fbpx

เริ่มต้นจาก 0 : บทสรุปลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกไทยลีก

เริ่มต้นจาก 0 : บทสรุปลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกไทยลีก

เริ่มต้นจาก 0 : บทสรุปลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกไทยลีก

     เรื่องราวดราม่าของวงการฟุตบอลไทยในตอนนี้คงไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้าขั้นวิกฤตเฉกเช่นทุกวันนี้ ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนมันจะเริ่มส่งสัญญาณมากสักระยะหนึ่งแล้วว่าการบริหารงานจุดนี้ใกล้เคียงกับคำว่า ล้มเหลว ทั้งเรื่องเม็ดเงินการประมูลถ่ายทอดสดที่ลดลงแบบน่าใจหาย รวมไปถึงเงินสนับสนุนที่เหล่าสโมสรในไทยต่างได้รับผลกระทบกันแบบถ้วนหน้า

เคยขึ้นไปแตะหลักพันล้าน

เริ่มต้นจาก 0 : บทสรุปลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกไทยลีก

     ย้อนกลับไปในอดีตมูลค่าการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยเคยขึ้นไปแตะถึงหลัก 1,800 ล้านบาท ในช่วงปี 2014-16 ภายใต้การถ่ายทอดสดโดย ทรู วิชั่นส์ ซึ่งในห้วงเวลานั้นฟุตบอลไทยถือว่าบูมเอามากๆ นอกจากเรื่องตัวเงินแล้ว ในสนามแฟนบอลก็ต่างจูงมือลูกหลานเข้าไปชมในสนามกันอย่างเนืองแน่น แน่นอนว่ามันเมื่อช่วงน้ำขึ้น กระแสดี แฟนบอลติดตาม แต่ละสโมสรมีรายได้เข้าคลังในการพัฒนา และยกระดับลีกให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งปี 2017-2020 มูลค่าลิขสิทธิ์ของฟุตบอลไทยพุ่งทะยานไปถึง 4,200 ล้านบาท ตัวเลขดังกล่าวมันบ่งชี้ชัดเจนว่าฟุตบอลไทยได้ยกระดับไปอีกขั้นในช่วงเวลาไม่กี่ปี ทว่าด้วยเหตุการณ์วิกฤตของโลกใบนี้เมื่อเชื้อไวรัสอย่าง โควิด-19 เข้ามาแทรกแซง เหมือนเป็นการทำลายกำแพง และเป็นหนึ่งในจุดที่ทำให้กราฟฟุตบอลไทยดิ่งลงเหวแบบในปัจจุบัน ทว่าจะไปโทษแต่ปัจจัยภายนอกมันก็ดูจะไม่แฟร์มากนัก เพราะฟุตบอลลีกทั่วโลกก็ได้บทกระทบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสมาคมฟุตบอลในประเทศนั้นๆ ก็ต้องมีวิธีการแก้ไขในรูปแบบของตัวเอง

ตอนนี้ 50 ล้าน มันเกิดอะไรขึ้นกับบอลไทย?

เริ่มต้นจาก 0 : บทสรุปลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกไทยลีก

     ซึ่งกับฟุตบอลไทยเริ่มแรกด้วยการแตกหักกับ ทรู วิชั่นส์ ที่สนับสนุนกันมานานหลายปี ด้วยเงื่อนไขสัญญาที่ไม่เป็นไปตามที่กำหนด ส่วนหนึ่งคือโปรแกรมการแข่งขันที่คล่อมไปจากเดิม หลังจากนั้นลิขสิทธ์บอลไทยก็ถึงการเปลี่ยนแปลงไปอยู่ในมือของ เซ็นส์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ด้วยเม็ดเงินมหาศาล 12,000 ล้านบาท พร้อมเซ็นสัญญายาว 8 ฤดูกาล ทว่าท้ายที่สุดก็ไปกันไม่รอด ยกเลิกสัญญาแยกทางกันไป นี่แหละครับคือหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับกรณีฟุตบอลไทยลีก แม้ฤดูกาลก่อนจะได้ Ais เข้ามาอุ้มพร้อมจ่ายเม็ดเงินให้ราว 800 ล้านบาท กับการถ่ายทอดสด 2 ฤดูกาล (ซีซั่นละ 400 ล้านบาท) แต่พอจบฤดูกาลล่าสุดตัวเลขตรงนี้ก็ลดลงในทันที และลดลงชนิดที่มากกว่าเดิมเกิน 50% จากข่าวที่ระบุคือตัวเลขลดลงมาอยู่เพียงแค่ 50 ล้านบาทเท่านั้น เรียกได้ว่ามูลค่าต่ำกว่าเดิมแบบมหาศาล จนเป็นที่มาของลิขสิทธิ์ที่ไม่มีเจ้าของในฤดูกาล 2023-24

สโมสรเอาไปออกอากาศกันเอง

เริ่มต้นจาก 0 : บทสรุปลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกไทยลีก

     ซึ่งกับสถานการณ์ล่าสุดจากการประชุมกัน (อีกครั้ง) ของฝั่ง สมาคมฯ กับตัวแทนสโมสรสามารถสรุปได้ว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะเป็นผู้ผลิตสัญญาณถ่ายทอดสดไทยลีก 1 ก่อนปล่อยต่อให้แต่ละสโมสรไปออกอากาศกันเองในช่องทางต่างๆ โดยจุดนี้ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กล่าวว่า “เรามีการเจรจากันว่าเป็นแพ็คเดียวทั้ง 16 ทีม เอาทุกอย่างมาเฉลี่ยให้เท่ากันทุกสโมสร เพื่อที่ทีมใหญ่จะได้ช่วยทีมเล็ก” สรุปใจความได้ง่ายๆ ว่าจากนี้เหล่าสโมสรในไทยลีกต้องเป็นฝ่ายหาสปอนเซอร์กันเอง และแจกจ่ายเงินให้เท่าๆ กันในทุกสโมสร ส่วน สมาคมฯ จะเป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายเรื่องการถ่ายทอดสดทั้งหมด รวมไปถึงเทคโนโลยี VAR ด้วย ส่วนกรณีของไทยลีก 2 สมาคมฯ จะเป็นฝ่ายถ่ายทอดสดแต่ไม่ครบทุกคู่ และไทยลีก 3 ให้แต่ละสโมสรถ่ายทอดสดกันเองเหมือนช่วงที่ผ่านมา คราวนี้เรามาดู ข้อดี-ข้อเสีย ในการบริหารจัดการกันของสโมสรกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ข้อดี

เริ่มต้นจาก 0 : บทสรุปลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกไทยลีก

     เริ่มต้นกันที่สิ่งดีๆ กันก่อนคือเมื่อเหล่าทั้ง 16 สโมสรได้มาบริหารงานกันเอง เรื่องของเม็ดเงินจึงจะการันตีว่าได้ครบ และได้ตามจำนวนที่หารออกมาแล้วในจำนวนที่เท่าๆ กัน  เผลอๆ อาจได้มากกว่าขวบปีที่ผ่านมาเสียด้วยซ้ำ … ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าข่าวด้านลบเรื่องเงินสนับสนุนจากสมาคมฯ ค่อนข้างล่าช้า และได้ไม่ครบ แถมมีการผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ จนบางทีมมีปัญหาในเรื่องการเงิน ไม่มีจ่ายให้กับนักฟุตบอล และทีมงานสต๊าฟฟ์ ซึ่งพอได้มาบริหารกันเอง เป้าหมายจุดเดียวกันคือยกระดับวงการฟุตบอลไทยให้พัฒนาไปได้มากกว่าเดิม ถ้าสามารถจุดไฟติดให้กลับมาบูมอีกครั้งก็หมายถึงเหล่าสปอนเซอร์ต่างๆ จะเรียงคิวต่อแถวกันมาสนับสนุนแน่นอนนี่คือจุดดีที่อาจตามมาในอนาคตสำหรับการกำหนดทิศทาง และรายได้ต่างๆ ที่จะได้รับ 

ข้อเสีย

เริ่มต้นจาก 0 : บทสรุปลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกไทยลีก

     ส่วนทางฝั่งข้อเสียก็คือตรงข้ามที่กล่าวมาเลย เท่ากับว่าในฤดูกาลหน้าเหล่าสโมสรจะไม่ได้เงินค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดทางจาก สมาคมฯ เลยแม้แต่บาทเดียว พูดง่ายๆ จากลิขสิทธิ์ที่มูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท วันนี้ต้องมาเริ่มนับ 0 กันใหม่ทั้งหมด ซึ่งการบุกบั่นออกไปหาสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนในตอนนี้มันก็ไม่ได้เป็นการการันตีว่าจะได้เม็ดเงินที่คู่ควร อีกทั้งเมื่อมาเฉลี่ยให้กับเหล่าสโมสรแล้วมันจะมากกว่าที่ผ่านๆ มาหรือไม่ ฉะนั้นเหมือนดาบสองคมที่กำลังแทงกันไปมา ในเมื่อช่องทางการถ่ายทอดสดยังไม่นิ่ง ผู้สนับสนุนก็ย่อมชะงักไปก่อนกับการลงทุนด้วยเม็ดเงินก้อนโต อีกประเด็นนี้นี่คือเรื่องใหม่ของสโมสรฟุตบอลต่างๆ ที่ต้องปกครองกันเองทั้งหมด แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาในการผลักดันให้ฟุตบอลไทยกลับมาเป็นที่นิยมมีคนติดตามเหมือนในอดีตอีกครั้ง ถ้าสามารถร่วมมือทำกันได้สำเร็จข้อดีทั้งหมดมันจะไปตกอยู่ที่ตัวสโมสร และเหล่าแฟนบอล แต่กว่าจะถึงวันนั้นต้องผ่านวิกฤตวันนี้ไปให้ได้เสียก่อน

บอลไทยจะไปในทิศทางแบบไหน?

เริ่มต้นจาก 0 : บทสรุปลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกไทยลีก

     สรุปแล้ว ณ ตอนนี้เรื่องเม็ดเงินเรายังไม่อาจทราบได้ว่าแต่ละสโมสรจะได้แบ่งปันกันเท่าไหร่ และช่องทางถ่ายทอดสดจะเป็นแบบแอปพลิเคชันตามข่าวลือหรือไม่ แต่ถ้าให้ดีเพื่อเป็นการสนับสนุนวงการฟุตบอลไทย สนับสนุนทีมรักของตนเอง การพาเหรดซื้อตั๋วเข้าสนาม ซื้อของที่ระลึกของทีม ก็คือหนึ่งในช่องทางช่วยสโมสรให้เพิ่มรายได้ และยกระดับฟุตบอลไทยไปพร้อมๆ กัน

คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ฟุตบอลคอนเทนต์

ติดตามผลบอลสดเพิ่มเติม :: liverscore888th

ติดตามบทวิเคราะห์บอลเพิ่มเติม :: วิเคราะห์บอลวันนี้