fbpx

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

     กลายเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่มีค่าตัวแตะหลัก 100 ล้านยูโรสำหรับ จู๊ด เบลลิ่งแฮม กองกลางดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ที่เปิดตัวเป็นแข้งใหม่ของ เรอัล มาดริด พร้อมสวมเสื้อเบอร์ 5 สานต่อตำนานของ ซีเนอดีน ซีดาน การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ ที่น่าจะยากที่สุดในเส้นทางของมิดฟิลด์วัย 19 ปี เพราะการเล่นให้กับทีม “ราชันชุดขาว” ที่เต็มไปด้วยสตาร์ดังมากมาย ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะ “สอบผ่าน” ได้แบบราบรื่น

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

     เอแด็น อาซาร์ คือตัวอย่างชั้นดี ย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวระดับ 100 ล้านยูโรเหมือนกัน แต่ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ถูกยกเลิกสัญญาไปแล้วหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งนี้อดีตสตาร์ของ ดอร์ทมุนด์ นับเป็นผู้เล่นเชื้อสายผู้ดีคนที่ 6 ที่ย้ายมาค้าแข้งในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ซึ่งรุ่นพี่ก่อนหน้านี้มีใครกันบ้าง แล้วผลงานของแต่ละคนเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมาย้อนอดีตเล่าให้ฟังกันครับ

ลอรี่ คันนิ่งแฮม

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

     คันนิ่งแฮม เป็นผู้เล่นอังกฤษ คนแรกที่ได้เล่นให้กับ เรอัล มาดริด หลังย้ายจาก เวสต์ บรอมวิช มาร่วมทีมในปี 1979 เจ้าของฉายา “ไข่มุกดำ” แห่งมาดริด เป็นปีกที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยสปีดที่รวดเร็วและการทำประตูที่เฉียบคม คัมนิ่งแฮม เบิ้ล 2 ประตูในเกมเปิดตัว และช่วยให้ “ราชันชุดขาว” คว้าดับเบิ้ลแชมป์ทั้งบอลลีกและบอลถ้วยตั้งแต่ซีซั่นแรกในสเปน

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

     อย่างไรก็ตามด้วยอาการบาดเจ็บที่บ่อยครั้ง และความเพลย์บอยที่เอาแต่เที่ยวกลางคืน ทำให้เจ้าตัวต้องย้ายออกจาก “ราชันชุดขาว” ในปี 1983 และมาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ในอีก 6 ปีต่อมา ซึ่งตอนนี้เขาอายุเพียง 33 ปีเท่านั้น

สตีฟ แม็คมานามาน

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

     “แม็คก้า” ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด แบบไร้ค่าตัวในปี 1999 หลังสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองเป็นหนึ่งในปีกที่มีการเลี้ยงบอลที่พลิ้วไหวสวยงามกับทาง ลิเวอร์พูล และทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ที่สร้างทีมในระบบ 5-3-2 แม็คมานามาน กลายเป็นตัวหลักในแดนกลาง เป็นคนยิงประตูพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังเอาชนะ บาเลนเซีย แบบขาดลอย 3-0

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

     อย่างไรก็ตามการย้ายเข้ามาของ หลุยส์ ฟิโก้ ทำให้โอกาสลงสนามของ แม็คมานามาน ลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ และในที่สุดก็ตัดสินใจย้ายกลับมาเล่นในอังกฤษ กับ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2003 และแขวนสตั๊ดกับทีม “เรือใบสีฟ้า” ในอีก 2 ปีต่อมา

เดวิด เบ็คแฮม

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

     ในยุคที่ เรอัล มาดริด สร้างทีมด้วยการระดมดึงดาวดังมาอย่างมากมาย หรือที่รู้จักกันในนาม “กาลาติกอส” เบ็คแฮม ก็เป็นหนึ่งในนักเตะชุดดังกล่าวหลังย้ายจาก แมนฯ ยูไนเต็ด มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ในปี 2003 การมาถึงของเขาเพิ่มยอดขายเสื้อของทีม “ราชันชุดขาว” ได้อย่างมากมาย แต่น่าเสียดายที่กัปตันทีมชาติอังกฤษ ในตอนนั้นไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ ได้เลยใน 3 ปีแรกที่ค้าแข้งในสเปน

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

     ในยุคของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ดาวเตะหมายเลข 23 อาจมีเวลาในสนามลดลง แต่เจ้าตัวก็ต่อสู้จนกับมาสู่ทีมชุดใหญ่ และเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ “ราชันชุดขาว” คว้าแชมป์ลา ลีกา สเปน ในซีซั่นนั้นจนได้ รวมๆ แล้ว เบ็คแฮม ยิงไป 20 ประตูจากการลงเล่น 155 นัด ก่อนย้ายไป แอลเอ แกแล็คซี่ ในปี 2007

ไมเคิ่ล โอเว่น

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

     “เบบี้โกล์” เป็นอีกหนึ่งสตาร์ของ ลิเวอร์พูล ที่เลือกย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด ในปี 2004 ในยุค “กาลาติกอส” เช่นเดียวกับ โรนัลโด้, ราอูล, ซีเนอดีน ซีดาน, หลุยส์ ฟิโก้, โรแบร์โต้ คาร์ลอส และเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษ อย่าง เดวิด เบ็คแฮม อย่างไรก็ตาม โอเว่น อยู่ค้าแข้งในซานติอาโก้ เบอร์นาเบว เพียงฤดูกาลเดียว หลังตกเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง และถูกสื่อสเปน วิจารณ์ว่ามีผลงานที่ไม่ดีนัก ทั้งๆ ที่ยิงได้ถึง 16 ประตูจากการลงสนาม 45 นัดนั้นก็ไม่ได้ดูแย่เลย

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

     “ฟังดูแปลกและอาจเป็นเหมือนผู้แพ้ เกือบจะทันทีที่ผมมาถึงสเปน ผมรู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าเวลาที่มีอยู่กำลังสั้นลง” โอเว่น ที่ย้ายไปอยู่ นิวคาสเซิ่ล ภายหลังได้เขียนหนังสืออัตชีวประวัติเรื่อง Reboot – My Life, My Time หลังแขวนสตั๊ด

โจนาธาน วู้ดเกต

จู๊ด คิวต่อไป : ย้อนรอย 5 แข้งผู้ดีในสีเสื้อชุดขาว

     ช่วงเวลาที่ วู้ดเกต อยู่กับ เรอัล มาดริด คือหายนะเลยก็ว่าได้ เพราะกว่าจะได้ลงสนามก็ต้องรอนานถึง 1 ปี หลังย้ายจาก นิวคาสเซิ่ล มาแบบสุดช็อก เจ้าตัวก็บาดเจ็บยาวทันที เพราะได้ประเดิมสนามก็เจอแจ็กพอร์ต เป็นการเปิดตัวที่เลวร้าย เพราะ วู้ดเกต ทำเข้าประตูตัวเอง แถมโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในเกมเจอกับ บิลเบา รวมๆ แล้วเจ้าตัวลงเล่นเพียง 14 นัดตลอดระยะเวลา 2 ปีในสเปน ในปี 2007 วู้ดเกต ถูกโหวตเป็นการเซ็นสัญญาที่แย่ที่สุดของลา ลีกา สเปน ในศตวรรษที่ 21 จากผู้อ่านของ มาร์ก้า หนังสือพิมพ์กีฬารายวันชื่อดังแดนกระทิงดุ

คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ฟุตบอลคอนเทนต์

ติดตามผลบอลสดเพิ่มเติม :: liverscore888th

ติดตามบทวิเคราะห์บอลเพิ่มเติม :: วิเคราะห์บอลวันนี้