วิเคราะห์บอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก นัดชิงชนะเลิศ
บียาร์เรอัล (สเปน) – แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
วันพุธที่ 26 พฤษภาคม 2564
เวลา : 02.00 น.
สนาม : สตาดิโอน เมียสกี้ (สนามกลาง กดังส์ค โปแลนด์)
ถ่ายทอดสด : Uefa.tv
อัตราต่อรอง : แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อ 0.5 ลูก
วิเคราะห์บอลบียาร์เรอัล (สเปน) – แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
ความพร้อมบียาร์เรอัล
อูไน เอเมรี่ พาทัพเรือดำน้ำสีเหลือง ผ่านเข้ามาเล่นในรอบชิงด้วยการเอาชนะ อาร์เซน่อล ด้วยผลประตูรวมสองนัดที่ 2-1 ส่วนฟอร์มล่าสุดบุกไปพ่ายให้กับ เรอัล มาดริด 1-2 ในเกม ลา ลีกา นัดส่งท้ายเมื่อสุดสัปดาห์
ทำตอนนี้ บียาร์เรอัล จบที่อันดับ 7 ได้ไปเล่นถ้วยใหม่คอนเฟอเรนซ์ ลีก ซีซั่นหน้า แต่ก็มีโอกาสได้ไปเล่นถ้วยใหญ่อย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หากเป็นผู้ชนะในวันนี้
ความพร้อมล่าสุด เอเมรี่ จะมาในระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตูกลับมาใช้ เซร์คิโอ อาเซนโฆ นายด่านมือ 1 แผงหลังเซนเตอร์ฮาล์ฟวาง ราอูล อัลบิโอล ผนึกกำลังกับ เปา ตอร์เรส นักเตะที่ผีแดง ให้ความสนอยูในขณะนี้
ส่วนแบ็กขวา ฆวน ฟอยธ์ ยังเดี้ยงอยู่ก็จะเป็นหน้าที่ของ มาริโอ กาสปาร์ ต่อไป และฝั่งซ้าย อัลฟองโซ่ เปดราซ่า รับผิดชอบเหมือนเดิม
แดนกลางมีข่าวร้ายเมื่อ ซามูเอล ชุควูเอเซ่ ปีกตัวเก่งหายเจ็บไม่ทันทำให้ต้องใช้ มานู ตรีเกโรส ขยับมาเล่นทางด้านขวาแทน ส่วนปีกซ้าย มอย โกเมซ คืนตัวจริง คู่มิดฟิลด์ใช้ ดาเนี่ยล ปาเรโฆ ประสานงาน เอเตียนน์ กาปู
ในเกมรุกนั้น เอเมรี ต้องชั่งใจว่าจะใช้ คาร์ลอส บัคก้า ที่กำลังทำผลงานได้ดีหรือ ปาโก้ อัลกาเซร์ ที่ยิงไป 6 ประตูในรายการนี้ ลงมาเล่นร่วมกับ เคราร์ด โมเรโน่ ศูนย์หน้าดาวซัลโวประจำทีมที่ซัดไปแล้ว 6 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ ในยูโรปา ลีก ซีซั่นนี้ รวมถึงเพิ่งมีรายชื่อติดทีมชาติสเปนกับ เปา ตอร์เรส ไปลุย ยูโร 2020 ด้วย
ความพร้อมแมนฯ ยูไนเต็ด
ปีศาจแดง ของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา บุกไปเฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-1 ในเกมสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก พร้อมทำสถิติไร้พ่ายในเกมเยือนตลอดซีซั่น ขณะที่ในยูโรปา ลีก พวกเขาตบเท้าเข้าชิงด้วยการถล่ม โรม่า กระจุยด้วยสกอร์รวม 2 นัด 8-5
ไม่ว่าผลการแข่งขันในนัดนี้จะจบลงเช่นไร แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้กลับไปเล่นในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้าอย่างแน่นอน
สภาพทีมเกมนี้ไม่ต่างอะไรจากเกมเมื่อวันอาทิตย์มากนักยังคงไม่มี อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ ฟิล โจนส์ ที่ยังบาดเจ็บอยู่ทั้งคู่
ส่วนรายของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังคนสำคัญมีรายชื่อติดเป็น 1 ใน 26 ขุนพลที่เดินทางมา กดังส์ ด้วยก็มีลุ้นเซอร์ไพส์ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง แต่ถ้าลงไม่ไหวจริงๆ เอริค ไบยี่ อดีตดาวเตะเรือดำน้ำสีเหลือง ก็พร้อมแสตนบาย
การจัดทัพแน่นอนว่าจะมีการเปลี่ยนยกชุดจากเกมบุกไปชนะหมาป่า ผู้รักษาประตูเป็น ดาบิด เด เคอา แบ็กขวา-ซ้าย อารอน วาน-บิสซาก้า กับ ลุค ชอว์ คืนทัพ ส่วนเซนเตอร์ฮาล์ฟ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ จับคู่ เอริค ไบยี่ หรือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์
แผงมิดฟิลด์ใช้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด เป็นตัวปัดกวาดอยู่หน้ากองหลัง และในเกมรุกเป็นหน้าที่ของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส บัญชาเกม
หน้าเป้าเกมนี้กลับมาใช้บริการของ เอดิสัน คาวานี่ ศูนย์หน้าจอมเก๋าลงล่าตาข่ายอีกครั้ง ส่วนทางริมเส้นใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ ปอล ป็อกบา เป็นตัวป่วน
สถิติ 5 นัดหลังสุด
ทีมบียาร์เรอัล
22/05/21 เรอัล มาดริด 2-1 บียาร์เรอัล
16/05/21 บียาร์เรอัล 4-0 เซบีย่า
14/05/21 เรอัล บายาโดลิด 0-2 บียาร์เรอัล
09/05/21 บียาร์เรอัล 2-4 เซลต้า บีโก้
07/05/21 อาร์เซน่อล 0-0 บียาร์เรอัล
ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด
21/05/21 วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด
19/05/21 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 ฟูแล่ม
14/05/21 แมนฯ ยูไนเต็ด 2-4 ลิเวอร์พูล
12/05/21 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 เลสเตอร์ ซิตี้
09/05/21 แอสตัน วิลล่า 1-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
ผลงานที่พบกันนัดล่าสุด
บียาร์เรอัล 0-0 แมนฯ ยูไนเต็ด
นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บียาร์เรอัล (4-4-2) : เซร์คิโอ อาเซนโฆ – มาริโอ กาสปาร์, ราอูล อัลบิโอล, เปา ตอร์เรส, อัลฟองโซ่ เปดราซ่า – มานู ตรีเกโรส, ดาเนี่ยล ปาเรโฆ, เอเตียนน์ กาปู, มอย โกเมซ – เคราร์ด โมเรโน่, คาร์ลอส บัคก้า (ปาโก้ อัลกาเซร์)
ผู้จัดการทีม : อูไน เอเมรี่
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, เอริค ไบยี่ (แฮร์รี่ แม็กไกวร์), ลุค ชอว์ – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด – มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ปอล ป็อกบา – เอดิสัน คาวานี่
ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
ผู้ตัดสิน : เคลมองต์ ตูแป็ง (ฝรั่งเศส)
วิเคราะห์บอลบียาร์เรอัล (สเปน) – แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
เกมนัดชิงดำ นัดนี้ถือว่าน่าจะสนุกแน่ โดย บียาร์เรอัล ของ อูไน เอเมรี่ ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 แนวรุกยิงกันไป 9 ลูก และเสียไป 4 ลูก เกมนี้พวกเขาจะชิงกับยอดทีมจาก อังกฤษ อย่าง ปีศาจแดง ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 แนวรุกยิงไป 9 ประตู และเสียไป 9 ประตู ภาพรวมคู่นี้มองว่าคุณภาพ ยูไนเต็ด ยังดูดีกว่าเล็กน้อย แต่ก็ประมาท เรือดำน้ำ บียาร์เรอัล ไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่ดีจริงคงไม่ฝ่าด่าน เข้ามาได้ถึงรอบนี้ เชื่อว่ารูปเกมจะเปิดและแลกกันสนุกแน่ แต่หากวัดความเด็ดขาด ยังเชื่อว่า แมนฯยู น่าจะมีทีเด็ดจากบรรดา มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ปอล ป็อกบา, เอดิสัน คาวานี่ ผนึกกำลังสร้างสรรค์เกมรุก ยิงประตูก่อนเป็นฝ่ายเอาชนะ และคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
ฟันธง : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2-1
ความมั่นใจ 8.5/10
เกร็ดยูโรปา ลีก
– นี่เป็นการพบกันครั้ง 5 ของทั้งสองทีม โดยทั้ง 4 ครั้งเกิดขึ้นในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และผลการแข่งขันทั้ง 4 เกมจบด้วยสกอร์ 0-0 ทั้งหมด
– บียาร์เรอัล เข้าชิงบอลถ้วยยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร และเป็นทีมที่ 11 จากแดนกระทิงดุที่ผ่านเข้ามาเล่นในรอบนี้
– การเข้าชิงของทัพปีศาจแดงหนนี้ เป็นการเข้าชิงฟุตบอลยุโรปครั้งที่ 8 มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสโมสรเมืองผู้ดี
– จากสถิติการพบกันของสโมสรจาก สเปน และ อังกฤษ 9 ครั้งหลังสุด ทีมจากลา ลีกา นั้นเอาชนะไปได้ถึง 8 ซึ่งครั้งเดียวที่ทีมจากอังกฤษชนะได้คือนัดชิง ยูฟ่า คัพ ที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อลาเบส 4-3 เมื่อปี 2001
– 21 ครั้งก่อนหน้านี้มี 8 หนที่ทีมที่ตกมาจากถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก และมาคว้าแชมป์ใน ยูฟ่า คัพ/ยูโรปา ลีก ได้ โดยครั้งล่าสุดเกินขึ้นเมื่อฤดูกาล 2017/18 และทีมนั้นคือ แอต.มาดริด ส่วนทีมจากอังกฤษทีมเดียวที่ทำได้เป็น เชลซี ในปี 2013
– บียาร์เรอัล ยังไม่แพ้ใครเลยในถ้วยยูโรปา ลีก ฤดูกาล (ชนะ 12 เสมอ 2) และถ้าเกมนี้พวกเขาชนะอีกจะเป็นทีมที่ 5 ต่อจาก สเปอร์ส, โกเตบอร์ก, อาแจ๊กซ์ และ เชลซี ที่ทำสำเร็จ
– โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พาทีมเข้าชิงได้เป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เริ่มเป็นผู้จัดการทีม ซึ่งครั้งแรกที่คือการพา โมลด์ เข้าชิงถ้วย นอร์เวย์ คัพ ในปี 2013 และถ้าเกมนี้พา แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะได้เขาจะเป็นกุนซือชาวนอร์เวย์คนแรกที่พาทีมคว้าแชมป์ในรายการยุโรปได้
– ขณะที่ อูไน เอเมรี่ นำลูกทีมผ่านมาเข้ามาเล่นในรอบชิงชนะเลิศได้เป็นหนที่ 9 กับ 4 ทีมที่เคยคุมทัพ (ชนะ 8 แพ้ 1) โดยเป็นถ้วยใบนี้ถึง 4 ครั้งด้วยกัน (ชนะ 3 แพ้ 1)
– ถ้า เมสัน กรี๊ดวู๊ด ยิงได้ในเกมนี้จะเป็นนักเตะอังกฤษอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ด้วยวัย 19 ปี กับ 237 ที่ยิงในรอบชิงชนะเลิศ ต่อจาก ไบรอัน คิดด์ อดีตสตาร์รุ่นพี่ที่ยิง เบนฟิก้า ในปี 1968
– คาร์ลอส บัคก้า มีลุ้นทำสถิติเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงในรอบชิงชนะเลิศให้กับ 2 สโมสรจากประเทศเดียวที่ลงเล่น หลังจากที่เขาเคยยิงได้ในนัดชิงปี 2015 กับ เซบีย่า
– เอดิสัน คาวานี่ ทำไปแล้ว 5 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ ภายในระยะเวลาเพียง 237 นาทีที่ลงเล่นในถ้วยนี้กับ ปีศาจแดง เฉลี่ยจะมียิงประตูหรือแอสซิสต์ ในทุกๆ 35 นาที
– และถ้า คาวานี่ ยิงประตูได้ในเกมนี้จะเป็นนักเตะคนที่ 3 ที่มีอายุมากกว่า 34 ปีที่ทำประตูได้ในรอบชิงชนะเลิศต่อจาก แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ (36) และ ดีดิเยร์ ดร็อกบา (34)