fbpx

ฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ฝรั่งเศส 3 – สวิตเซอร์แลนด์ 3 ( สวิตเซอร์แลนด์ ชนะจุดโทษ 5-4)
วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2564
สนาม : อารีน่า นาติโอนาล่า, บูคาเรสต์ (โรมาเนีย)

 

ฝรั่งเศส ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม เอฟ ส่ง คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และ คาริม เบนเซม่า ลงซัลโว ส่วน สวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้ด้วยการเป็นอันดับ 3 กลุ่ม เอ วาง ฮาริส เซเฟโรวิช และ บรีล เอ็มโบโล่ ล่าตาข่าย

 

ครึ่งแรก
เปิดเกมมา 2 นาทีแรก ฝรั่งเศส ก็มีโอกาสก่อนจากลูกเตะมุมที่ กรีซมันน์ โยนเข้ามาให้ วาราน ได้โขก แต่ว่าโดนไม่ดีทำให้บอลยังโด่งข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้น

แต่หลังจากนั้นนาทีที่ 15 กลายเป็น สวิตเซอร์แลนด์ ที่ออกนำก่อน 1-0 จาการลากขึ้นมาของ ซูเบอร์ ทางฝั่งซ้ายก่อนจะโยนเข้าไปให้ เซเฟโรวิช ได้โขกย้อนศรบอลเบียดเสาเข้าประตูไป ชนิดที่ โยริส หมดสิทธิ์ป้องกัน

ต่อมาในนาที 29 ฝรั่งเศสได้ลุ้นประตูตีเสมอจากลูกยิงไกลของ ราบิโอต์ ที่ได้กดดวยซ้ายเต็มข้อ แต่บอลยังหลุดเสาออกไปนิดเดียว

ช่วงท้ายครึ่งแรกยังคงเป็น ฝรั่งเศส ที่เปิดเกมรุกเข้าใส่ทาง สวิตเซอร์แลนด์ จากทุกทิศทุกทาง แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ ทำให้จบครึ่งแรกเป็น สวิตเซอร์แลนด์ ที่ออกนำ ฝรั่งเศส ไปก่อน 1-0

 

ครึ่งหลัง
ครึ่งหลัง ตราไก่ รีบปรับเกมรุกโดยถอด เกลม็อง ล็องเล่ต์ ออกแล้วส่ง คิงส์เล่ย์ โกมัน ลงมาเล่นแทน

ต่อมานาที 53 สวิตเซอร์ มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ปาวาร์ ไปเสียบใส่ ซูเบอร์ ทางผู้ตัดสินได้ทำการไปเช็คจอวีเออาร์ ก่อนที่จะเป่าให้จุดโทษแก่ทัพนาฬิกา แต่ทาง โรดริเกซ กลับยิงไปติดเซฟของ โยริส ทำให้ฝรั่งเศสยังอยู่ในเกม ทำให้ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 แล้วที่มีผู้เล่นยิงจุดโทษไม่เข้าในยูโรหนนี้

หลังจากนั้นนาที 56 ฝรั่งเศส เกือบมาได้ลูกตีเสมอ จากการจ่ายบอลของ ป็อกบา ออกมาให้ เอ็มบัปเป้ ทางฝั่งซ้ายก่อนที่เจ้าตัวจะปั่นด้วยขวา แต่มันหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว

แต่อีก 1 นาที ทัพตราไก่ มาเอาประตูตีเสมอได้สำเร็จ 1-1 จากจังหวะที่ เอ็มบัปเป้ ได้บอลหน้าเขตโทษ ก่อนจะจ่ายให้ เบนเซม่า เกี่ยวบอลเข้าไปยิงด้วยขวาข้ามตัว ซอมเมอร์ เข้าประตูไป

พอตีเสมอได้สำเร็จ ฝรั่งเศส ก็มาได้ประตูแซงขึ้นนำ 2-1 ใน 2 นาทีถัดมา จากจังหวะที่ กรีซมันน์ หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายติดมือ ซอมเมอร์ บอลลอยมาเข้าทาง เบนเซม่า ได้โขกจ่อๆ ตรงนั้นเป็นประตูไม่เหลือ

ต่อมานาที 75 ทัพตราไก่ ก็มาได้ลูกที่ 3 ในจังหวะที่ เบนเซม่า ได้ยิงจังหวะแรก ไปติดผู้เล่นของ สวิส บอลมาเข้าทาง ป็อกบา ได้ตั้งป้อมยิงด้วยขวา บอลโค้งเสียบตาข่ายมุมบน เข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทำให้ ฝรั่งเศส นำห่างเป็น 3-1

แต่ สวิส ไม่ยอมไล่มาเป็น 2-3 ในนาที 81 จากจังหวะที่ เควิน เอ็มบาบู ได้บอลทางฝั่งขวาก่อนจะตั้งป้อมโยนเข้าไปให้ เซเฟโรวิช ได้โขกจ่อๆหน้าปากประตูเข้าไป

หลังจากนั้นอีก 3 นาที ทัพนาฬิกาเกือบมาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะยิงไกลของ โรดริเกซ บอลมาเข้าทาง มาริโอ กาฟราโนวิช จับหนึ่งจังหวะก่อนจะจิ้มบอลต่อเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินเป่าให้ลูกนี้เป็นลูกล้ำหน้าซะก่อน

แต่ในช่วงนาทีสุดท้าย สวิตเซอร์แลนด์ มาได้ลูกตีเสมอจากเกมโต้กลับเร็ว กรานิต ชาคา วางบอลยาวมาให้กับ มาริโอ กาฟราโนวิช กระชากบอลไปหน้ากรอบเขตโทษก่อนวางเท้ายิงเน้นๆบอลพุ่งเบียดเสาเข้าไป อูโก้ โยริส พยายามปัดแล้วแต่สุดปลายมือจริงๆ ทำให้หมดเวลา 90 นาที เสมอกันอยู่ที่ 3-3 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

ต่อเวลาพิเศษ
กลับมาเล่นกันต่อในช่วงต่อเวลา สวิส เกือบจะมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาที 93 อัดเมียร์ เมห์เมดี้ ได้จังหวะลองยิงจากลูกเตะมุมของ รูเบน วาร์กาส แต่ว่าเจ้าตัวยิงบอลหลุดออกไปนิดเดียว

อีก 2 นาทีถัดมาเป็น ฝรั่งเศส ที่ได้ลุ้นบ้างจาก แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ ที่ดันขึ้นมาสูงก่อนจะได้ลองสับด้วยขวาแต่ก็ไปติดเซฟของ ยันน์ ซอมเมอร์ นายด่านสวิตเซอร์แลนด์

นาที 103 ทัพนาฬิกา มาได้โอกาสอีกครั้งจากลูกเตะมุม รูเบน วาร์กาส คนเดิมโยนไกลมาให้กับ อัดเมียร์ เมห์เมดี้ ที่รออยู่บริเวณนอกกรอบเขตโทษก่อนเจ้าตัวจะจับบอลลงหนึ่งจังหวะและซัดด้วยซ้าย ทว่าบอลเฉียดคานบนออกไป

หมดครึ่งแรกของการต่อเวลายังไม่มีใครบวกสกอร์เพิ่มกันได้เสมอกันอยู่ 3-3 เช่นเดิม

ตราไก่ พลาดได้ประตูชัยอย่างน่าเสียดายในช่วงก่อนหมดเวลาเมื่อ คิงส์เล่ย์ โกมัน ไหลบอลมาให้กับ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้โอกาสวางเท้าจ่อๆจากบริเวณหน้าประตูแต่ดันยิงผิดเหลี่ยมหลุดออกหลังไปหน้าตาเฉย

หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่มเติมทำให้ต้องไปลุ้นในช่วงดวลจุดโทษชี้ขาด

 

จุดโทษ
ทั้งสองทีมต่างก็ไม่มีใครใครพลาดจุดโทษเลยทั้ง 4 แรกจนมาถึงคนสุดท้ายของ ทัพนาฬิกา เป็น อัดเมียร์ เมห์เมดี้ ซัดเข้าไปอย่างสวยงาม ก่อน คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ จะเป็นคนยิงปิดท้ายให้ทีมชาติฝรั่งเศส ทว่าดันยิงได้ไม่ดีพอ ยันน์ ซอมเมอร์ พุ่งปัดเอาไว้ได้ จบเกมเป็น สวิตเซอร์แลนด์ ที่พลิกล็อกเอาชนะเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้แบบเหลือเชื่อ

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส, ราฟาแอล วาราน, เกลม็อง ล็องเล่ต์, เปรสแนล คิมเป็มเบ้, แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ปอล ป็อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อาเดรียง ราบิโอต์, อ็องตวน กรีซมันน์, คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, คาริม เบนเซม่า

สวิตเซอร์แลนด์ : ยันน์ ซอมเมอร์, นิโก้ เอลเวดี้, มานูเอล อคานจี, ริคาร์โด้ โรดริเกซ, ซิลแว็ง วิดแมร์, เรโม ฟรอยเลอร์, กรานิต ชาคา, สตีเว่น ซูเบอร์, เซอร์ดาน ชาคิรี่, ฮาริส เซเฟโรวิช, บรีล เอ็มโบโล่

ผู้ตัดสิน : เฟร์นานโด ราปายินี่ (อาร์เจนตินา)