5 เจ้าของสโมสรฟุตบอลที่รวยที่สุดในโลก
5 เจ้าของสโมสรฟุตบอลที่รวยที่สุดในโลก
ในโลกปัจจุบันกีฬาฟุตบอลมันไม่ใช่กีฬาอีกต่อไปแต่มันมีคำว่าธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ด้วย ด้วยความที่กีฬาฟุตบอลได้รับการยอมรับว่าเป็นกีฬายอดมหานิยมบนโลกของเราการันตีด้วยตัวเลขแฟนบอลกว่า 4 พันล้านคนทั่วโลกที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล ด้วยความนิยมตรงนี้แหละทำให้กลุ่มนายทุนผู้เป็นมหาเศรษฐีบนโลกของเราได้เห็นช่องทางรวยจากฟุตบอล ทำให้พวกเขานั้นยกโขยงเข้ามาจับจองทีมฟุตบอลที่น่าสนใจและน่าจะสามารถทำกำไรให้พวกเขาได้ในอนาคต วันนี้ทางเพจ Singsanam จะพาท่านผู้อ่านไปดูกันว่า 5 เจ้าของสโมสรฟุตบอลที่รวยที่สุดในโลกจะมีใครกันบ้างไปดูกัน
5. ดีทมาร์ ฮอปป์ (ฮอฟเฟ่นไฮม์)
-รายได้สุทธิ : 18.5 พันล้านดอลลาร์
ดีทมาร์ ฮอปป์ เป็นมหาเศรษฐีชาวเยอรมันและเขานั้นยังเป็นผู้บริหารของบริษัทด้านซอฟต์แวร์ชื่อดังของเยอรมันอย่าง SAP อีกด้วย ฮอปป์ อยู่ในรายชื่ออันดับที่ 72 ของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกประจำปี 2020 ของนิตยสาร Forbes และเขานั้นยังติดมาเป็นอันดับที่ 8 ที่เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในเยอรมนี ฮอปป์ เกิดในช่วงเดือนเมษายน ปี 1940 ที่เมืองฮอฟเฟ่นไฮม์ เมื่อเขาเรียนจบมัธยมปลาย ฮอปป์ เข้าศึกษาต่อในคณะวิศวกรรมโทรคมนาคมในเมืองคาร์ลสรูเฮอ จนเมื่อปี 1966 เขาได้ทำงานในตำแหน่งนักพัฒนาซอฟต์แวร์และที่ปรึกษาด้านระบบ IT ที่ IBM ก่อนที่เขานั้นจะลาออกจาก IBM และได้ชักชวนเพื่อนๆของเขาไปร่วมกันก่อตั้งบริษัทด้านซอฟต์แวรที่ชื่อว่า SAP ด้วยความที่ ฮอปป์ นั้นหลงใหลกีใฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กๆแล้วเมืองเกิดของเขานั้นก็มีสโมสรชื่อดังอย่าง ฮอฟเฟ่นไฮม์ ทำให้เขานั้นได้ตัดสินใจซื้อหุ้นด้วยจำนวนเงินมหาสารเพื่อเข้าเทคโอเวอร์ทีม ฮอฟเฟ่นไฮม์
4. อันเดรีย อันเญลลี่ และครอบครัว (ยูเวนตุส)
-รายได้สุทธิ : 19.1 พันล้านดอลลาร์
อันเญลลี่ เกิดเมื่อวันที่ 6 ธันวามคม 1975 เขาเป็น 1 ในนักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ที่ประสพความสำเร็จมากที่สุดของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ด้วยความที่ครอบครัว อันเญลลี่ เป็นประธานสดมสร ยูเวนตุส ตั้งแต่ปี 1955 ถึง 1962 พอคุณพ่อของเขาได้วางมือลง อันเญลลี่ เลยขึ้นมารับช่วงต่อในหน้าที่นี้ทันที
3. ดีทริช มาเดชิตซ์ (เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก, แอร์เบ ไลป์ซิก และ นิวยอร์ค เร้ดบูลล์ส)
-รายได้สุทธิ : 26.9 พันล้านดอลลาร์
ดีทริช มาเดชิตซ์ เขาเป็นเศรษฐีชาวออสเตรีย เริ่มแรกเขาเริ่มเรียนที่คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยเวียนนา เขาเรียนจบตอนที่เขามีอายุ 28 ปี หลังจากเรียนจบเขาได้เข้าไปทำงานที่บริษัท Blendax ซึ่งเป็นบรฺษัทด้านการผลิตเครื่องสำอางชื่อดังของประเทศเยอรมนี หลังจากนั้นเขาได้ออกจาก Blendax แล้วเข้าไปซื้อสโมสรฟุตบอลอย่าง เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก, แอร์เบ ไลป์ซิก และ นิวยอร์ค เร้ดบูลล์ส ปัจจุบันเขาอายุ 78 ปีแล้วแต่เขาก็ยังเป็นเจ้าของ 3 สโมสรชื่อดังนี้อยู่
2. ชีค มานซูร์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เมลเบิร์น ซิตี้, นิวยอร์ก ซิตี้ และ มุมไบ ซิตี้ เอฟซี)
-รายได้สุทธิ : 30 พันล้านดอลลาร์
ชีค มานซูร์ เขาเป็นรองนายกรัฐมนตรีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในหลายบริษัทชื่อดังในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ชีค มานซูร์ ได้เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2008 แล้วได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างใน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากมายทำให้ทีม มนเชศเตอร์ ซิตี้ นั่นจากตอนแรกเป็นทีมธรรมดาที่ไม่ค่อยมีถ้วยรางวัลอะไรมาประดับตู้ในสโมสร แต่ตั้งแต่ ชีค มานซูร์ เข้ามา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือพวกเขากลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งคว้าแชมป์มากมายในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้และในปีล่าสุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้คว้าทริปเปิลแชมป์เป็นครั้งแรกในสโมสรได้แก่ เอฟเอ คัพ พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ถือว่าเป็นสโมสรที่ทำได้ต่อจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอริร่วมเมืองนั่นเอง
1. โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด)
-รายได้สุทธิ : 320 พันล้านดอลลาร์
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครไม่รู้จักเขาแน่นอนสำหรับชื่อของ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เศรษฐีชาวซาอุดิอาระเบีย ที่เขานั้นอยู่ในกลุ่มผู้บริหารของกองทุนความมั่งคั่งแห่งซาอุดิอาระเบีย บิน ซัลมาน เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เมื่อช่วงปี 2021 การเข้ามาของเขาทำให้ นิวคาสเซิล ได้เปลี่ยนไปคนละทีมเลยด้วยความที่มีเงินในการซื้อผู้เล่นมากมายแต่พวกเขานั้นก็ซื้อผู้เล่นมาอย่างชาญฉลาด ไม่บ้าคลั่งทุ่มซื้อด้วยเงินก้อนโตขนาดนั้นแต่เป็นการเลือกนักเตะที่น่าจะเข้ากับระบบการเล่นของทีมอย่างพิถีพิถัน พวกเขามีทุ่มซื้อกับนักเตะบางคนก็จริงแต่นักเตะเหล่านั้นได้แสดงผลงานออกมาแล้วว่าพวกเขาเล่นได้คุ้มค่ากับที่ทาง นิวคาสเซิล ได้จ่ายไป ด้วยฟอร์มการเล่นแบบนี้ทำให้ นิวคาสเซิล จากทีมที่มีผลงานไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน เป็นทีมที่ต้องหนีตกชั้นทุกฤดูกาล แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นทีมระดับท็อปของพรีเมียร์ลีกไปแล้ว เมื่อฤดูกาลที่แล้ว นิวคาสเซิล จบอันดับที่ 4 ของตารางทำให้พวกเขาได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติและนั่นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปีที่ นิวคาสเซิล ได้กลับไปเล่นในรายการถ้วยหูใหญ่อีกครั้ง
คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ฟุตบอลคอนเทนต์
ติดตามผลบอลสดเพิ่มเติม :: liverscore888th
ติดตามบทวิเคราะห์บอลเพิ่มเติม :: วิเคราะห์บอลวันนี้