ลูก้า โมดริช พ่อมดแห่งวงการฟุตบอล
ลูก้า โมดริช พ่อมดแห่งวงการฟุตบอล
ชื่อเต็ม :: ลูก้า โมดริช
วันเกิด :: 9 กันยายน ค.ศ. 1985
สถานที่เกิด :: เมือง ซาดาร์ ประเทศ โครเอเชีย
ส่วนสูง :: 1.73 เมตร (5 ฟุต 8.1 นิ้ว)
สัญชาติ :: โครเอเชีย
ตำแหน่ง :: กองกลาง
สโมสรปัจจุบัน :: เรอัล มาดริด
ลูก้า โมดริช (Luka Modrić )
ลูก้า โมดริช (Luka Modrić ) เกิดที่ ซาดาร์ ยูโกสลาเวีย ระหว่างสงครามของโครเอเชีย โมดริช และครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้าน โมดริซี ใกล้กับ โอโบรวัช โดยพ่อของเขา สติเป เคยเป็นทหาร โครเอเชีย และเขาเสียปู่ของตัวเองจากการสู้รบ โดยพ่อของเขาใช้เงินที่มีอยู่น้อยนิดในครอบครัวตอนนั้น ผลักดันลูกชายเข้าโรงเรียนฟุตบอลในท้องถิ่น
เริ่มต้นกับ ดินาโม ซาเกร็บ
หลังจากที่ผลงานเข้าตา โมดริช ได้เซ็นสัญญากับ ดินาโม ซาเกร็บ ตอนอายุ 17 ปี ในปี 2002 ก่อนจะได้สัญญาถาวรในอีก 3 ปีถัดมา ตอนอายุครบ 20 ปี ทว่าในซีซั่นแรก ผลงานของเจ้าตัวไม่ดีเท่าที่ควร แต่ในปีถัดมา เจ้าตัวเค้นฟอร์มเก่งของตัวเองกลับมา ก่อนจะตะบันไปถึง 7 ประตู จากการลงสนาม 31 นัด พร้อมกับช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลดังกล่าว และในฤดูกาลถัดมา เจ้าตัวก็ช่วย ดินาโม ซาเกร็บ ป้องกันแชมป์ลีกไว้ได้ พร้อมกับได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลอีกด้วย
ย้ายไปเล้าไก่
ลูก้า โมดริช ต้องการความท้าทายใหม่ จึงตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพกับทีมดังในพรีเมียร์ลีกอย่าง สเปอร์ส ในปี 2008 ด้วยค่าตัวสูงถึง 16.5 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตาม โมดริช ต้องเจอกับปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปแบบการเล่นใน พรีเมียร์ลีก ที่เล่นแบบดุดัน ซึ่งเจ้าตัวมีรูปร่างที่ผอมแห้ง จึงทำให้เจ้าตัวไม่สามารถดึงฟอร์มเก่งออกมาได้เต็มที่ แถมยังมีอาการบาดเจ็บตามเล่นงานอยู่ตลอด
ได้เล่นตำแหน่งถนัดฟอร์มเก่งก็กลับมาอีกครั้ง
อนาคตของ ลูก้า โมดริช ในพรีเมียร์ลีก ทำท่าจะมืดมนซะแล้ว แต่การเข้ามาของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือคนใหม่ ทำให้ โมดริช เปลี่ยนเป็นคนละคน หลังจากถูกจับไปเล่นตำแหน่งถนัดคือหน้าต่ำ อยู่หลังกองหน้า ซึ่งในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังนั้นเอง โมดริช กลับมาเป็นคนเดิมเหมือนกับที่เคยเล่นให้ ดินาโม ซาเกร็บ ก่อนจะพาทีมจบอันดับ 8 ในลีก
ย้ายไปร่วมทีมราชันชุดขาว
หลังจากนั้น ลูก้า โมดริช กลายเป็นนักเตะที่ทุกสโมสรในยุโรปให้ความสนใจ และสุดท้ายความมหัศจรรย์ของนักเตะจากโครเอเชีย ก็ไปสะดุดตาสโมสรระดับโลกอย่าง เรอัล มาดริด และในปี 2012 โมดริช ได้ย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ และเขาถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่พา ราชันชุดขาว คว้าทริปเปิลแชมป์ยุโรปสามสมัยซ้อน สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้สำเร็จอีกครั้ง
เกือบพาบ้านเกิดไปคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก
หลังจากนั้น เจ้าหนุ่ม โมดริช เกือบสร้างปาฏิหาริย์ในเวทีระดับนานาชาติ อย่างฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดยเจ้าตัวแบกทีมชาติ โครเอเชีย ไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และแม้ว่าโครเอเชียจะต้องพ่ายแพ้ให้กับฝรั่งเศษก็ตาม แต่คลาสฟุตบอลของเขาก็ยังติดตรึงอยู่ในดวงตาประชาชนทั่วโลก รวมทั้งยังเข้าตาของคณะกรรมการฟีฟ่า ซึ่งได้ลงมติมอบรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนท์ให้แก่เขา
คว้าบัลลงดอร์
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2018 คณะกรรมการบัลลงดอร์ (Ballon d’Or) ได้ประกาศมอบรางวัลให้แก่ ลูก้า โมดริช ซึ่งไม่มีใครสามารถคัดค้านได้อย่างแน่นอน ด้วยผลงานที่มหัศจรรย์ของนักเตะชาว โครเอเชีย ที่พาทีมชาติเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ และที่สำคัญ โมดริช กลายเป็นนักเตะคนแรกในรอบ 10 ปี ที่สามารถแย่งรางวัลนี้มาจากโคตรนักเตะอย่าง เมสซี่ และ โรนัลโด้
เรื่องอายุเป็นเพียงตัวเลขสำหรับเขา
ทัวร์นาเมนต์ล่าสุดอย่าง ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ลูก้า โมดริช ด้วยวัย 37 ปี ได้พาทีมชาติ โครเอเชีย ได้ที่ 3 ในศึก ฟุตบอลโลก ด้วยคลาสฟุตบอลที่ตัวเขายังอยู่เต็มเปี่ยม คงใช้คำว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขได้อย่างเต็มปาก เมื่อได้เห็นผลงานในสนามของนักเตะอายุ 37 ปี ซึ่งแน่นอนว่าเส้นทางลูกหนังสำหรับเขา คงไม่ได้ทอดไปอีกไกลนัก อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โมดริช คว้ารางวัลยิ่งใหญ่มามากมายในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ ทั้งระดับส่วนตัว ระดับสโมสร และทีมชาติ เรียกได้ว่าเขาเป็นนักฟุตบอลคนหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในสายอาชีพของตัวเอง
ติดตามประวัตินักฟุตบอลเพิ่มเติม :: ประวัตินักฟุตบอล
ขอขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล : wikipedia
Instagram : lukamodric10
Twitter : lukamodric10
facebook : Luka Modric