fbpx

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มหรูในครึ่งหลัง ได้ประตูจาก ซามูเอล โรซา กับ สุภโชค สารชาติ ซัดคนละตุงช่วง พาทีมบดชนะ “กิเลนผยอง”เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-0 ลิ่วเข้ารอบรองชนะเลิศถ้วยช้าง เอฟเอ คัพ

ช้าง เอฟเอ คัพ 2020 รอบ 8 ทีม
วันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2564 เวลา 18:00 น.
สนาม : ช้าง อารีน่า

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
ผู้ทำประตู : 1-0 ซามูเอล โรซา (จุดโทษ) น.72,2-0 สุภโชค สารชาติ น.77

เริ่มเกมมาถึงนาทีที่ 4 เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อน ไมคอน มาร์เกวซ จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ จักรพันธ์ แก้วพรม หาจังหวะเปิดบอลเข้ามาตรงกลางประตู ทว่าจังหวะเปิดมีผู้เล่นกิเลนผยองล้มตัวบล็อก ทำให้บอลลอยแบบไม่มีน้ำหนัก ลูคัส โรช่า โหม่งบอลทิ้งข้ามคานไปได้

ปราสาทสายฟ้าลุยต่อเนื่องนาทีต่อมา รัตนากร ใหม่คามิ เปิดเตะมุมทางซ้ายเข้ามาในกรอบ 6 หลา สมพร ยศ นายด่านทีมเยือนอ่านเกมออกมารับบอลไว้ได้ ก่อนที่ผู้เล่นของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะโถมเข้าไปโหม่งบอล

นาทีที่ 12 กิเลนผยอง เกือบได้เฮบ้าง สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ได้บอลทางขวาเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ แดร์เลย์ ได้โหม่งบอลเข้าประตูไป ทว่าผู้ตัดสินได้รับสัญญาณ VAR ก่อนจะออกไปตรวจสอบภาพการแข่งขัน แล้วกลับมาเป่าไม่ให้เป็นประตู เพราะจังหวะก่อนหน้านั้น วิลเลี่ยน พอพพ์ มีการไปทำฟาวล์ใส่ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ในจังหวะก่อนหน้านั้นแล้ว

ปราสาทสายฟ้า ที่เริ่มครองเกมบุกเข้าใส่ต้องมาเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกนาทีที่ 26 เมื่อ ไมคอน มาร์เกวซ ได้รับบาดเจ็บทำให้ อเล็กซานเดร กามา กุนซือสมองเพชร ต้องส่ง ซามูเอล โรซา ลงสนามไปเล่นแทน

เกมเดินทางผ่าน 35 นาที ทั้ง 2 ทีมเปิดเกมบุกเข้าใส่กันอย่างสนุก แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะได้ลุ้นประตูขึ้นนำแบบเหน่งๆ มากนัก

นาที่ 45 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกที่กึ่งกลางสนาม วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร เปิดบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษ แดร์เลย์ โหม่งบอลออกหลังไป

จากนั้นช่วงทดเวลา 2 นาที ก็ยังไม่มีทีมใดสามารถทำประตูได้ จบครึ่งเวลาแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังเสมอกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 0-0

มาต่อกันในครึ่งหลัง เมืองทอง เปลี่ยนผู้เล่นครั้งแรกด้วยการส่ง ปรเมศย์ อาจวิไล กองหน้าดาวรุ่งวัย 22 ปี ลงมาแทน แดร์เลย์ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน

นาทีที่ 54 ศุภชัย ใจเด็ด ได้บอลในกรอบเขตโทษก่อนจะโยกสับเท้าหลอกกองหลังทีมเยือนแล้วตัดสินใจยิงบอลพุ่งไปติดบล็อกกองหลังกิเลนผยอง ที่วิ่งลงมาซ้อนกันทัน

นาทีที่ 62 กิเลนผยองต้องเปลี่ยนตัวอีกคนเมื่อ ลูคัส โรช่า กองหลังตัวหลักเจ็บไปเอง ต้องส่ง มาร์โก บัลดินี่ ลงมาเล่นแทนในแนวรับ

ถัดมานาทีเดียว ปราสาทสายฟ้า ที่ได้เตะมุมทางซ้าย รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แบรนดอน โอนีลล์ ได้โหม่งบอลทว่าโดนไม่เต็มศรีษะบอลเลยพุ่งออกหลังไป

นาทีที่ 67 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ กองกลางกิเลนผยอง ที่ถอยลงไปช่วยเกมรับโหม่งบอลทิ้งออกมาจากพื้นที่อันตรายได้

จังหวะต่อเนื่องจากนาทีที่ 70 ปราสาทสายฟ้า มาได้จุดโทษหลังจาก นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม เติมเกมรุกเข้ไปรับบอลจาก จักรพันธ์ แก้วพรม ในกรอบเขตโทษ แล้วโดนกองหลังทีมเยือนเกี่ยวล้ม ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าเป็นจัดโทษ ซามูเอล โรซา รับหน้าที่สังหารไม่พลาด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0

สกอร์ไหลนาที่ 77 สุภโชค สารชาติ ได้บอลหลุดเดี่ยวไปในกรอบเขตโทษฝ่งขวาก่อนเจ้าตัวจะตัดสินใจติงเต็มข้อบอลพุ่งแสกหน้า สมพร ยศ เสยตาข่ายบนหายเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำห่าง 2-0

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนต็ด อยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยที่ 5 เอาชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-0

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), พรรษา เหมวิบูลย์, ดิเกา, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, รัตนากร ใหม่คามิ, แบรนดอน โอนีล, ศศลักษณ์ ไหประโคน, จักรพันธ์ แก้มพรม, ศุภชัย ใจเด็ด, ไมคอน มาร์เกวส

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : สมพร ยศ (GK), สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, สราวุธ กัลยาณบัณฑิต, ลูคัส โรช่า, วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร, ฉัตรมงคล ทองคีรี, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, พิชา อุทรา, ซาดอร์ มีร์ซาเยฟ, วิลเลี่ยน พ็อพพ์, แดร์เลย์