ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี พ้นกักตัว หลังผลตรวจ RT-PCR ไม่พบเชื้อโควิด-19 ด้าน “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ชี้ มีแข้งหลายรายที่ดีพอจะขึ้นสู่ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ได้
ความเคลื่อนไหวขุนพล “ช้างศึก” ยู-23 ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หลังจบภารกิจการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ยู-23 รอบคัดเลือก กลุ่มเจ ซึ่งเดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อช่วงเย็นวานที่ผ่านมา (1พ.ย.64) และเข้าพักที่โรแรมเมเปิ้ล ย่านศรีนครินทร์ เพื่อกักตัวรอผลตรวจ RT-PCR หากปลอดเชื้อก็สามารถออกจากที่พักได้เลย เนื่องจากผู้ที่เดินทางจากประเทศมองโกเลียไม่ต้องกักตัวแต่อย่างใด
โดยล่าสุดผลจากการตรวจของทัพช้างศึกยู 23 ออกมาปรากฎว่า นักกีฬาและทีมงานสตาร์ฟโค้ชทุกคนไม่พบเชื้อ ผลตรวจออกมาเป็นลบทุกคน
โดยทาง “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนเผยว่า “ถือว่าจบภารกิจด้วยดี สำหรับนักเตะชุดนี้ ซึ่งไม่มีใครติดเชื้อ จากนี้ทุกคนก็จะแยกย้ายกันกลับสโมสรต่อไป ส่วนรายที่มีอการบาดเจ็บทางทีมงานของมาดามแป้งได้นัดหมายวันที่จะเข้าไปตรวจเช็คอาการบาดเจ็บเพื่อดูแลต่อไปแล้ว”
“จุดแข็งของนักเตะชุดนี้ผมมองว่ามีอนาคต เป็นนักเตะที่มีสปีริส และทีมเวิร์คสูงมาก จะเห็นได้ว่าทุกคนพร้อมที่จะเสียสละ เพื่อทีมอันนี้ต้องขอชื่นชม ถ้ารักษาจุดนี้ได้พวกเขาก็มีโอกาสกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง”
เมื่อถูกถามว่านักเตะคนใดเหมาะสมที่จะขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่บ้างกุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ยู-23 กล่าวว่า “มีหลายคนที่เหมาะสมและดีพอจะขึ้นสู่ชุดใหญ่ได้อย่าง ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ไม่ต้องพูดถึง เขามีทุกอย่างพร้อม ไม่ว่าจะเป็นฝีเท้า หรือสภาพจิตใจ ใจเขาสู้ เขาไม่ยอมแพ้ มีความเป็นมืออาชีพสูง อีกราย โจนาธาน เข็มดี เชื่อว่าเป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่ทีมชาติไทยตามหา สไตล์การเล่นแบบกองหลังสมัยใหม่ ดุดันอีกทั้งยังมีความมุ่งมั่นทุ่มเท กระตุ้นเพื่อนร่วมทีมอยู่เสมอ เขาฟังภาษาไทยออกเขาจึงอินไปกับทีมชาติได้มากกว่าแข้งลูกครึ่งรายอื่นๆ”
“โค้ชโย่ง” กล่าวต่อไปว่า “ส่วนรายของ เบนจามิน เจมส์ เดวิส แม้ว่ารายการนี้เขาจะได้รับโอกาสลงสนามไม่มาก เนื่องจากสภาพร่างกายไม่พร้อมเต็มร้อย แต่เขามีความมุ่งมั่นและตั้งใจ และควรจะต้องดันขึ้นไปให้เขาซึมซับกับทีมชาติชุดใหญ่ ในเกมสุดท้ายที่ถูกเปลี่ยนตัวออก เขายังยืนยันว่าเขายังเล่นได้ หลังจบเกมจึงบอกเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนตัวออก ซึ่งเขาก็เข้าใจ ผมได้ยืนยันกับเขาไปว่า ฝีเท้า เขาไม่ได้อ่อนกว่าใคร เพียงแต่คนที่ถูกส่งลงสนามไป สภาพร่างกายพร้อมกว่าเท่านั้น ซึ่งเขาเองก็เข้าใจ”
ทั้งนี้ทีมชาติไทย ยู 23 ปี สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่จะจัดขึ้น ณ ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 1-19 มิถุนายน 2565ได้ตามเป้าหมาย ด้วยผลงานรอบแบ่งกลุ่ม เจ ชนะ 1 เสมอ 2 นัด ( เสมอ มองโกเลีย1-1 ,ชนะ สปป.ลาว 3-0 , เสมอมาเลเซีย1-1 ) เป็นทีมอันดับ2 ที่มีคะแนนดีที่สุดจาก 10 กลุ่ม