fbpx

เวย์น รูนี่ย์ สุกรโลกันต์

เวย์น รูนี่ย์ สุกรโลกันต์

ประวัตินักฟุตบอล : เวย์น รูนี่ย์

ชื่อเต็ม :: เวย์น มาร์ก รูนีย์
วันเกิด :: 25 ต.ค. ค.ศ. 1985
สถานที่เกิด :: เมือง ลิเวอร์พูล ประเทศ อังกฤษ
ส่วนสูง :: 176 ซม.
สัญชาติ :: อังกฤษ
ตำแหน่ง :: กองหน้า
สโมสรปัจจุบัน :: แขวนสตั๊ดแล้ว

เวย์น รูนี่ (Wayne Rooney)

เวย์น รูนี่ เจ้าของฉายา สุกรโลกันต์ เริ่มต้นอาชีพจากการเป็นนักฟุตบอลของเมือง ลิเวอร์พูล ซึ่งเจ้าตัวก็เริ่มฉายแววการเป็นนักฟุตบอลมาตั้งแต่บัดนั้นโดยยิงไป 72 ประตู ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในโรงเรียนนั้นก่อนที่จะย้ายไปเริ่มเล่นให้กัยทีมท้องถิ่นเล็กๆ ในเมืองลิเวอร์พูลเมื่อตอนอายุ 9 ขวบ และสามารถทำประตูได้ 99 ประตู 

ตั้งแต่ซีซั่นแรกที่ลงเล่นก่อนที่ฟอร์มการทำประตูอันร้อนแรงนี้จะไปเข้าตาของ บ็อบ เพนเดิลตัน แมวมองของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” จนถูกดึงตัวเข้ามาอยู่ในการดูแลของ เอฟเวอร์ตัน นับตั้งแต่ปี 1996 หรือ ตอนอายุได้เพียง 10 ถึง 11 ขวบโดยในซีซั่นแรกลงเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน ยู-10 ซึ่งยิงไปได้มากถึง 114 ประตู จากการลงสนามเพียง 29 เกมเท่านั้นฟอร์มการเล่นของเขาทำให้ก่อนที่อายุจะ 15 ก็ได้ก้าวกระโดดขึ้นไปเล่นให้ชุด ยู-19 ของ เอฟเวอร์ตัน ก่อนที่จะได้เล่นอยู่ชุดนัดเพียงแค่ 8 นัด ก่อนจะถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ในทันทีซึ่งก่อนจะจากลาชุดเล็กเจ้าตัวทำผลงาน 8 ประตู จาก 8 เกม และ 1 ในนั้นคือการทำประตู ใส่ แอสตัน วิลล่า พาทีมเป็นแชมป์ เอฟ เอ คัพ เยาวชนในปี 2002

ชีวิตในวัยเด็ก และการก้าวขึ้นสู่ความโดดเด่น

โดยตลอดเวลาที่ขึ้นมาอยู่ชุดใหญ่ของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ตั้งแต่ปี 2002 จนถึง ปี 2004 เจ้าตัวลงสนามไป 77 นัด และทำได้ 17 ซึ่งจุดหักเหที่ทำให้ เอฟเวอร์ตัน ตัดสินใจจะปล่อยแข้งดาวรุ่งรายนี้ออกไปอยู่ในช่วงปี 2004 เนื่องจากเจ้าตัวอยากที่จะย้ายไปอยู่ทีมอื่น และได้ขอขึ้นบัญชีย้ายทีมในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2004 และแน่นอนว่าฝีเท้าระดับนี้ เอฟเวอร์ตัน ต้องรั้งไว้ก่อนแน่ๆโดยเสนอค่าเหนือ 50,000 ปอนด์ ให้กับแข้งวัย 18 ปี ถามว่า 5 หมื่น ปอนด์เป็นเงินไทยเท่าไหร่ คำตอบคือ 2 ล้านบาทเด็ก 18 ที่หาเงินได้ สัปดาห์ล่ะ 2 ล้าน ถามคนร้อยคนเป็นใครก็ต้องตอบตกลงสัญญาฉบับนี้แต่สิ่งที่ รูนี่ย์ ทำคือปฎิเสธเงินก้อนนั้นเลยเลือกที่จะย้ายทีมเขาเชื่อว่าฝีมือตัวเขาควรได้ทีมที่ดีกว่านี้ และค่าเหนื่อยที่ดีกว่านี้

ย้ายร่วมทัพปีศาจแดง

ในเวลานั้นมีหลายทีมที่เสนอเงินก้อนงามๆ ให้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน”เอฟเวอร์ตัน พิจารณาคือมี นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เสนอมาที่ 20 ล้านปอนด์ แน่นอนว่าโดนปัดตกไปอย่างแน่นอนถ้าไม่จากสโมสรก็จากตัวนักเตะเองเนื่องจากว่า “สาลิกาดง” ไม่ใช่คำตอบของเด็กหนุ่มรายนี้ ต่อมาได้มีทีมอยู่ทีมหนึ่งที่ทุ่มเงินถึง 25 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 1 พันล้านบาทให้กับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” แน่นอนว่าทีมนั้นคือทัพ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทันทีที่เห็นสัญญา เอฟเวอร์ตัน ได้ขายแบบไม่ลังเล 

ชีวิตช่วงแรกที่ปีศาจแดง

เพียงแค่เกมแรกของการลงเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เด็กหนุ่ม รายนี้ก็ทำสกอร์ได้ในทันทีซึ่งไม่ใช่ 1 ลูก แต่มากถึง 3 ลูก หรือทำแฮทริคได้ตั้งแต่เกมแรกที่เปิดตัวด้วยการพาทีมเอาชนะ เฟเนบาร์เช่ ทีมจาก ตุรกี 4-1 รวม 2 นัด สกอร์ 7-1 พา “ปีศาจแดง” ไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นนั้นได้โดยจบซีซั่นนั้นเจ้าตัวทำประตูไป 17 ประตู จากการลงสนาม 43 นัดในทุกรายการถือว่าทำประตูได้เยอะเมื่อต้องนั่งเป็นสำรองอยู่ในบางครั้งเนื่องจากในเวลานั้นทีมยังมี ศูนย์หน้าอย่าง รุด ฟาน นิสเตอรอย อยู่และเพียงแค่ปีที่ 2 ที่ย้ายมาร่วมชายคาของ โอล แทรฟฟอร์ด ในซีซั่น 2005-2006 เจ้าตัวก็สามาถพาทีมคว้าแชมป์แรกได้สำเร็จโดยเป็นแชมป์ ลีกคัพ หรือ คาราบาวคัพ ในปัจจุบันสามารถเอาชนะ วีแกน แอตเลนติก ไปได้ด้วยสกอร์ 4-0 นอกจากนี้เจ้าตัวยังทำประตูได้ถึง 2 ลูก ในเกมนั้น 

เริ่มทำผลงานยอดเยี่ยม

ไม่กี่อึดใจต่อมาในซีซั่น 2006-2007 เจ้าตัวก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและยังสามารถพาทีมเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นนั้นได้สำเร็จโดยคู่ต่อกรณ์ของ “ปีศาจแดง” คือ “ปีศาจแดง-ดำ” เอซี มิลาน ในชุดที่พลาดแชมป์มาจากปี 2005 ที่แพ้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แทบจะทุกตำแหน่งนำโดยมนุษย์คนสุดท้าก่อน ลูก้า โมดริช ที่สามารถ คว้า บัลลงดอร์ ได้ ริคาร์โด้ กาก้า , ฟิลิปโป้ อินซากี้ และ คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ เป็นกำลังหลักเกมนั้น “ปีศาจแดง” ตกเป็นรอง เอซี มิลาน 2-1 ก่อนจะมาได้ประตูตีเสมอจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในช่วงครึ่งหลัง ก่อนที่จะหมดเวลา 2 นาทีสุดท้าย ทุกอย่างทำท่าเหมือนจะจบเสมอกัน แต่ “ปีศาจแดง” ได้จังหวะสวนกลับของ ไรอัน กิ้ก จ่ายออกไปทางหน้าเขตโทษฝั่งขวาให้กับ เวย์น รูนี่ย์ ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจซัดด้วยขวาโดยไม่จับ และมันบอลก็ผ่านมือ ดีด้า โกลของ มิลาน เข้าไปขึ้นนำเป็น 3-2 และไดยัดเยียดความปราชัยให้กับ เอซี มิลาน แม้ในนัดต่อมาจะบุกไปแพ้ที่ ซาน ซิโร่ ถึง 3-0 ตกรอบรองชนะเลิศแต่ “ปีศาจแดง” ก็ยังสามารถที่จะไปเก็บแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นรางวัลปลอบใจได้สำเร็จผลงานส่วนตัวของ รูนี่ย์ เองนั้นก็ไม่ธรรมดาโดยลงสนามไป 55 นัด ในทุกรายการซัดไป 23 ประตู 

คว้าแชมป์มากมายกับทีม

ในซีซั่นต่อมาปี 2007-2008 เป็น 1 ในปีทองของ “ปีศาจแดง” เนื่องจากมี 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง เวย์น รูนี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คาร์ลอส เตเบซ ซึ่งทั้ง 3 คนไล่ถล่มประตูคู่แข่งอย่างเละเทะจนสามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้สำเร็จแม้ว่าจะต้องไปตัดสินถึงนัดที่ 38 หรือ นัดสุดท้ายก็ตามแต่ผลงานที่ดีกว่านั้นคือการกลับมาสู่รอบชิงชนะเลิศในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อีกครั้งโดยคู่แข่งในนัดชิงเกมนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลนั้นก็คือ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี นั้นเองแม้ว่าเกมนั้นจะได้ลงเป็นตัวจริงแต่ก็ถูกถอดออกไปในช่วง 120 นาที แต่ก็ยังพาทีมประกาศสักดาคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นครั้งที่ 3 ของ สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซีซั่นนั้น 

ตำนานตัวจริงอห่งปีศาจแดง

แต่แน่นอนว่าช่วงเวลาของนักกีฬามันจะมีช่วงอายุของมันอยู่แล้ว และเวลาของ เวย์น รูนี่ย์ กับ “ปีศาจแดง” ก็มาถึงเมื่อเขาเริ่มกลายเป็นตัวสำรองในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ และมักจะได้รับบทบาทแปลกๆ มากขึ้นไม่ว่าจะเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวตัดเกมหรือเพลย์เมคเกอร์ ตัวทำเกมซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เจ้าตัวทำได้ดี แต่ในสายเลือดนักฟุตบอลเมื่อโค้ชสั่งแล้วก็มีหน้าที่แค่ลงไปทำให้ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2004 ถึงปีที่สุดท้ายค้าแข้งกับ “ปีศาจแดง” เจ้าของฉายา “สุกรโลกันต์” ทำผลงานได้น่าประทับใจที่สุดคนหนึ่งและถูกยกให้เป็นตำนานของสโมสรเป็นที่เรียบร้อยโดยสถิติตลอดเวลาที่รับใช้สโมสร 553 เกม ซัดประตูไป 253 ประตู และขึ้นเป็นดาวซัลโวเบอร์ 1 ตลอดกาลของสโมสรทำลายสถิติของตำนานยุค 60 อย่าง เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ที่ทำไว้ 249 ประตูลงได้ 

ย้ายกลับสู่ทอฟฟี่สีน้ำเงิน

หลังจากเริ่มมีสายเลือดใหม่ขึ้นมา “ปีศาจแดง” จึงอนุญาติให้ตำนานเบอร์ 10 ของทีมย้ายทีมได้เจ้าตัวก็ได้ย้ายกับบ้านหลังแรกของเขาอย่างรัง กูดิสัน พาร์ค ของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน”เอฟเวอร์ตัน ด้วยสัญญา 2 ปีซึ่งการกลับมาในครั้งนี้อาจจะไม่มีผลในเรื่องของการแข่งขันในสนามแต่มีผลด้านกำลังใจของทีม และแฟนบอลตัวยงที่ยังรักและคิดถึงแข้งรายนี้อยู่เสมอก็หลั่งไหลกันเข้ามาชมเกมในรังเหย้ามากขึ้นเพื่อจะได้เห็นดาวรุ่งของทีมในอดีตลงเล่นอีกครั้งซึ่งผลงานกับ “ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน” ไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่นักลงสนามไป 40 นัดและยิงได้ 11 ประตู 

ย้ายไปโกยเงินดอลลาร์ที่สหรัฐ

รูนี่ย์ กับประเทศ สหรัฐอเมริกา โดยปกติอาจจะเป็นเพียงแค่การมาพักร้อนหรือมาแข่งเกมอุ่นเครื่อง แต่ในช่วงซัมเมอร์ 2018 มันกลับกลายเป็นงานของเขาเนื่องจากเจ้าตัวเลือกที่จะมาเซ็นสัญญาซบทีม ดีซี ยูไนเต็ด ที่นี้ด้วยสัญญา 3 ปี 6 เดือน พร้อมกับใส่เสื้อหมายเลย 9 ลงสนามและเพียงไม่นานที่ย้ายมาเจ้าตัวก็สร้างสตอรี่กับยอดทีมในแดน มะกัน ไว้อย่างมากมายโดย 1  ในเหตุการณ์ที่แฟนบอลจำไม่ลืมคือการที่เสมอกับ ออแลนโด้ อยู่ 2-2 และผู้เล่นของดีซีดันขึ้นไปลุ้นทำประตูหมดรวมถึงผู้รักษาประตูด้วยและจากนั้นก็ถูกส่วนกลับและเหลือเพียงศูนย์หน้าคู่แข่งลูกบอล และก้นตาข่ายระยะห่างเพียงแค่ 50 หลา ดาวเตะออแลนโด้ควบมาแต่ไกลและเห็นว่ามีคนวิ่งตามมานั้นคือเบอร์ 9 ของ ดีซี แต่เขาถูกเตะสกัดเอาไว้ได้หลังจากนั้น รูนี่ย์ ควบบอลกลับมา ก่อนจะเปิดเข้าไปให้เพื่อนร่วมทีมโหม่งประตู ตีเสมอได้ในช่วงนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บ และ จบเกมด้วยสกอร์ 3-2 ทำให้แฟนบอล ดีซี ยิ่ง หลงรัก แข้งเมืองผู้ดีรายนี้เป็นอย่างมาก โดยอยู่กับ ดีซี 2 ซีซั่น ลงสนามไป 52 นัด ทำได้ 25 ประตู 

ชีวิตช่วงปลายอาชีพ

หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจกับ ดีซี ยูไนเต็ด ในช่วงปี 2020 ตำนานเบอร์ 10 รายนี้ก็ได้ย้ายกลับมาร่วมทัพกับทีมในบ้านเกิดโดยลงสนามรับใช้ “แกะเขาเหล็ก”ดาร์บี้ ไป 30 นัด ในทุกรายการซัดไป 6 ประตู ซึ่งส่วนใหญ่มักจะอยู่บนม้านั่งสำรองในช่วงหลัง และไม่นานมานี้กุนซือของ ดาร์บี้ อย่าง ฟิลลิป โคคู ก็ถูกไล่ออกหลังผลงานในซีซั่นนี้ย่ำแย่ขั้นสุดก่อนที่จะดันเอา รูนี่ย์ ขึ้นนั่งกุมบังเหียน และทำให้ดาวเตะรายนี้ตัดสินใจยุติเส้นทางค้าแข้งไว้เท่านี้ และเริ่มเดินหน้าสู่สายงานกุนซือเต็มตัวแล้ว 

ติดตามประวัตินักฟุตบอลเพิ่มเติม :: ประวัตินักฟุตบอล

ขอขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล : wikipedia

Instagram  : waynerooney

Twitter : @WayneRooney