ทำผลงานสมราคาทีมเต็งแชมป์จริงๆ สำหรับทีมชาติอิตาลี ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ด้วยสถิติ 100% ชนะรวดทั้ง 3 นัด ยิงไป 7 ประตู แถมไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว
เอาจริงๆ ไม่ใช่แค่ทัพนักเตะจาก “อัซซูรี่” เท่านั้นที่กำลังทำผลงานได้ดี ผลผลิตจาก กัลโช่ เซเรีย อา กำลังเขย่ายูโร 2020 อย่างคึกคัก เพราะจากทั้งหมด 26 เกม มีถึง 10 นัดที่แมน ออฟ เดอะ แมตช์ มาจากลีกมักกะโรนี (เขียนหลังจบกลุ่มเอ)
และที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือแข้งจากทีมเกรดรองอย่าง อตาลันต้า ที่ส่งเข้าประกวด 9 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะ 5 คนในบรรทัดต่อจากนี้ ที่คาดว่าหลังจากทัวร์นาเมนต์ใหญ่อาจเนื้อหอมกันไม่รู้ตัวเลยทีเดียว
โรบิน โกเซนส์ (เยอรมัน)
แบ็กซ้ายทีมชาติเยอรมัน คือนักเตะจาก “แบร์กาโม่” ที่กำลังโด่งดังที่สุดในตอนนี้ หลังระเบิดฟอร์มทำ 1 ประตู จ่าย 2 แอสซิสต์ ช่วยให้ “อินทรีเหล็ก” คืนฟอร์มเก่งไล่ถล่มคู่ปรับเบอร์ใหญ่อย่าง โปรตุเกส 4-2
หลังเกมมีกระแสยกย่องมากมาย ทั้งการเป็นแข้งโนเนมที่ไม่เคยเล่นในบุนเดสลีกา รวมถึงการเคยขอเสื้อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ของ ยูเวนตุส แต่ถูกปฏิเสธอย่างไม่ไยดีสมัยเจอกันในโคปป้า อิตาเลีย เมื่อ 2 ปีก่อน
โกเซนส์ ในวัย 26 ปี คือแบ็กซ้ายที่มีจุดเด่นในการเล่นเกมรุก เอาแค่ เซเรีย อา ฤดูกาลล่าสุดเจ้าตัวยิงไปถึง 11 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ บิ๊กทีมไหนที่ยังขาดแบ็กซ้ายบอกเลยนี่คือตัวเลือก “ใช่” แน่ๆ และ อตาลันต้า พร้อมขายด้วยที่ 40 ล้านยูโร
รุสลาน มาลินอฟสกี้ (ยูเครน)
แม้ผลงานของยูเครน ตอนนี้คนที่อยู่ในสปอตไลต์อาจจะเป็น อังเดร ยาร์โมเลนโก้ และ โรมัน ยาเรมชุค ที่ยิงกันไปแล้วคนละ 2 ประตู แต่คนที่ปิดทองหลังพระที่ควรจับตามองไม่แพ้กันก็คือ รุสลาน มาลินอฟสกี้
เพลย์เมกเกอร์วัย 28 ปีลงเล่นไป 2 เกมมีอัตรายิงเฉลี่ยที่ 3.5 ต่อเกมนับเป็นสถิติสูงสุดอันดับ 7 ร่วมในเวลานี้ นอกจากนี้ยังสร้างโอกาสลุ้นประตูให้เพื่อนไปแล้วถึง 7 ครั้ง มีแค่ แดเนี่ยล เจมส์ เพียงรายเดียวที่ทำได้มากกว่า
ผลงานกับ อตาลันต้า ในฤดูกาลนี้ก็ไม่ธรรมดา มาลินอฟสกี้ ยิงไปถึง 8 ประตูกับอีก 12 แอสซิสต์ เป็นขุนพลคนสำคัญของ จาน ปิเอโร่ กาสเปรินี่ ที่บินสูงจบถึงอันดับ 3 ได้ตั๋วไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
อเล็กเซย์ มิรานชุค (รัสเซีย)
จากผลงานนัดแรกที่แพ้ต่อ เบลเยี่ยม อย่างยับเยิน 0-3 ทำให้ รัสเซีย จำเป็นต้องมีการปรับปรุงแท็คติก และเป็นโอกาสทองของ อเล็กเซย์ มิรานชุค เพลย์เมกเกอร์หนุ่มวัย 25 ปี ที่ได้รับโอกาสลงมาทำเกมสนับสนุน อาร์เต็ม ซูบา
งานนี้ มิรานชุค ไม่ืทำให้ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ กุนซือของทีม “หมีขาว” ต้องผิดหวัง หลังรับบทฮีโร่ยิงประตูชัยให้ทีมเอาชนะ ฟินแลนด์ 1-0 ต่อลมหายใจให้ รัสเซีย ยังมีลุ้นเข้ารอบน็อกเอาท์ในเกมสุดท้าย
อย่างไรก็ตามผลงานในระดับสโมสร มิรานชุค ยังไม่ใช่ตัวหลักของ อตาลันต้า ในซีซั่นที่ผ่านมา หลังเพิ่งย้ายมาจาก โลโคโทมีฟ มอสโก แต่แม้จะเป็นตัวจริงแค่ 4 เกมและสำรองอีก 21 นัด เจ้าตัวก็ยังมีสถิติยิง 4 ประตู 2 แอสซิสต์ หลังจบยูโร เชื่อว่า กาสเปรินี่ น่าจะให้โอกาสมากกว่านี้แน่
เรโม ฟลอยเลอร์ (สวิตเซอร์แลนด์)
กองกลางตัวรับวัย 28 ปี คือผู้ปิดทองหลังพระตัวจริงทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ โดยในยูโร 2020 หนนี้ เจ้าตัวได้จับคู่กับ กรานิต ชาก้า ในแดนกลาง เบียด เดนิส ซากาเรีย ห้องเครื่องจาก กลัดบัค ต้องนั่งอดทนที่ม้านั่งสำรองเท่านั้น
ผลงานของ ฟรอยเลอร์ ทำได้ตามมาตรฐาน 3 เกมที่ผ่านมา เข้าสกัดบอล 6 ครั้ง เอาชนะได้ถึง 5 หน นอกจากนี้ยังอ่านเกมดีตัดบอลได้ถึง 4 หน แม้ตัวเลขจะไม่สูงมาก แต่ก็ช่วยให้ตัวรุกของทีมเล่นได้อย่างอิสระจนถล่มชนะ ตุรกี 3-1 ในเกมสุดท้าย
กับ อตาลันต้า ดาวเตะจากแดนนาฬิกาคือลูกรักของ กาสเปรินี่ เลยก็ว่าได้ เพราะได้ลงเล่นมากถึง 34 เกมในเซเรีย อา เป็นคู่มิดฟิลด์ตัวกลางกับ มาร์เทน เดอ รูน จากทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่เล่นกันได้อย่างเข้าขารู้ใจสุดๆ
มัตเตโอ เปสซิน่า (อิตาลี)
การเติบโตของดาวเตะวัย 24 ปีในนามทีมชาติต้องบอกว่ามาเร็ว เคลมเร็ว เพราะุูถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่การทำผลงานช่วงอุ่นเครื่องได้ดีทำให้ โรแบร์โต้ มันชินี่ ตัดสินใจหนีบเขามาลุยรอบสุดท้ายของยูโร 2020 ด้วย
แน่นอนว่าการที่เป็นนักเตะประสบการณ์น้อย ทำให้เจ้าตัวเป็นเพียงตัวสำรอง แต่คนมันจะเกิดอะไรก็ฉุดไม่อยู่ เมื่อได้โอกาสลงเล่น เปสซิน่า ก็เล่นได้อย่างโดดเด่น เป็นมิดฟิลด์ที่สอดเข้าไปลุ้นประตูได้ดี และกลายเป็นฮีโร่ยิงประตูชัยเอาชนะ เวลส์ ได้ด้วย
แม้ผลงานกับ อตาลันต้า ในฤดูกาลล่าสุดจะไม่พีกมาก ลงเล่นในลีก 28 เกมยิงได้ 2 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ แต่หลังจากยิงประตูในนามทีมชาติลูกล่าสุดมีข่าวแว่วๆ มาว่า เอซี มิลาน อดีตต้นสังกัดเก่าอยากดึงกลับไปร่วมทีมเหมือนกัน