สิ่งที่ เชลซี ต้องทำเมื่อซัมเมอร์ 2023 เดินทางมาถึง By Singsanam

สิ่งที่ เชลซี ต้องทำเมื่อซัมเมอร์ 2023 เดินทางมาถึง

ฤดูกาล 2022-23 คงเป็นขวบปีที่แฟนบอล เชลซี อยากจะให้รูดม่านปิดฉากไปให้เร็วที่สุด เพราะผลงานของทีมต้องยอมรับว่าล้มเหลว และน่าผิดหวังเป็นอย่างมากนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนหัวเรือใหญ่จาก โรมัน อบราโมวิช มาอยู่ในมือของ ท็อดด์ โบห์ลี่ ดูเหมือนว่าการเดินหมากจะผิดพลาดแบบต่อเนื่อง ทั้งเรื่องนอกสนาม และในสนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอล สิงห์บลูส์ ไม่คุ้นชินมากเท่าไหร่นักไล่ตั้งแต่การปลด โธมัส ทูเคิ่ล ออกจากตำแหน่งแบบค้านสายตาแฟนบอลค่อนโลก ถึงการตัดสินใจแยกทาง บวกกับการแต่งตั้ง แกรแฮม พ็อตเตอร์ ยิ่งทำให้เจอกระแสต่อต้านมากขึ้นไปอีก และพลังแรงวิจารณ์ก็หนักข้อขึ้นเมื่อผลงานในสนามดิ่งลงเป็นกราฟปักหัว

แม้ เสี่ยท็อดด์ จะพยายามซื้อใจกองเชียร์ด้วยการทุ่มเงินซื้อนักเตะไปมากกว่า 300 ล้านปอนด์ ทว่านั้นไม่ใช่สิ่งที่แฟนบอลต้องการเป็นลำดับแรกสิ่งที่เหล่ากองเชียร์ต้องการคือกุนซือสักคนที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมได้ ทำให้สโมสรกลับมาสามารถคาดหวังผลการแข่งขัน และเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง ว่าแล้ววันนี้เราจะพาไปส่องสิ่งที่ เชลซี ควรต้องทำในช่วงซัมเมอร์ที่กำลังจะมาถึงนี้ ว่าเรื่องใดคือประเด็นเร่งด่วนให้ ท็อดด์ โบห์ลี่ และเหล่าทีมบริหารต้องรีบจัดการแก้ไข

กุนซือคนใหม่

นี่คือประเด็นเร่งด่วนมากที่สุดในตอนนี้สำหรับ เชลซี คือการหากุนซือคนใหม่แบบถาวรมาร่วมทีมให้เร็วที่สุด ภายหลังปัจจุบันใช้งาน แฟรงค์ แลมพาร์ด คุมทีมแบบชั่วคราวไปจนกระทั่งจบซีซั่นนี้ ถ้ามองในแง่ดีการที่แต่งตั้งกุนซือคนใหม่ในช่วงซัมเมอร์มันมีเวลาให้นายใหญ่เลือกแต่งเติมทีมว่าขาดหายตรงไหน และมีเวลาติวแท็คติกให้ลูกทีมเข้าใจไปในแนวทางที่เหมือนกัน

จากกระแสข่าวที่โหมกระหน่ำกันมาตั้งแต่ตัดสินใจแยกทางกับ เกรแฮม พ็อตเตอร์ มีกุนซือ 2 ราย ที่ต้องเป็นข่าวหนาหูมากที่สุดคือ หลุยส์ เอ็นริเก้ กับ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ โค้ชโปรไฟล์ดี และกำลังว่างงานด้วยกันทั้งคู่ ในเคสของ เอ็นริเก้ มีข่าวว่าได้เดินทางมาลอนดอนเข้าพูดคุยกับบอร์ดบริหารของ เชลซี ถึงแนวทางการทำทีม และนโยบายที่จะปรับมาใช้กับทีม

ซึ่งในรายของนายใหญ่รายนี้ถ้าพูดถึงเรื่องประสบการณ์ต้องบอกว่ากินขาดผ่านเวทีมาแล้วทั้งกับ โรม่า, บาร์เซโลน่า หรือ ทีมชาติสเปน ยิ่งเป็นในยุคที่กุมบังเหียนทัพ อาซูลกราน่า ต้องบอกว่าคือห้วงเวลาทองคำของสโมสร และตัวเขาอย่างแท้จริง เพราะความสำเร็จหลั่งไหลเข้ามาแบบไม่ขาดสาย

ทว่าบอลสไตล์ เอ็นริเก้ แฟนบอลบางกลุ่มอาจมองว่าไม่เข้าระบบกับ เชลซี โดยเฉพาะฟุตบอลที่เน้นผล ไม่ได้หวือหวา หรือดุดันเท่าไหร่นัก ส่วนในรายของ นาเกลส์มันน์ ยังคงเงียบๆ ไม่ได้มีรายงานว่า เชลซี ได้ยื่นข้อเสนอไปทาบทามแล้วหรือยัง เพราะท่าทีนายใหญ่รายนี้ยังนิ่งกับอนาคตของตัวเอง ทั้งที่ตกเป็นข่าวกับทั้งทัพ สิงห์บลูส์ และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

ซึ่งด้วยวิธีการของ นาเกลส์มันน์ เป็นฟุตบอลยุคใหม่ เน้นไปที่การเพลสซิ่งเร็ว โจมตีไว และฟุตบอลเกมรุก ฉะนั้นไม่แปลกที่แฟนบอล เชลซี หลายๆ คนอยากได้นายใหญ่รายนี้มาคุมทีมในฤดูกาลหน้า

กองหน้า

นี่เป็นตำแหน่งที่ เชลซี ขาดหายเหลือเกินในตอนนี้ จนเป็นที่มาของการผลิตสกอร์ที่ไม่ต่อเนื่อง และไม่สามารถขาดหวังผลได้เลย รวมไปถึงความอันตรายในกรอบเขตโทษที่ประสิทธิภาพด้อยลงแบบชัดเจนถ้าลองเจาะลึกลงไปในรายละเอียดในแต่ละเกม ทีมสร้างโอกาสการทำประตูได้เยอะพอสมควร ยกตัวอย่างเกมดวลกับ วูลฟ์แฮมป์ตัน พวกเขามีโอกาสจบสกอร์ 13 ครั้ง ทว่าตรงกรอบแค่ครั้งเดียว ก่อนลงเอยด้วยความพ่ายแพ้

หรือนัดที่เสมอกับ ลิเวอร์พูล 0-0 ทีมได้โอกาสจสกอร์ 12 ครั้ง แต่ไม่จบไม่คมกันไปเอง ทำพลาดเก็บชัยชนะแบบน่าเสียดายจนเกิดสถิติล่าสุดที่ว่า เชลซี ทำประตูติดต่อกันไม่ได้มา 4 เกม ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีเลยทีเดียว

เหล่าบรรดานักเตะเกมรุกยิงนกตกปลากันไปซะเยอะ ทั้ง ไค ฮาเวิร์ตซ์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เจา เฟลิกซ์ หรือ มิไคโล มูดริก ไม่สามารถแปรเปลี่ยนโอกาสเหล่านั้นได้เลยไม่แปลกที่จะมีการล้อเลียนว่า เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ดาวยิงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คนเดียว สามารถทำประตูได้มากกว่านักเตะ เชลซี รวมกันทั้งทีม

มองไปที่ขุมกำลังนักเตะในบทบาทกองหน้าธรรมชาติมีเพียงรายเดียวคือ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ทว่าในยุคของ พ็อตเตอร์ เจ้าตัวก็ถูกเมินไม่ใช้งาน กลายเป็นกองหน้าที่ถูกลืมไปแล้ว ส่วน ดาวิด ดาโทร โฟฟาน่า ที่เพิ่งดึงเข้ามา ขออนุญาตละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าคือดาวรุ่งที่ดึงมาเพื่ออนาคตมากกว่า

ส่วนในซัมเมอร์หน้าที่ทีมจะได้กลับมาคือ โรเมลู ลูกากู ที่ปล่อยไปให้ อินเตอร์ มิลาน ยืมตัวใช้งาน ทว่าต้องมาคอยดูว่ากุนซือคนใหม่จะไว้ใจดาวยิงค่าตัว 100 ล้านปอนด์คนนี้หรือไม่

ที่ผ่านมานักเตะในตำแหน่งหมายเลข 9 ที่ตกเป็นข่าวด้วยก็คือ วิคเตอร์ โอซิมเฮน ซึ่งในเรื่องค่าตัวเชื่อว่า เสี่ยท็อดด์ มีกำลังมากพอในการควักกระเป๋าจ่ายออกไป ทว่ามันก็มีปัจจัยอื่นๆ ร่วมอยู่ด้วย เพราะนักเตะเนื้อหอมเหมือนกัน ได้รับความสนใจจากอีกหลายๆ สโมสรซึ่งประเด็นนี้ต้องรอดูด้วยว่าโค้ชใหม่ของพวกเขาเป็นใคร และต้องการกองหน้าจบสกอร์ในรูปแบบใด เพื่อจะได้เข้ากับแท็คติกในการติดตั้งสู้ศึกซีซั่นหน้า

เกมรับ

อีกหนึ่งตำแหน่งที่อาจต้องมีเสริมเข้ามาบ้างคือแผนกเกมรับโดยเฉพาะทางฝั่งแบ็คขวาที่ตอนนี้มี รีซ เจมส์ ยึดเป็นตัวหลัก ส่วนแบ็คอัพก็มี เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า อีกราย แต่ทว่าดูเหมือนทรัพยากรส่วนนี้อาจจะยังไม่เพียงพอเท่าไหร่นัก

ซีซั่นนี้คุณภาพของ เจมส์ ดูดรอปลงไปจากในช่วงหลัง อาจจะด้วยอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าที่เล่นงาน ฉะนั้นการที่หาใครมาสักคนมาคอยเติมเต็มอาจเป็นเรื่องน่าควรทำในช่วงซัมเมอร์นี้

ส่วนทางฝั่งซ้ายมีทั้ง เบน ชิลเวลล์ กับ มาร์ค คูคูเรย่า อยู่แล้ว ทว่าปัญหาอยู่ที่รายหลังมาตรฐานยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่รัก บางเกมแสดงความผิดพลาดออกมาอยู่บ่อยครั้ง ส่วน ชิลเวลล์ เองก็ต้องภาวนาว่าอย่าให้อาการบาดเจ็บเข้ามารบกวนอีกเลย

ขยับมาที่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟตัวเลือกของทีมถือว่าหลากหลายพอสมควรไล่มาตั้งแต่ ตอาโก้ ซิลวา, คาลิดู คูลิบาลี่, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, เทรโวห์ ชาโลบาห์ และ เบอนัวร์ บาเดียชิลล์ ทว่าก็ต้องอยู่ที่โค้ชใหม่อีกว่าพอใจไหมกับนักเตะเซ็นเตอร์ฮาร์ฟที่มีอยู่

สรุปแล้วซัมเมอร์ 2023 ของ เชลซี ต้องยอมรับว่ามีหลากหลายเรื่องให้ได้ปรับเปลี่ยน และเดินหน้าแก้ไข ทั้งเรื่องนอกสนาม และในสนาม การจัดหากุนนซือ และนักเตะใหม่กับประสบการณ์ที่เจอมาตลอดฤดูกาลนี้แฟนบอล เชลซี คงหวังว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ คงน่าจะพอรู้ซึ้งแล้วว่าการบริหารงานมันเป็นอย่างไร และอย่าทำอะไรเพียงแค่ใจตัวเองต้องการเท่านั้น

คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ฟุตบอลคอนเทนต์

รับชมฟุตบอลออนไลน์ :: ดูบอลสด

ติดตามบทวิเคราะห์บอลเพิ่มเติม :: วิเคราะห์บอลวันนี้