fbpx

“กระทิงดุ” สเปน เกมนี้ต้องเหนื่อยถึงช่วงต่อเวาลาพิเศษ ก่อนเป็นพวกเขาเอาชนะ “ตาหมากรุก” โครเอเชีย ใน 120 นาที 5-3 ผ่านไปรอพบผู้ชนะคู่ระหว่าง ฝรั่งเศส-สวิส ต่อไป ในการแข่งขันศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา

 

ฟุตบอลยูโร2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
โครเอเชีย 3 – สเปน 3 (สเปน ชนะต่อเวลา 5-3)
วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2564
สนาม : ปาร์เก้น สเตเดี้ยม, โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก)

โครเอเชีย เข้ามาเป็นที่สองของกลุ่ม อี หลังพลิกกลับมาชนะ สกอตแลนด์ 3-1 โดยเกมนี้ พวกเขาจะไม่มี อีวาน เปริซิช ที่ติดโควิด รวมไปถึง เดยัน ลอฟเรน ที่มีอาการเจ็บ โดยนัดนี้ส่ง ลูก้า โมดริช เป็นตัวคุมเกมตรงกลาง และให้ นิโกล่า วลาซิช, บรูโน่ เป็ตโควิช และ อันเต้ เรบิช ทำหน้าที่ในเกมรุก

ครึ่งแรก
ทางฝั่ง สเปน พวกเขาคืนฟอร์มในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม อี ด้วยการไล่ถล่ม สโลวาเกีย 5-0 ขึ้นมาจบรองแชมป์กลุ่มทีนที โดยนัดนี้ใช้ โกเก้ ทำเกมคู่กับ เปดรี ส่วนเกมรุกเป็น เฟร์ราน ตอร์เรส, อัลบาโร่ โมราต้า และ ปาโบล ซาราเบีย

เริ่มเกมมาในนาทีที่ 13 สเปน มีลุ้นก่อนในจังหวะที่ โมราต้า ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะตอกส้นกลับมาให้ทาง ซาราเบีย วิ่งเข้ามากดด้วยซ้าย แต่โชคดีที่บอลไปเข้าทางหน้าต่างของตาข่าย

อีก 3 นาทีต่อมา สเปน พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำในจังหวะที่ เปดรี แทงบอลทะลุช่องให้ โก้เก้ หลุดเข้าแปด้วยขวาแต่เจ้าตัวกลับยิงไปติดเซฟของ ลิวาโควิช ออกหลังไป

สเปนบุกมาจนมีลุ้นอีกครั้งในนาที 19 จากการขึ้นเกมมาทางขวาของ ตอร์เรส ก่อนจะครอสเข้าไปให้ โมราต้า ได้โขกกดลงพื้นจ่อๆ แต่ไปติดบล็อคของ วิด้า ทำให้ ลิวาโควิช รับไว้ได้อย่างสบาย

ทว่า อีก 1 นาทีต่อ เป็นโครเอเชียที่ออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะคืนหลังของ เปดรี ไปให้ ซิมง แต่เจ้าตัวกลับจับบอลพลาดทำให้บอลกลิ้งเข้าประตูตัวเองไปซะอย่างนั้น กลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเองครั้งที่ 9 ไปแล้ว ในยูโรหนนี้ เยอะเท่ากับนับตั้งแต่มียูโรหนแรก มาจนถึงหนล่าสุด

จนนาที 38 กระทิงดุ ก็มาได้ประตูตีเสมอสำเร็จเป็น 1-1 ในจังหวะที่ เฟร์ราน ไหลบอลมาให้ กาย่า ที่เติมเกมขึ้นมาในกรอบเขตโทษได้กดด้วยซ้าย ทาง ลิวาโควิช ยังเซฟไว้ได้แต่บอลมาเข้าทาง ซาราเบีย วิ่งมาซ้ำด้วยซ้ายจ่อๆ เข้าประตูไป

ทำให้จบครึ่งแรก โครเอเชีย ยังเสมอกับ สเปน อยู่ 1-1

 

ครึ่งหลัง
ครึ่งหลังสเปนแซงนำ 2-1 นาทีที่ 57 เปดรี้ เลี้ยงบอลลุยเข้าเขตโทษ ส่งบอลออกมาเกือบถึงเส้นหลังด้านซ้าย เฟรราน ตอร์เรส หยอดบอลเข้าเขตโทษ 6 หลา และเป็น เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า กระโดดโหม่งบอลเต็มศีรษะเข้าประตูเป็นเม็ดแรกของเจ้าตัวในนามทีมชาติอีกด้วย

โครแอตเร่งเอาคืน นิโกล่า วลาซิช แทงบอลสั้นตั้งให้ อันเต้ เรบิช ลองยิงในเขตโทษทางซ้ายทว่าหัวหอกเอซี มิลานซัดแป้ก บอลเด้งพื้นเข้ามือ อูไน ซิมอน นาทีที่ 66

ก่อนนาทีถัดมา ลูก้า โมดริช แทงบอลเข้ามาที่ นิโกล่า วลาซิช แตะบอลริมกรอบเขตโทษ ก่อนจิ้มป้ายไปที่ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ฟูลแบ็กสอดมาซัดทางซ้าย บอลยังไม่ผ่านมือนายทวารสเปนล้มตัวตะครุบได้ทัน

กระทิงดุอดทิ้งห่างนาทีที่ 72 โฆเซ่ กาย่า โหม่งบอลฟรีคิก บอลเข้ากลางเขตโทษ เฟรราน ตอร์เรส วอลเลย์บอลมาหา อัลบาโร่ โมราต้า กระทุ้งระยะเผาขขนทางเสาด้านซ้าย ทว่าเจ้าตัวยืนล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

แต่แล้วนาทีที่ 77 สเปนบวกสกอร์เพิ่ม 3-1 เปา ตอร์เรส วางบอลยาวจากแดนหลังข้ามฟากมาถึง เฟรราน ตอร์เรส แตะบอลหนี ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ก่อนหลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วซัดลอดขา โดมินิค ลิวาโควิช นายทวารตาหมากรุกซุกประตูอีกลูก

ห้านาทีสุดท้ายของเกม ลูก้า โมดริช เก็บบอลได้หน้าประตู ก่อนเจ้าตัวไหลมากลาง มาริโอ ปาซาลิช เข้าบอลไม่โดนเลยมาถึง มิสลาฟ ออร์ชิช แข้งสำรองที่ลงมาก่อนหน้านี้หวดบอลผ่านเส้นประตู แม้ อูไน ซิมอน พยายามปัดออกมา แต่โกล์ไลน์ทำงาน กรรมการชี้เป็นประตูของโครแอต ไล่มาเป็น 2-3

ก่อนทดเจ็บนาทีที่ 90+2 มิสลาฟ ออร์ชิช รับบอลแล้วโยนบอลฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ 6 หลา มาริโอ ปาซาลิช ลอยตัวโหม่งบอลผ่านมือนายทวารกระทิงดุ จบ 90 นาทีเจ๊าสุดมันส์เป็น 3-3 ต้องต่อเวลาอีก 30 นาที

 

ต่อเวลาพิเศษ
เริ่มช่วงต่อเวลาพิเศษ โครแอต เกือบมาได้ประตูแซงนำ ในนาที 96 จากจังหวะที่ ออร์ซิช ได้บอลทางฝั่งซ้ายก่อนจะปาดเข้าไปให้ทาง อันเดร ครามาริช วิ่งเข้ามาด้วยซ้ายจ่อๆหน้าประตู แต่ทาง ซิโมน ยังปฏิกิริยาไว เซฟช่วยทีมไว้ได้

แต่หลังจากนั้นอีกแค่ 4 นาที กลายเป็น สเปน ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 4-3 จากการขึ้นเกมมาของ ดานี่ โอลโม่ ทางฝั่งขวา ก่อนจะโยนเข้าไปให้ โมราต้า พักบอลลงก่อนจะกดด้วยซ้าย แสกหน้าของ ลิวาโควิช เข้าประตูไป

ต่อมานาที 103 สเปน มาได้ประตูทิ้งห่างเป็น 5-3 จากการขึ้นมาทางขวาของ โอลโม่ เจ้าเก่าที่ครั้งนี้เปิดเข้าไปให้ มิเกล โอยาซาบัล จับหนึ่งจังหวะก่อนจะแปด้วยซ้ายสวนตัว ลิวาโควิช เข้าไป ทำให้จบช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก สเปน นำ โครเอเชีย อยู่ 5-3

ช่วงต่อเวลาครึ่งหลัง เปิดมาแค่ 1 นาที โครแอต เกือบไล่มาได้สำเร็จ ในจังหวะที่ ปาซาลิช ไหลบอลทะลุช่องให้ อันเต้ บูดิเมียร์ หลุดเข้าไปแปสวนตัว ซิโมน แล้วแต่น่าเสียดายที่บอลมันหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว

หลังจากนั้นนาที 115 สเปน เกือบมาได้ประตูที่หก จากการหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษของ โมราต้า ก่อนที่เจ้าตัวจะแปด้วยซ้าย แต่ยังไปติดเซฟของ ลิวาโควิช ออกหลังไป

ช่วงท้ายในนาที 119 สเปน เกือบได้ประตูอีกครั้งในจังหวะที่ โอยาร์ซาบัล หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายไปให้ โอลโม่ ได้ปั่นด้วยซ้าย ไปเสาสอง แต่น่าเสียดายที่บอลไปชนเสากระเด้งออกมา

ทำให้จบเกม สเปน เอาชนะ ไปได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 5-3 เข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง ฝรั่งเศส กับ สวิตเซอร์แลนด์ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
โครเอเชีย : โดมินิค ลิวาโควิช, โยซิป ยูราโนวิช, โดมาโกจ์ วิด้า, ซาเลต้า-ซาร์, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, ลูก้า โมดริช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, มาเตโอ โควาซิช, นิโกล่า วลาซิช, บรูโน่ เป็ตโควิช, อันเต้ เรบิช

สเปน : อูไน ซิโมน, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, เอริค การ์เซีย, อายเมริค ลาปอร์กต์, โฆเซ่ กาย่า, โกเก้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เปดรี, เฟร์ราน ตอร์เรส, อัลบาโร่ โมราต้า, ปาโบล ซาราเบีย

ผู้ตัดสิน : คูเน็ย์ต ชาเคียร์ (ตุรกี)