5 กุนซือที่ได้ค่าชดเชยแพงที่สุดในโลก
5 กุนซือที่ได้ค่าชดเชยแพงที่สุดในโลก
อาชีพกุนซือฟุตบอลคือสายงานที่อยู่บนความเสี่ยงตลอดเวลา และอนาคตไม่แน่นอน ไม่อาจมีอะไรการันตีได้ว่าคุณจะอยู่ในบัลลังก์ตรงนั้นได้นานขนาดไหน ผลงานแย่ก็ตกงานกันไปตามระเบียบ หรือบางทีผลงานไม่ได้ดำดิ่งแถมยังได้ลุ้นแชมป์ก็โดนตะเพิดออกจากตำแหน่งก็มีมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ยกตัวอย่างเคสล่าสุดอย่าง เกรแฮม พ็อตเตอร์ ที่กลายเป็นบุคคลตกงานไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ทว่าในอีกมุมคงเป็นมนุษย์ตกงานที่น่าอิจฉาพอสมควร เพราะได้เงินชดเชยก้อนโตมาใช้แบบสบายๆ
ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่า พ็อตเตอร์ ได้รับค่าชดเชยจาก เชลซี มากถึง 50 ล้านปอนด์ ถามระยะสัญญาที่เซ็นไว้กับทีม ก่อนที่ล่าสุดสื่อใหญ่อย่าง เดอะ การ์เดี้ยน ได้ออกมาดับเทียนเรื่องดังกล่าว พร้อมบอกว่านายใหญ่ชาวอังกฤษรับเงินจากทัพ สิงห์บลูส์ ราว 13 ล้านปอนด์ เท่านั้น แน่นอนว่าเงินจำนวนดังกล่าวมันเยอะพอสมควร แต่มันยังมีกุนซืออีกหลายคนที่ได้ค่าชดเชยมากกว่านี้ ในชนิดที่เรียกได้ว่าใช้กันแบบไม่หมดไม่สิ้น และวันนี้เราจะพาไปยลโฉม 5 กุนซือในโลกลูกหนังที่ได้รับค่าชดเชยจากการถูกไล่ออกมากสุด ซึ่งจะมีใครกันบ้างไปติดตามกันได้เลย
*** ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าข้อมูลเรื่องของตัวเลขอ้างอิงจากการรายงานของสื่อใหญ่อย่าง เดอะ การ์เดี้ยน ***
อันดับ 5 - โชเซ่ มูรินโญ่ (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2019 ถือว่าเซอร์ไพรส์พอสมควรที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เลือกที่จะเข้ามารับงานคุมทัพ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพราะจะว่าไปนี่คือโค้ชโปรไฟล์ดีที่สุดคนหนึ่งที่ทีมดึงตัวเข้ามากุมบังเหียน โอเคแหละว่า มูรินโญ่ อาจเสียเครดิตไปหน่อยช่วงปลายๆ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะเรื่องของผลงาน และความสัมพันธ์กับลูกทีม แต่ในเรื่องประสบการณ์ และความสำเร็จน่าจะทำให้แฟนบอลฝันหวานไปถึงการคว้าแชมป์มาครอง ตามสไตล์ น้ามู ที่มักมีโทรฝีติดมือเมื่อโยกย้ายไปทำงานที่ไหน
ซึ่งผลงานของ มูรินโญ่ ก็มีดีมีแย่ปะปนกันไปตลอดเส้นทางกับทัพ ไก่เดือยทอง ก่อนนำมาซึ่งการปลดออกจากตำแหน่งในช่วงปลายฤดูกาล 2020-21 และเกิดก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ ลีก คัพ ที่จะดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงไม่นาน จนเกิดกระแสวิจารณ์จากแฟนบอลต่อบอร์ดบริหารที่เดินหมากผิดพลาดเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยสุดท้ายทีมเป็นฝ่ายอกหักพลาดแชมป์ไป
จากการโดนปลดในครั้งนั้น มูรินโญ่ ได้รับเงินชดเชยมากถึง 16 ล้านปอนด์ ก่อนที่เจ้าตัวจะไปรับงานคุมทัพ โรม่า พร้อมสอยแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ ลีก มาครองเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
อันดับ 4 - โลร็องต์ บล็องก์ (เปแอสเช)
หนึ่งในกุนซือที่พา เปแอสเช ประสบความสำเร็จมากที่สุด แม้จะคุมทีมได้ราว 3 ฤดูกาลนับตั้งแต่ปี 2013-2016 โปรไฟล์ของ บล็องก์ ก่อนเข้ามารับงานในเมืองหลวงแดนน้ำหอมถือว่าไม่ธรรมดา เคยพา บอร์กโดซ์ ซิวแชมป์ลีก เอิง มาได้ 1 สมัย บวกกับบอลถ้วยอีก 3 ครั้ง ส่วนกับ เปแอสเช เจ้าตัวพาทีมสอยแชมป์รวมทั้งหมด 11 ครั้ง ไฮไลท์คือแชมป์ลีก เอิง 3 สมัย ติดต่อกัน ทว่าจุดแตกหักที่ทำให้ต้องแยกทางคือผลงานในเวทียุโรปอย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก เพราะนี่คือเป้าหมายสูงสุดของบอร์ดบริหาร
3 ซีซั่นของ บล็องก์ พาทีมไปได้ไกลสุดในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก แค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้นเรียกได้ว่าไม่ขยับเข้าใกล้เลยสักนิด ก่อนที่จะแยกทางกันไปพร้อมเงินค่าชดเชยจำนวน 17 ล้านปอนด์ซึ่งแม้การปลด บล็องก์ ในวันนั้นเพราะเหตุผลคือไม่อาจพาทีมครองแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก นับมาจนถึงตอนนี้ เปแอสเช ก็ยังคงไปไม่ถึงฝันในการเอื้อมมือไปหยิบโทรฟี่ดังกล่าวเหมือนดังเดิม
อันดับ 3 - โชเซ่ มูรินโญ่ (เชลซี)
เหตุการณ์ครั้งนี้ของ มูรินโญ่ อาจต้องย้อนความไปไกลหน่อยคือเมื่อปี 2007 หรือการรับงานคุมทัพ เชลซี ภาคแรก พร้อมผลงานที่ร้อนแรงสามารถโค่นทีมยักษ์ใหญ่ในชั่วโมงนั้นอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด หรือ อาร์เซน่อล ได้แบบราบคาบ น้ามู ในตอนนั้นถือว่าเป็นโค้ชหนุ่มไฟแรงที่ฝีปากกล้ามากที่สุดคนหนึ่งของวงการ จากความสำเร็จที่เสกแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ ปอร์โต้ ก่อนต่อยอดพาทัพ สิงห์บลูส์ ประสบความสำเร็จได้อย่างมากมาย พร้อมสร้างสถิติไม่แพ้ใครในบ้านมากถึง 64 เกมติดต่อกัน
ทว่าก็เกิดเรื่องเซอร์ไพรส์ขึ้นหลังจบเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เชลซี ได้มีการประกาศแยกทางกับ มูรินโญ่ แบบฟ้าผ่า ส่วนหนึ่งเพราะปัญหาที่ขัดใจ และขัดแย้งกับเจ้าของทีมอย่าง โรมัน อบราโมวิช ซึ่งในตอนนั้น มูรินโญ่ ได้รับค่าชดเชยจากการถูกปลดสูงถึง 18 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่ามากเหลือเกินกับช่วงเวลาเมื่อราว 16 ปีก่อน และหลังจากนั้น The special one ก็ตระเวนคุมไปอีกหลายสโมสร พร้อมคว้าความสำเร็จมากมายมาเชยชม
แน่นอนว่านับจนมาถึงตอนนี้ มูรินโญ่ ยังคงเป็นที่รักของแฟนบอล เชลซี หลายๆ คน เพราะจากความสำเร็จที่รังสรรค์เอาไว้ให้นั้นมันมีคุณค่า และเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของสโมสร
อันดับ 2 - โชเซ่ มูรินโญ่ (แมนฯ ยูไนเต็ด)
เป็นอีกครั้งที่ชื่อของ มูรินโญ่ เข้ามาติดโผเป็นท็อปไฟส์ของกุนซือที่ได้รับค่าชดเชยมากที่สุดตลอดกาล ซึ่งครั้งนี้เปลี่ยนสีเสื้อมาอยู่ในยูนิฟอร์มของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชีวิตของ น้ามู ในถิ่นโอลดื แทรฟฟอร์ด ต้องบอกว่าเริ่มต้นด้วยความสวยงามไม่น้อยพาทีมสอยแชมป์ทั้ง ยูโรปา ลีก กับ ลีก คัพ เป็นกุนซือคนแรกของทัพ ปีศาจแดง ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาคุมทีม
ทว่าหลังจากนั้นเหมือนมีพายุลูกใหญ่เข้ามาถาโถม ประเด็นขัดแย้งกับบอร์ดบริหารเรื่องของซื้อตัวผู้เล่น ลิสต์รายชื่อที่อยากได้ ทว่ากลับไม่ได้รับการอนุมัติ หรือเรียกง่ายๆ ว่าไม่ได้เสริมทัพตามใจต้องการ มูรินโญ่ อยากได้เซ็นเตอร์ฮาร์ฟก็ไม่ได้ จนสุดท้ายผลงานเริ่มดร็อปลงเรื่อยๆ
อีกส่วนหนึ่งของปัญหาคือเรื่องของแท็คติกที่เน้นรับเป็นพิเศษ แน่นอนว่ามันไม่ถูกจริตแฟนบอล และ DNA ความเป็น ปีศาจแดง และยิ่งมีปัญหากับนักเตะ มีกลุ่มนักเตะที่เริ่มต่อต้านนำขบวนมาโดย ปอล ป็อกบา ทำให้เจ้าตัวเสียการควบคุมห้องแต่งตัวไป จนทำมาซึ่งการแยกทางกันในที่สุด ในเรื่องเงินค่าชดเชย แมนฯ ยูไนเต็ด ควักกระเป๋าจ่ายให้ มูรินโญ่ ไปถึง 19.6 ล้านปอนด์ มากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
ส่วนนอกจากความทรงจำเรื่องการพาทีมคว้าแชมป์แล้ว หนึ่งความภาคภูมิใจของ มูรินโญ่ คือการพา ยูไนเต็ด จบอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2017-18 ตอนนั้นเสียงสนั่นฮือฮากันเหลือเกินเมื่อเจ้าตัวพ่นคำสัมภาษณ์ออกมา ทว่าเวลาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสิ่งที่ มูรินโญ่ พูดออกมานั้นมันสมเหตุสมผลดีเหลือเกิน
อันดับ 1 - อันโตนิโอ คอนเต้ (เชลซี)
เดินทางมาถึงอันดับ 1 กับกุนซือที่ได้รับชดเชยแพงที่สุดในโลก และคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อันโตนิโอ คอนเต้ กับการโดนตะเพิดออกจากตำแหน่งสมัยอยู่กับ เชลซี คอนเต้ ขึ้นชื่อเรื่องของความเฮี้ยบในการคุมทีมอยู่แล้ว และการมาอยู่กับทัพ สิงห์บลูส์ สิ่งที่เจ้าตัวต้องเร่งปรับแก้ไขคือระเบียบวินัย และแท็คติกต่างๆ จนนำมาซึ่งการปรับมาเล่นในรุปแบบปราการ 3 คน ก่อนนำมาซึ่งความสำเร็จอย่างแชมป์พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ซีซั่นแรกที่คุมทีม
ทว่าหลังจากนั้นปัญหาเริ่มบังเกิดขึ้นเรื่อยๆ งัดกับบอร์ดบริหารเรื่องการทำงาน ไม่พอใจที่ถูกแทรกแซงการซื้อตัว รวมไปถึงทะเลาะกับลูกทีมอย่าง ดิเอโก้ คอสต้า จนนักเตะต้องหนีไปอยู่ที่บราซิล เพราะไปส่งข้อความว่าไม่อยู่ในแผนการทำทีม แทนที่จะเรียกมาคุยกันแบบต่อหน้า
แต่อย่างไรก็ตาม 2 ฤดูกาลกับ เชลซี นายใหญ่รายนี้สอยทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ มาครอง แม้จะจบไม่สวย แต่ผลงานถือว่าไม่ขี้เหร่เลยสักนิด ส่วนตัวเลขค่าชดเชย คอนเต้ ได้รับมากถึง 26.6 ล้านปอนด์ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะขึ้นแท่นเบอร์ 1 ครองสถิตินี้ไปอีกนาน
คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ฟุตบอลคอนเทนต์
รับชมฟุตบอลออนไลน์ :: ดูบอลสด
ติดตามบทวิเคราะห์บอลเพิ่มเติม :: วิเคราะห์บอลวันนี้