสด และมีการประชาสัมพันธ์ไปแล้ว อีกทั้งการขยับโปรแกรมครั้งนี้ ไม่ได้ตรงกับช่วงฟีฟ่าเดย์ ซึ่งหากพูดกันตามตรง ก็เป็นสิทธิของสโมสรที่จะปล่อยนักเตะหรือไม่ก็ได้ ไทยลีก หรือสมาคมฯ ไม่มีสิทธิบังคับในกรณีนี้”
“วันนี้ เราจึงมีการเชิญสโมสร เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่า หากเรามีการปรับเปลี่ยนโปรแกรม และทางเลือกที่เป็นไปได้จะเป็นอย่างไรครับ ซึ่งเราจะอธิบายถึงทางเลือก และผลกระทบต่างๆ และให้ทางสโมสรได้มีสิทธิตัดสินใจครับ ขอบคุณครับ” รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยลีก กล่าว
อนึ่ง หากมีข้อสรุปจากสโมสรสมาชิก ไทยลีกจะนำมาปรับเปลี่ยนและแจ้งให้ทราบต่อไป เพื่อให้ทีมชาติไทยได้มีเวลาและการเตรียมตัวที่ดีที่สุด สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนเดือนธันวาคมนี้
