fbpx

การเข้ามารับเผือกร้อนต่อจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด เอาจริงๆ แฟนบอลหลายคนไม่ได้คาดหวังอะไรจากตัว โธมัส ทูเคิ่ล มากมายนัก เอาแค่สัญญาที่เจ้าตัวได้รับยังเป็นเพียงเงื่อนไขระยะสั้น 18 เดือนเท่านั้น

ทว่าทำไปทำมาอดีตกุนซือของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พาทีมทำผลงานได้ดีเกินคาด ตอนนี้ 14 เกมนับรวมทุกรายการไม่มีแพ้ใคร ทีมคัมแบ็กสู่ตำแหน่งท็อปโฟร์ แถมบอลถ้วยก็ฉลุยทั้ง แชมเปี้ยนส์ลีก (8 ทีม) และ เอฟเอ คัพ (รองรองฯ)

งานนี้เรามาลองวิเคราะห์กันดูดีกว่าว่า เชลซี ในยุคของกุนซือเลือดด๊อยซ์ลันด์ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง โดยขอแบ่งเป็น 5 หัวข้อให้เห็นภาพง่ายๆ ดังนี้

ใครคิดเหมือน…คิดต่างยังไง เสนอมุมมองของท่านมาได้เลย

 

1.แก้เกมรับด้วยระบบหลังสาม

ใช้ต่อได้! เชลซีเริ่มถกเอเยนต์ ติอาโก ซิล

เชลซี ในยุคของ แฟรงค์ แลมพาร์ด เกมรับค่อนข้างมีปัญหาพอสมควร หลังพวกเขาเสียไปถึง 23 ประตูนับเฉพาะ 19 เกมในพรีเมียร์ลีก เรียกว่าอัตราเฉลี่ยสูงกว่า 1 ประตูต่อนัดเลยด้วยซ้ำ

แต่พอเปลี่ยนนายใหญ่มาเป็น ทูเคิ่ล ทุกอย่าง “พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ” เชลซี กลายเป็นทีมที่มีเกมรับดีมากๆ 14 เกมไร้พ่าย คลีนชีต 12 นัด เสียแค่ 2 ประตู ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการยิงประตูตัวเองเสียด้วย

ทูเคิ่ล เอาโมเดลกองหลัง 3 คนของ อันโตนิโอ คอนเต้ มาปรับใช้อย่างลงตัว นักเตะหลายคนเคยคุ้นชินสมัยทำงานกับกุนซือชาวอิตาเลี่ยนมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากในการปรับตัว ขนาดเสาหลักอย่าง ติอาโก้ ซิลวา เจ็บไป คนอื่นก็สามารถแทนที่ได้เป็นอย่างดี

 

2.ให้บทบาทแดนกลางที่ชัดเจน

Player Ratings] เคปา มอบโชค ! ตัดเกรดนักเตะ เชลซี เกมเสมอ เซาแธมป์ตัน 3-3  เมื่อคืนที่ผ่านมา

บทความของ อีเอสพีเอ็น https://es.pn/3c8rNKT เปิดเผยว่าเมื่อกุนซือวัย 47 ปีเข้ามารับงานคุม สิงห์บลูส์ สิ่งแรกที่เขาทำคือการพา จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิซ และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไปคุยนอกรอบ โดยยืนยันว่าเขาต้องการให้ทั้ง 3 คนเป็นผู้นำในทีม

ทูเคิ่ล พูดชัดเจนว่าจะหมุนเวียนพวกเขา 3 คนในตำแหน่งกองกลาง ขึ้นอยู่กับแท็คติก, ความฟิต และคู่ต่อสู้ว่าเป็นใครในแต่ละเกม ซึ่งผลงานที่ผ่านมาก็ค่อนข้างชัดเจน ทั้ง 3 คนเล่นได้ดี และถูกโรเตชั่นใช้งานอย่างเหมาะสมถ้านับถึงเวลานี้

อดีตกุนซือของ ดอร์ทมุนด์ ให้บทบาทที่ชัดเจนกับผู้เล่นทุกคน เมสัน เมาท์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ในยุค แลมพาร์ด เคยถูกจับมาเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางในบางนัด ตอนนี้ต้องแย่งตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกเท่านั้นหากจะได้ลงสนาม

เกมของ สิงห์บลูส์ ตอนนี้ถือว่านิ่งมากๆ กองกลางคุมเกมได้ดี วัดจากสถิติการครองบอลเฉลี่ยที่สูงถึง 60% ต่อนัด มีเกมเจอ ลิเวอร์พูล นัดเดียวเท่านั้นที่พวกเขาครองบอลเป็นรองใน 14 เกมที่ผ่านมา

 

3.กล้าให้โอกาสแข้งส่วนเกินยุคแลมพ์

มาร์กอส อลอนโซ่ เตรียมลา เชลซี ร่วมทัพ แอตฯ มาดริด แบบยืมตัว

อีกประเด็นที่ ทูเคิ่ล ได้รับคำชมอย่างมากจากแฟนบอล เชลซี คือการปัดฝุ่นให้โอกาสกับนักเตะส่วนเกินในยุคของ แลมพาร์ด ซึ่งตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนคือ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ มาร์กอส อลอนโซ่

รูดิเกอร์ ที่ได้ลงเล่นเพียง 4 เกมในพรีเมียร์ลีกจาก 19 เกมแรก กลับมายึดเป็นตัวจริงที่พลาดลงสนามเพียงเกมเดียวจาก 12 นัดที่ผ่านมา การพูดภาษาเดียวกับโค้ช การสื่อสารที่ง่าย น่าจะเป็นปัจจัยหลักของเรื่องนี้

ขณะที่ระบบหลัง 3 กลายเป็นกำเนิดใหม่ให้กับ อลอนโซ่ ที่เกมรับแย่ แต่เกมรุกเยี่ยม ถ้าเป็นระบบวิงแบ็กแฟนบอล สิงห์บลูส์ ก็เข้าใจดีว่าดาวเตะสแปนิช ดูจะเหมาะสมกว่า แม้ เบน ชิลเวลล์ มาตรฐานจะทำได้ยอดเยี่ยมก็ตาม

 

4.ประยุกต์อะไหล่ในทีมได้ดี

อัซปิริกูเอต้า มั่นใจ เชลซี ประสบความสำเร็จกับกุนซือคนใหม่ได้ –  ทีเด็ดบอลน้ามูน

การเข้ามารับตำแหน่งของ ทูเคิ่ล เรียกว่าจวนตัวมากๆ ตอบตกลงวันเดียว รุ่งขึ้นต้องพาทีมเปิดบ้านรับมือกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ทันที และมีเวลาเพียง 2-3 วันเท่านั้นในตลาดซื้อขายนักเตะ ซึ่งมันไม่มากพอที่จะให้เขาเรียนรู้ว่าควรจะเสริมใครบ้าง

ดังนั้นการปรับใช้นักเตะเท่าที่มีคือการบ้านหลัก ซึ่งกุนซือวัย 47 ปีก็ทำได้ดีด้วย เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ในวัย 31 ปีกลายเป็นบ่อถ้าเล่นแบ็กขวา ก็ถูกโยกมาเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวขวา ซึ่งฟอร์มนาทีนี้เรียกว่าทีมขาดไม่ได้เลย

พอขยับ อัซปิลิกวยต้า ไปเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟ ทำให้วิงแบ็กขวาเหลือตัวเลือกเดียวคือ รีช เจมส์ ซึ่งอดีตกุนซือของ ปารีสฯ ก็ทำเรื่องเซอร์ไพรส์ด้วยการโยก คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย จากปีกตัวรุกมาทดสอบดู ซึ่งผลงานที่ผ่านมาก็ถือว่าสอบผ่านทีเดียว

 

5.เกมรุกยังไม่เปรี้ยงเท่าไร

เปลี่ยนคนยิง! แลมพาร์ดส่งสัญญาณแวเนอร์ยิงจุดโทษ | ชุมชนคนรักสิงโตคำราม

แม้จะพาทีมทำผลงานได้ดี แก้ปัญหาเกมรับจนกลายเป็นจุดเด่นของทีม แต่ก็ใช่ว่า ทูเคิ่ล จะราบรื่นไปซะทุกอย่าง เกมรุกของทีมนาทีนี้แม้จะยิงชนะได้อยู่ แต่ถ้าเทียบจริงๆ ก็ห่างไกลกับคำว่าพีกอยู่มากโข

14 เกมภายใต้กุนซือชาวเยอรมัน เชลซี ยังไม่เคยยิงเกินนัดละ 2 ประตูเลย แนวรุกจนถึงนาทีนี้ยังหมุนเวียนไปเรื่อย เหมือนเป็นการลองแผน เอาคนนั้น ผสมคนนี้ และยังหาชุดที่ลงตัวที่สุดไม่ได้

ติโม แวร์เนอร์ ก็ยังปืนฝืด แทมมี่ อับราฮัม ก็มาเจ็บ ทำให้หน้าเป้าวนอยู่ที่ ฮาแวร์ตซ์ กับ ชิรูด์ ซึ่งก็ยัง 3 วันดี 4 วันไข้ ตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ที่เป็นตัวหลักก็มีแค่ เมสัน เมาท์ ส่วน ฮาคิม ซิเย็ค กับ คริสเตียน พูลิซิซ ดูยังต้องจูนอีกพอสมควร