fbpx

เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าแห่งทัพจิ้งจอกสยาม

เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าแห่งทัพจิ้งจอกสยาม

ประวัตินักฟุตบอล เจมี่ วาร์ดี้

ชื่อเต็ม :: เจมี่ ริชาร์ด วาร์ดี้
วันเกิด :: 11 มกราคม ค.ศ. 1987
สถานที่เกิด :: เมือง เชฟฟิลด์ ประเทศ อังกฤษ
ส่วนสูง :: 1.79 เมตร (5 ฟุต 10 นิ้ว)
สัญชาติ :: อังกฤษ
ตำแหน่ง :: กองหน้า
สโมสรปัจจุบัน :: เลสเตอร์ ซิตี้

เจมี่ วาร์ดี้ (Jamie Vardy)

เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าแห่งทัพจิ้งจอกสยาม

เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าชาวอังกฤษที่ไม่หยุดยั้งกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่น่าหลงใหลที่สุดในโลกของฟุตบอล เกิดเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2530 ในเมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ การเดินทางของ วาร์ดี้ จากพื้นเพที่ต่ำต้อยไปสู่การเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ทำลายสถิตินั้นไม่มีอะไรโดดเด่นเลย ด้วยฝีเท้าที่รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ สัญชาตญาณที่เฉียบคม และความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลง วาร์ดี้ ได้ท้าทายทุกโอกาส พิสูจน์ให้เห็นว่าพรสวรรค์และความยืดหยุ่นสามารถเอาชนะความยากลำบากได้ นี่คือเรื่องราวที่น่าสนใจของชายผู้ก้าวข้ามรากเหง้าของชนชั้นแรงงานเพื่อจารึกชื่อของเขาไว้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอล สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังไม่ยอมแพ้ต่อความฝัน

จุดเริ่มต้นการค้าแข้งของ วาร์ดี้

เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าแห่งทัพจิ้งจอกสยาม

วาร์ดี้ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีมนอกลีกหลายทีม รวมถึง Stocksbridge Park Steels, Halifax Town และ Fleetwood Town โดยจุดเปลี่ยนสำคัญ คือการที่ วาร์ดี้ ได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2012 ด้วยค่าตัวเป็นสถิตินอกลีก 1 ล้านปอนด์ และช่วยให้สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2013/2014

ช่วยทีม เลื่อนชั้นขึ้นมา พรีเมียร์ลีก

เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าแห่งทัพจิ้งจอกสยาม

วาร์ดี้ ถือว่าขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้ทีม เลสเตอร์ หลังจากที่พาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาใน พรีเมียร์ลีก โดยในฤดูกาลแรกในเวทีสูงสุดในฟุตบอล อังกฤษ เลสเตอร์ ประสบปัญหามากมายในเรื่องของผลงานในสนาม จนต้องดิ้นรนหนีตายในการตกชั้น โดยในฤดูกาลนั้น วาร์ดี้ มีส่วนสำคัญในการทำให้ เลสเตอร์ รอดพ้นจากการตกชั้น และสามารถอยู่รอดต่อไปใน พรีเมียร์ลีก ได้อีกด้วย

ประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก

เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าแห่งทัพจิ้งจอกสยาม

ต่อมาในฤดูกาล 2015/16 วาร์ดี้ มีส่วนสำคัญ ในการสร้างประวัติศาสตร์ การคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ โดยในฤดูกาลนั้น วาร์ดี้ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีคู่หูอย่าง ริยาด มาห์เรซ ที่คอยสร้างโอกาสให้เจ้าตัวตลอดเวลา ซึ่งฤดูกาลนั้น ถือว่าเป็นจุดพีคของ วาร์ดี้ เลยก็ว่าได้ โดยเจ้าตัว ยิงประตูไปทั้งหมด 24 ประตู และทำอีก 6 แอสซิสต์ จากการลงเล่นในลีก 36 นัด  อีกทั้ง วาร์ดี้ ยังได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ FWA และได้รับการโหวต ให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของ พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2015/16 อีกด้วย

ถูกเรียกติดทีมชาติ อังกฤษ

เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าแห่งทัพจิ้งจอกสยาม

ผลงานที่ยอดเยี่ยมกับ เลสเตอร์ ทำให้ วาร์ดี้ ถูกเรียกติดทีมชาติ อังกฤษ ในปี 2015 โดย วาร์ดี้ เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอังกฤษ ที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศของ ฟุตบอลโลก 2018 และยังมีบทบาทสำคัญในการพาทีมชาติ อังกฤษ ไปไกลถึงรอบ ชิงชนะเลิศ ในศึกยูโร 2020 อีกด้วย

คนสำคัญของ เลสเตอร์

เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าแห่งทัพจิ้งจอกสยาม

วาร์ดี้ ยังคงรักษามาตรฐานในการเล่นให้กับ เลสเตอร์ มาโดยตลอด ยังคงเป็นศูนย์หน้าตัวหลักของทีม ถึงแม้จะไม่ได้พีคเท่าสมัยที่พาทีมเป็นแชมป์ แต่ก็ยังเป็นคนสำคัญของสโมสร โดยในปัจจุบัน ด้วยอายุที่มากขึ้น อาจจะทำให้ต้องหลุดไปนั่งเป็นตัวสำรองไปบ้าง แต่ทุกครั้งที่ วาร์ดี้ ได้ลงสนาม ความขยัน และทุ่มเท ของเจ้าตัว เป็นสิ่งที่ทำให้แฟนบอล ชื่นชอบในตัวนักเตะรายนี้ ดังนั้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า วาร์ดี้ คือ ตำนานของสโมสร และยังเป็น นักเตะที่สำคัญที่สุดของ เลสเตอร์ อย่างไม่ต้องสงสัย

ชีวิตนอกสนามของ วาร์ดี้

เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าแห่งทัพจิ้งจอกสยาม

นอกสนาม วาร์ดี้ เป็นที่รู้จักจากงานการกุศลของเขาและได้จัดตั้ง V9 Academy ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้เล่นนอกลีก มีโอกาส แสดงความสามารถของพวกเขา ต่อสโมสรมืออาชีพ นอกจากนี้ วาร์ดี้ ยังสนับสนุน องค์กร การกุศลต่างๆ เช่น NSPCC, Help for Heroes และ Save the Children อีกทั้งเรื่องราวชีวิตของ วาร์ดี้ ยังกลายเป็น ภาพยนตร์ ชีวประวัติเรื่อง “Jamie Vardy : From Nowhere, My Story”  ซึ่งออกฉายในปี 2018

ติดตามประวัตินักฟุตบอลเพิ่มเติม :: ประวัตินักฟุตบอล

ขอขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล : wikipedia

Instagram  : vardy7

Twitter : vardy7