โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ เฮดโค้ชทีมชาติเบลเยียม เชื่อว่า ประสบการณ์และความนิ่งของลูกทีม ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยทัพ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” พลิกเอาชนะ เดนมาร์ก 2-1 ในศึก ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดสอง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา
แค่เพียงนาทีที่ 2 เดนมาร์ก ก็ได้ประตูขึ้นนำ จากการยิงสุดเฉียบของ ยุสซุฟ โพลเซ่น อย่างไรก็ตาม เควิน เดอ บรอยน์ ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามช่วงครึ่งหลัง สามารถช่วยพลิกเกมให้กับ เบลเยียม ได้ โดยแอสซิสต์ให้ ธอร์กกาน อาซาร์ กระทุ้งประตูตีเสมอ 1-1 นาทีที่ 55 ก่อนที่เจ้าตัวจะซัดประตูสุดสวยช่วยทัพ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” พลิกนำ 2-1 ในนาทีที่ 71 และถือเป็นประตูชัยของทีม ทำให้ตอนนี้ เบลเยียม มี 6 คะแนนเต็ม จากการลงแข่ง 2 นัด การันตีการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย เรียบร้อย
“มันนานพอสมควรแล้ว ที่เราไม่ได้เจอทดสอบอะไรแบบนี้ ช่วงครึ่งแรกนักเตะของเราดูเหมือนเล่นกันแบบประหม่าหน่อยๆ แต่พวกเขาก็มีประสบการณ์ที่จะพลิกเกมได้” มาร์ติเนซ กล่าว
ขณะที่ โรเมลู ลูกากู หัวหอกคนสำคัญทีมชาติเบลเยียม ที่เกมนี้ได้รางวัล “สตาร์ ออฟ เดอะ แมตช์” ยอมรับว่า เดนมาร์ก สร้างความยากลำบากให้ทีมตนไม่น้อย
“มันเป็นเกมที่เกี่ยวกับความรู้สึก (จากเหตุการณ์ของ คริสเตียน อีริคเซ่น) ซึ่งผมเองก็เช่นกัน เราต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมากับสิ่งนี้ เราไม่ได้เล่นตามศักยภาพที่เราคาดหวัง แต่ เดนมาร์ก ก็เล่นได้ดีมากๆ นี่คือบททดสอบที่ดี และตอนนี้เราผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ” ดาวยิงจาก อินเตอร์ มิลาน ระบุ