จบแชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ก็เท่ากับเป็นการรูดม่านปิดฉากฟุตบอลลีกฤดูกาล 2020-21 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และโปรแกรมหลังจากนี้จะเข้าสู่โหมดทีมชาติอย่างเต็มตัวหลังมีศึกใหญ่อย่าง ยูโร 2020 รออยู่
แม้จะชื่อเดิมเป็น ยูโร 2020 แต่ก็ถูกเลื่อนมา 1 ปีเนื่องจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 งานนี้บอกเลยมีผลไม่มากก็น้อย เพราะบางชาติถึงขั้นต้องเสียนักเตะกำลังสำคัญที่มาเจ็บระหว่างปีที่ผ่านมา
ให้เดาทีมเต็งแชมป์เชื่อว่าแฟนบอลชาวไทยน่าจะเห็นพ้องต้องกันไม่ยากว่าน่าจะมีประมาณ 8 ทีมจากชาติใหญ่ที่ขุมกำลังเหนือกว่าชาวบ้าน แต่ถ้าให้ระบุชื่อว่าใครเป็น “เต็งหนึ่ง” อันนี้คงเสียงแตก เพราะมุมมองคงแตกต่างกันไป
แต่วันนี้ทีมชาติ สิงห์สนามจริง จะลองมาวิเคราะห์ “จุดเด่น จุดด้อย” ของเหล่าชาติตัวเก็งกันดู เพื่อให้คุณผู้อ่านลองพิจารณาดูว่าก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม ชาติไหนมีโอกาสที่ดี และควรจะปันใจเชียร์ทีมใดดี
เต็ง 4 : อังกฤษ
จุดเด่น : จุดที่น่าสนใจมากๆ สำหรับ สิงโตคำราม ชุดนี้ คือการที่พวกเขามีแข้งสายเลือดใหม่ขึ้นมาประดับวงการลูกหนังอย่างมากมาย โดยเฉพาะในตำแหน่งกองกลางและกองหน้าที่เรียกว่าเหยียบกันตายเลยด้วยซ้ำ นับถึงที่เขียนในตอนนี้พวกเขายังไม่ตัด 26 คนสุดท้ายเลย แค่นี้ก็บ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต หนักใจแค่ไหน และอีกหนึ่งจุดแข็งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือการมี แฮร์รี่ เคน เป็นกองหน้าตัวเป้า เพราะนี่คือหนึงในนักเตะหมายเลข 9 ที่น่าจะครบเครื่องที่สุดในโลกเวลานี้เลย
จุดอ่อน : แม้ อังกฤษ จะมีกองกลางกับกองหน้าชนิดเหลือกิน เหลือใช้ แต่ถ้าหันไปดูผู้เล่นในเกมรับพวกเขากลับไม่มีแข้งระดับโลกที่ไว้ใจได้ แบ็กขวา แบ็กซ้าย เราไม่ห่วง แต่เซนเตอร์ฮาล์ฟมีแค่ จอห์น สโตนส์ กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่ไว้ใจได้ ที่เหลืออย่าง ไทโรน มิงส์, คอเนอร์ โคดี้, เบน ก็อดฟรี่ย์ และ เบน ไวท์ ประสบการณ์ระดับชาติน้อยมากๆ และที่น่ากังวลเลยคือโปรแกรมรอบ 16 ทีมที่พวกเขาอาจต้องเจอ โปรตุเกส, ฝรั่งเศส หรือ เยอรมัน ซึ่งโอกาสเข้ารอบมัน 50-50 จริงๆ
เต็ง 3 : เบลเยี่ยม
จุดเด่น : ทีม “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” การันตีการมายุโรป รอบสุดท้ายหนนี้ด้วยการเป็นทีมแร็งกิ้งเบอร์ 1 ของโลก ตรงนี้ก็น่าจะยืนยันแล้วว่าพวกเขามีดีแค่ไหน โดยจุดเด่นหลักๆ คือผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างเป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียง เล่นด้วยกันมานาน มี 3 ตัวรุกที่ถูกยกย่องว่าเป็นเบอร์ต้นๆ ของโลกในเวลานี้ นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์ และ โรเมลู ลูกากู ที่คงไม่ต้องอธิบายว่าเก่งกาจแค่ไหน
จุดอ่อน : ลูกทีมของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ หมายมั่่นปั่นมือกับทัวร์นาเมนต์นี้อย่างมาก เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่น่าจะอยู่ช่วงที่พีกที่สุดแล้ว แต่ที่น่ากังวลที่สุดคือหนีไม่พ้นแนวรับ แกนหลักไม่มี แว็งซ็องต์ กอมปานี แล้ว แถมพวก โธมัส แฟร์มาเล่น, แยน แฟร์ทองเก้น และ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ต่างก็วัยเกินเลข 3 ทั้งสิ้น อย่าง 2 คนแรกก็ไม่ได้เล่นในลีกชั้นนำของยุโรปแล้ว แม้ประสบการณ์จะดีแต่ถ้าเจอลูกสด ลูกแกร่งของทีมอื่นๆ ไม่รู้จะต้านได้แค่ไหน
เต็ง 2 : โปรตุเกส
จุดเด่น : แม้อัตราต่อรองส่วนใหญ่ โปรตุเกส อาจจะอยู่ราวๆ เต็ง 4 หรือ 5 แต่ในมุมมองผู้เขียนเชื่อมั่นว่าทัพ “ฝอยทอง” ไม่ได้ด้อยกว่า ฝรั่งเศส เลยด้วยซ้ำ นักเตะในทีมเรียกว่าแน่นทุกขุมกำลัง ผู้เล่นส่วนใหญ่กำลังอยู่ในช่วงที่กำลังพีกทั้งนั้น แนวรับมี รูเบน ดิอาส ดูแล แดนกลางมีทั้ง บรูโน่ แฟร์นานเดส, แบร์นาร์โด้ ซิลวา แผงเกมรุกเด็ดๆ ทั้งนั้น โรนัลโด้, ดิโอโก้ โชต้า, ชูเอา เฟลิกซ์ รวมถึงรองดาวซัลโวบุนเดสลีกาอย่าง อังเดร ซิลวา
จุดอ่อน : พูดในแง่ของขุมกำลังที่น่าห่วงที่สุดน่าจะเป็นตำแหน่งของเกมรับ รูเบน ดิอาส แกร่งจริงไม่มีอะไรต้องเถียง แต่คู่หูของเขาทั้ง เปเป้ หรือ โจเซ่ ฟอนเต้ ต่างก็อยู่ในช่วงท้ายชีวิตค้าแข้งทั้งนั้น เรียกว่าเลยจุดพีก ร่างกายไม่ได้พร้อมรบเหมือนสมัยหนุ่มๆ ตรงนี้หากเจอคู่แข่งที่หินๆ แนวรุกสปีดจัดจ้านน่าจะต้องลุ้นเหนื่อยเลย โดยเฉพาะรอบแบ่งกลุ่มที่ต้องห่ำหั่นทั้ง ฝรั่งเศส และ เยอรมัน ถ้าผ่านได้บอกเลยลุ้นถึงรอบชิงชนะเลิศ
เต็ง 1 : ฝรั่งเศส
จุดแข็ง : ทีมแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 กำลังอยู่ในยุคทองของพวกเขาเลยก็ว่าได้ ดิดิเย่ร์ เดสช็องป์ส มีตัวเลือกมากเสียเหลือเกิน เอาง่ายๆ แค่ดาวดังอย่าง ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, ฮูสเซม อาอูอาร์, เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า, อองโตนี่ มาร์กซิยาล ยังต้องลุ้นโผออกจากทีม
ส่วนผู้เล่นที่เรียกมาก็จัดจ้านทุกตำแหน่ง หลายคนกำลังผลงานดีกับสโมสรด้วย แดนกลางแค่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กำลังพีก ปอล ป็อกบา เล่นทีมชาติก็มักฟอร์มดี แนวรุกแค่ อองตวน กรีซมันน์ กับ คีลิยัน เอ็มบับเป้ ก็ว่าจัดจ้านแล้วยังได้ คาริม เบนเซม่า มาเติมเต็มอีก
จุดอ่อน : เอาจริงๆ ฝรั่งเศส จุดนี้แทบไม่มีจุดอ่อนเลยก็ว่าได้ นักเตะหลายๆ คนคือจุดเดิมที่ประสบความสำเร็จเมื่อ 5 ปีก่อน แต่ถ้าจะหาสักตำแหน่งคงมองที่แดนกลางที่เอาตัวเลือกมาน้อยมีแค่ 6 คน ส่วนใหญ่เล่นสไตล์ใกล้เคียงกันคือเป็นมดงาน ที่สำคัญขาดตัวทำเกมธรรมชาติ การตัดชื่อ อาอูอาร์ ออกไปรู้สึกเสียดายไม่น้อย