ไม่มีอะไรพลิกโผ! แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศยืนยันคว้าตัว ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลังทีมชาติอาร์เจนติน่า เข้ามาเป็นนักเตะใหม่รายที่ 3 ในซัมเมอร์นี้ หลังปิดดีลกับทาง อาแจ็กซ์ ที่ค่าตัว 46 ล้านปอนด์ พ่วงโบนัสอีก 8.6 ล้านปอนด์
ดาวเตะวัย 24 ปีจรดปากกาอยู่ค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นเวลา 5 ปี และจะได้กลับมา “รียูเนี่ยน” ทำงานร่วมกับ เอริค เทน ฮาก อีกครั้ง หลังช่วยกันสร้างความยิ่งใหญ่ตลอด 3 ปีในดินแดนกังหันลม ที่อัมเตอร์ดัม
สำหรับแฟนบอลชาวไทย ชื่อของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ไม่น่าจะคุ้นหูมากนัก เพราะไม่ใช่สตาร์ระดับเกรด A แถมเล่นในลีกเนเธอร์แลนด์ ที่ไม่ได้อยู่ใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรป แม้จะได้เห็นฟอร์มอยู่บ้างจากศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ตาม
แต่การมาอยู่กับทีมใหญ่อย่าง “ผีแดง” ก็คงจะไม่ใช่แข้งโนเนมอีกต่อไป ลิซานโดร มาร์ติเนซ คือใคร? วันนี้มาทำความรู้จักชายคนนี้กัน
– ประวัติพอสังเขป
แนวรับเท้าซ้ายเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพในปี 2017 กับ นีเวลล์ โอลด์ บอยส์ ในประเทศบ้านเกิด แต่เล่นในทีมชุดใหญ่เพียงแค่เกมเดียว ก็ถูกส่งไปให้ เดเฟนซ่า จัสติเซีย ทีมร่วมลีกยืมไปใช้งาน และถูกซื้อขาดในซีซั่นต่อมา
ลิซานโดร เล่นกับ เดเฟนซ่า จัสติเซีย ได้เพียง 2 ฤดูกาล ผลงานก็ไปเตะตาโดน อาแจ็กซ์ ทีมดังจากลีกเนเธอร์แลนด์ คว้าตัวไปร่วมทีมด้วยวัยเพียง 21 ปี โดยถูกมองว่าจะเข้ามาเป็นตัวตายตัวแทนของ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ แนวรับสตาร์ดังที่ย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส ในซัมเมอร์เดียวกัน
กองหลังวัย 24 ปีมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์ เอเรดิวิซี่ลีก 2 สมัย, ดัตช์ คัพ และ โยฮัน ครัฟฟ์ ชิลด์ อีกอย่างละ 1 ถ้วย ลิซานโดร เป็นกองหลังรายที่ 6 ที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลในลีกสูงสุดของฮอลแลนด์ ต่อจาก คริสเตียน คิวู, แม็กซ์เวลล์, แยน แฟร์ทองเก้น, ดาลี่ย์ บลินด์ และ ดาวินซอน ซานเชซ
– นักเตะอเนกประสงค์
ตำแหน่งถนัดที่สุดของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ คือเซนเตอร์ฮาล์ฟ เขาเริ่มต้นในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ค้าแข้งในลีกบ้านเกิด (48 นัด) แต่ก็ถูกโยกไปเล่นทั้งแบ็กซ้าย (5 นัด) และแบ็กขวา (2 นัด) อยู่บ้างในบ้างเกม
การย้ายมาอยู่กับ อาแจ็กซ์ ปีแรก เจ้าตัวถูก เอริค เทน ฮาก จับมาเล่นเป็นกองกลางตัวรับบ่อยครั้งโดยเฉพาะช่วงต้นฤดูกาลที่ลงในตำแหน่งนี้ถึง 12 เกมติดต่อกัน โดยยืนคู่กับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ในระบบ 4-2-3-1
รวมๆ แล้วกองหลังทีมชาติอาร์เจนติน่า เล่นได้ถึง 4 ตำแหน่ง เซนเตอร์ฮาล์ฟคือตำแหน่งที่เล่นสม่ำเสมอที่สุด กองกลางตัวรับไม่ได้เล่นอีกเลยใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วนแบ็กซ้ายพอเล่นได้แต่ได้ลงสนามจริงๆ ก็แค่ 7 นัดเท่านั้น ขณะที่แบ็กขวาถ้าเข้าตาจนจริงก็พอแก้ขัดได้
– กองหลังสไตล์ครบเครื่องต้มยำ
แม้จะเล่นเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟแต่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เป็นนักเตะที่มีส่วนกับเกมอยู่ตลอดเวลา สามารถช่วยเซ็ตเกมรุกจากแดนหลัง เพราะจ่ายบอลแม่นยำทั้งใกล้และไกล โดยมีสถิติหลายอย่างอยู่ในระดับท็อปของเอเรดิวิซี่ ในซีซั่นที่ผ่านมา
– สัมผัสบอลเฉลี่ยต่อเกม 108.24 ครั้ง (อันดับ 2 ของลีก)
– จ่ายบอลสำเร็จต่อเกม 82.27 ครั้ง (อันดับ 1 ของลีก)
– จ่ายบอลขึ้นหน้า 30.77 ครั้ง (อันดับ 3 ของลีก)
– จ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายคู่แข่งสำเร็จ 39.49 ครั้ง (อันดับ 3 ของลีก)
ในส่วนของเกมรับก็ทำได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน เป็นกองหลังที่ยืนตำแหน่งได้ดี อ่านเกมเก่ง มีสถิติดักตัดบอลเฉลี่ย 1.9 ครั้งต่อเกม (อันดับ 10 ของลีก) และช่วยเคลียร์บอล 2.8 ครั้งต่อเกม (อันดับ 1 ในทีมอาแจ็กซ์) ส่วนการเข้าแท็คเกิ้ลเฉลี่ยอยู่ที่ 2 ครั้งต่อเกม มีแค่ เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ (2.4) คนเดียวเท่านั้นที่ทำได้มากกว่าในสโมสรเดียวกัน
จุดที่แฟนบอล “ผีแดง” กังวลมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการรับมือลูกกลางอากาศ เพราะแนวรับวัย 24 ปีมีส่วนสูงแค่ 175 เซนติเมตรเท่านั้น แต่จากตัวเลขในเอเรดิวิซี่ลีกก็ไม่ได้ขี้เหร่เลย แย่งโหม่งชนะถึง 79 จากทั้งหมด 112 ครั้ง เฉลี่ยอยู่ที่ 71% ดีกว่าคู่หูอย่าง เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ที่อัตราชนะอยู่ที่ 65%
– ฉายา “เดอะ บุตเชอร์”
หลังย้ายมาอยู่กับ อาแจ็กซ์ แฟนบอลแดนกังหันลมได้นิยามฉายาให้กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ว่า “เดอะ บุตเชอร์” ที่แปลเป็นไทยก็ประมาณ จอมสับ, จอมเชือด หรือ จอมแล่ อะไรทำนองนั้น เนื่องมาจากสไตล์การเข้าสกัดบอลที่ดุดัน ถึงลูกถึงคน
“ใช่ ผมถูกเรียกว่า คานิเซโร่ หรือ เดอะ บุตเชอร์ ออฟ อัมเตอร์ดัม (จอมแล่เนื้อแห่งอัมเตอร์ดัม) พวกเราชาวอาร์เจนไตน์ ทำทุกๆ อย่างด้วยความคลั่งไคล้ และเมื่อผมออกไปยังสนาม ผมจะสู้เพื่อบอลทุกๆ ลูก” ลิซานโดร เคยเปิดใจถึงฉายาดังกล่าว
– ไอดอลคือ ไฮน์เซ่
การเลือกย้ายมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก นอกจากจะเป็นความท้าทายที่เจ้าตัวอยากพิสูจน์แล้ว เอริค เทน ฮาก กุนซือคู่บุญก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาเลือก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากกว่าที่จะเป็น อาร์เซนอล อีกหนึ่งสโมสรที่แสดงความประสงค์ว่าอยากได้เขาเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการได้เล่นในทีมเดียวกับแข้งคนโปรดของตัวเองก็น่าจะเป็นหนึ่งในเหตุผลได้ไม่ยาก เพราะนักเตะไอดอลของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ก็คือ กาเบรียล ไฮน์เซ่ อดีตแนวรับทีมชาติอาร์เจนติน่า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ตำแหน่งการเล่นตรงกันพอดีด้วย
“ไอดอลของผมในสมัยเด็กก็คือ กาเบรียล ไฮน์เซ่ ผมดูเขาบ่อยมากตอนที่เขาเล่นให้ นีเวลล์ โอลด์ บอยส์ การผ่านบอลจังหวะเดียว, การเคลื่อนที่เติมเกมรุก, แนวทางการเล่นของเขา ความดุดัน และการต่อสู้ของเขามันน่าทึ่งมาก”