อารอน แรมส์เดล : จากดินสู่ดาว ที่ใช้ผลงานตอบแทนทุกสิ่ง
อารอน แรมส์เดล : จากดินสู่ดาว ที่ใช้ผลงานตอบแทนทุกสิ่ง
บ่อยครั้งอาชีพนักฟุตบอลมักถูกตีตรา และตั้งคำถามมากมายถึงเรื่องของผลงาน ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นเลยว่ามีดีมากพอขนาดไหนจะด้วยผลงานในอดีต โปรไฟล์ที่ผ่านมา หรือจากถ้อยคำของคนอื่น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักเตะอาชีพหลายๆ คน ไม่เว้นแม้กระทั่ง อารอน แรมส์เดล ย้อนกลับไปเมื่อซัมเมอร์ 2021 เกิดเสียงวิจารณ์มากมายเมื่อ อาร์เซน่อล ภายใต้การทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ยอมระเบิดคลังทุ่มงบมากถึง 30 ล้านปอนด์ ซื้อตัวนายทวารที่ชื่อเสียงไม่ได้อยู่แถวหน้า แถมเพิ่งตกชั้นกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไปก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน
ทว่าก็อย่างที่กล่าวไปแหละครับ อย่าเพิ่งตัดสินเพียงเพราะปัจจัยภายนอก ให้เวลาเป็นตัวชี้แจงทุกอย่างด้วยตัวเอง จากวันนั้นจนถึงวันนี้แฟนบอล ปืนใหญ่ คงโค้งหัวขอโทษในถ้อยคำที่ดูแคลนเขาไว้ไม่น้อยซึ่งที่ร่ายมาทั้งหมดเราจะไปพูดถึงชีวิตลูกหนังของนายด่านผู้นี้ที่เมื่อ 2 ปีก่อนยังคงเป็นนายด่านโปรไฟล์ต่ำ ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นดาวจรัสแสงในทุกวันนี้พาทีมตกชั้นถึง 2 ครั้ง
เริ่มต้นที่บอร์นมัธ
ชื่อของ อารอน แรมส์เดล เริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนบอลมากขึ้นในช่วงที่ก้าวขึ้นมาเป็นนายด่านมือ 1 กับ บอร์นมัธ เมื่อฤดูกาล 2019-20 เจ้าตัวลงเล่นในเกมลีกไปทั้งหมด 37 เกม ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเก็บคลีนชีตไปได้เพียง 5 นัดเท่านั้่น พร้อมเสียไปมากถึง 62 ตุง แน่นอนว่ามันคือเรื่องเข้าใจได้ เพราะการอยู่กับทีมโซนท้ายตาราง ย่อมโดนคู่แข่งทะลุเละเทะเป็นธรรมดา ก่อนที่ทีมจะร่วงตกชั้นด้วยการจบอันดับ 18 ของตาราง
ย้ายทีมใหม่แต่ก็ยังตกชั้นอีก
ซัมเมอร์หลังจบปีนั้น แรมส์เดล ยังคงได้โลดแล่นในพรีเมียร์ลีกต่อไป เพราะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดจัดการดึงตัวมาร่วมทีม ก่อนมอบตำแหน่งมือ 1 ให้ทันทีแต่สุดท้ายก็จบลงอีหรอบเดิมคือการตกชั้นเก็บคลีนชีตได้ 5 นัด จาก 38 เกมที่ลงสนาม แต่สถิติที่น่าสนใจคือเจ้าตัวคือนายด่านที่เซฟประตูได้มากที่สุดในลีกที่จำนวน 147 ครั้ง เป็นรองเพียง แซม จอห์นสโตน คนเดียวเท่านั้น
ด้วยผลงานโดยรวมของทีมอาจไม่สวยงามนัก แต่สถิติส่วนตัวของ แรมส์เดล ถือว่าไม่ธรรมดา และน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ อาร์เซน่อล ยอมทุ่มเงินจำนวนมหาศาลกับตำแหน่งผู้รักษาประตูในการดึงตัวมาเฝ้าเสา
แฟน ปืนใหญ่ ไม่ยอมรับ
อย่างที่กล่าวไปว่าด้วยโปรไฟล์ของ แรมส์เดล คือการตกชั้นติดต่อกันถึง 2 ซีซั่น ช่วงที่มีข่าวว่า อาร์เซน่อล สนใจอยากได้ตัว บวกกับกระแสข่าวเริ่มประโคมหนักขึ้นว่าดีลนี้ทุกอย่างใกล้เสร็จสมบูรณ์ จนเป็นที่มาของกองทัพนักโซเชียลที่ถล่มอย่างหนักแฟนบอลทัพ ปืนใหญ่ บางกลุ่มเข้าไปถล่มในอินสตราแกรมของนักเตะว่าไม่คู่ควรต่อการย้ายมาสวมเครื่องแบบ อาร์เซน่อล บ้างก็บอกว่าให้ไสยหัวออกไปอย่าได้ย้ายมาเล่นกับพวกเขาที่หนักข้อเลยคือการด่าไปถึงบุพการี ซึ่ง แรมส์เดล ไม่ได้มีการออกมาตอบโต้แต่อย่างใด และเลือกที่จะปิดคอมเมนท์เหล่านั้นไปซะ แน่นอนว่าวิธีเดียวที่นายด่านรายนี้จะซื้อใจเหล่ากองเชียร์ได้คือผลงานในสนาม ซึ่งมันต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ และลบคำครหาต่างๆ ไปให้พ้นตัว
ผลงานตอบแทนทุกสิ่ง
ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล 2021-22 แรมส์เดล เป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น เนื่องด้วย แบรนด์ เลโน่ ยังคงได้รับความไว้วางใจในการเฝ้าเสา ทว่าผลงานไม่ค่อยสวยนักทีมแพ้ 3 เกมติดต่อกันทั้ง พ่าย เบรนท์ฟอร์ด 0-2, แพ้ เชลซี 0-2 และ โดน แมนฯ ซิตี้ ไล่โขยกใส่ 5-0 ซึ่งนั้นคือจุดเปลี่ยนที่ให้ อาร์เตต้า เปลี่ยนมาใช้งาน แรมส์เดล ตั้งแต่เกมลีกนัดที่ 4 จากนั้นก็สามารถยึดครองตัวจริงมาได้อย่างต่อเนื่อง จากสิ่งที่วิจารณ์ที่ถาโถม เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นคำชื่นชม จากผลงานการเซฟ และเหนียวหนึบมากเหลือเกินฤดูกาลดังกล่าว แรมส์เดล เก็บไปได้ 12 คลีนชีต จาก 34 เกมที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก บวกกับผลงานอันยอดเยี่ยมทำให้นึกย้อนไปถึงค่าตัว 30 ล้านปอนด์ ว่าคือการลงทุนที่รอวันเจริญงอกงามอย่างแท้จริง เจ้าตัวเริ่มตอบแทนทุกเพนนีให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
จังหวะโคตรซุปเปอร์เซฟ
จนกระทั่งถึงซีซั่นปัจจุบันจากคนที่ถูกชังกลายเป็นที่รักของเหล่า กูนเนอร์ 30 นัดเจ้าตัวเก็บคลีนชีตไปได้ 12 เกม พร้อมสถิติเซฟไปมากถึง 74 ครั้ง เฉลี่ยตกอยู่ที่เกมละ 2 ครั้ง จุดเด่นคือเรื่องปฏิกิริยาว่องไว ตัวอย่างชัดเจนคือเกมล่าสุดกับ ลิเวอร์พูล ถ้าไม่สุดปัญญาจริงๆ ก็คงจะกินพี่แกลำบากเหมือนกัน ส่วนในเว็บไซต์ whoscored เคยให้เรตติ้งสูงที่สุดคือ 8.5 ในเกมที่ทีมพบกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ โดยคะแนนส่วนมากของ แรมส์เดล มากกว่า 6 แทบทุกเกม มีต่ำกว่านั้นเพียง 5 นัด เท่านั้น ประกอบไปด้วยเกมที่เอาชนะ เลสเตอร์,แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ เบรนท์ฟอร์ด และอีก 2 นัดคือวันที่แพ้ แมนฯ ซิตี้ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงตรงนี้คงไม่มีใครสงสัยในฝีมือของเขาอีกแล้ว มีแต่เสียงชื่นชมที่ดังขึ้น ทว่าอีกจุดหมายที่เขายังไปไม่ถึงคือการยึดเป็นตัวเลือกเบอร์แรกกับทีมชาติอังกฤษ
แม้ฟอร์มดีแต่ก็ลงสนามให้ทีมชาติน้อยมาก
ที่ผ่านมา แรมส์เดล เพิ่งลงเล่นให้ทัพ สิงโตคำราม ไปเพียง 3 เกมเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับจำนวนที่ถูกเรียกตัวไปรับใช้ แต่เมื่อพิจารณาจากความสม่ำเสมอ และผลงานในสนามถ้า แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่ดื้อจนเกินไปโอกาสควรถูกหยิบยื่นมาให้ตัวเขาได้แล้ว
จากดินสู่ดาวดวงใหม่อย่างแท้จริง
จากนี้คือการไล่ล่าความสำเร็จกับ อาร์เซน่อล จากช่วงเวลา 2 ปี ก่อนหน้านี้คือการตกชั้น สู่การพลิกผันครั้งใหญ่ที่มีโอกาสเอื้อมมือคว้าความสำเร็จจากดินที่เปื้อนโคลนในวันนั้น สู่ดาวที่ใช้ผลงานในสนามตอกกลับคำวิจารณ์ทั้งหมด
คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ฟุตบอลคอนเทนต์
รับชมฟุตบอลออนไลน์ : ดูบอลสด
ติดตามบทวิเคราะห์บอลเพิ่มเติม : วิเคราะห์บอลวันนี้