fbpx

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังจะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลกันแล้ว เรื่องของการลุ้นแชมป์ยังคงน่าสนใจเหมือนเช่นกันเคย เมื่อการขับเคี่ยวกันระหว่าง อาร์เซน่อล กับ แมนฯ ซิตี้ ยังคงดุเดือดวัดกันแบบเกมต่อเกม ส่วนพื้นที่ตกชั้นเป็นฤดูกาลที่มีอัตราความสูสีมากพอสมควร ต่างฝ่ายต่างมีช่วงเวลาที่ดี และดร็อปไปไม่ต่างกัน ซึ่งจนถึงตอนนี้ทีมอันดับ 20 ยัน 12 อย่าง คริสตัล พาเลซ ก็สามารถล่วงหล่นไปในโดซนสีแดงได้ไม่ต่างกัน ส่วนอีกหนึ่งโควต้าที่ได้รับความสนใจมากพอสมควรคือทีมที่ลึ้นพื้นที่อันดับ 3 และ 4 ที่มีตั๋วลุย แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าเป็นเดิมพัน นับจนถึงตรงนี้แน่นอนแล้วว่ามีการแก่นแย่งกันทั้งหมด 4 ราย ประกอบไปด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ซึ่งวันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่าแต่บะทีมมีโอกาสไม่น้อยแค่ไหน สำหรับการจบ 38 นัด พร้อมได้โควต้าไปลุยบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปในซีซั่นหน้า

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ถ้าถามถึงโอกาสว่าทีมไหนมีโอกาสเข้าป้ายติดเป็น 1 ใน 4 มากที่สุดคงต้องยกให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้โมเมนตั้มดีกว่าคู่แข่งพื้นที่เดียวกันมากพอสมควร ปัจจุบันทัพปีศาจแดง เก็บไปแล้ว 50 คะแนน จากการลงสนาม 26 เกม พร้อมผลงานโดยรวมที่ต้องยอมรับว่ามาตรฐานค่อนข้างดี แม้ 2 เกมหลังสุดในลีกจะสะดุดพลาดไปไม่ชนะทั้งคู่ แต่มวลรวมทั้งหมดพวกเขายังถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ดีไม่ใช่น้อย

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

ทว่าความน่ากังวลของพวกเขาคือการที่ยังคงต้องลงเล่นอีก 2 รายการทั้ง เอฟเอ คัพ กับ ยูโรปา ลีก อาจเป็นตัวที่เหนียวรั้งเอาไว้ เพราะด้วยโปรแกรม และขนาดทีมที่ตอนนี้ไม่ใหญ่มากนัก อาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ ทั้งเรื่องของอาการบาดเจ็บนักเตะที่ช่วงหลังเข้าโรงหมอกันแบบสลับตัว คนนั้นหาย คนนี้มาแทนที่

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

โปรแกรมที่เหลือในเกมลีกของ ยูไนเต็ด ยังต้องดวลกับคู่แข่งในระดับใกล้เคียงทั้ง นิวคาสเซิ่ล ที่จะออกไปเยือนช่วงต้นเดือนเมษายน รวมไปถึงช่วงปลายเดือนมีโปรแกรมหนักๆ รออยู่อีก 2 เกมคือพบ เชลซี (ห) และ ออกไปเยือน สเปอร์ส ว่ากันตามตรงถ้าหลุดพ้นโปรแกรมตรงนั้นไปได้ และเก็บแต้มได้น่าพึงพอใจโอกาสจะขยับเข้าใกล้ และได้ตั๋วกลับไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก คงจะแบเบอร์มากยิ่งขึ้น ทว่าถ้ามันออกมาฝั่งตรงข้าม ก็ต้องมาดูกันว่าสถานการณ์ตอนนั้นทีมยังมีรายการอื่นลงเล่นไหม และตัวนักเตะจะกรอบมากขนาดไหน จากโปรแกรมที่เตะถี่ๆ มาตลอดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

ยังคงเกาะกลุ่มลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ได้อย่างต่อเนื่องสำหรับพลพรรคทัพ ไก่เดือยทอง แม้ที่ผ่านมาจะมีอาการสะดุดให้ได้เห็นอยู่บ่อยครั้งก็ตาม ที่ผ่านมาจุดหนึ่งที่ สเปอร์ส ยังไม่สามารถแก้ไขได้เลยคือเรื่องของมาตรฐาน เกมไหนที่ได้เปรียบคาดว่าต้อง 3 คะแนนก็ปล่อยหลุดมือไปแบบน่าเสียดาย หรือบางทีมหลุดฟอร์มไปไกลแพ้แบบหลุดลุ่ยเลยก็มี

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดอย่างในเกมกับ เลสเตอร์ ที่บุกไปแพ้เละเทะ 4-1 ทั้งที่ควรจะเก็บได้อย่างน้อย 1 คะแนน แม้เจ้าบ้านจะเหนียวแน่น แต่ศักยภาพที่ทีมมีก็ไม่ควรจะปล่อยจอยได้ถึงขนาดนั้น หรือเกมบุกพ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่เป็นอีกนัดที่ทำคะแนนหลุดมือแบบง่ายๆ จากอย่างน้อยๆ 1 คะแนน ก็กลายเป็นมือเปล่ากลับบ้าน

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

ส่วนโปรแกรมหลังจากนี้ของ สเปอร์ส ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยทีเดียว แม้จะรั้งอันดับ 4 อยู่ในขณะนี้ก็ตาม มีช่วงหฤโหดดวลทีมหัวตาราง 3 เกม ทั้ง พบ นิวคาสเซิ่ล (ย), ดวล แมนฯ ยูไนเต็ด (ห) และปิดท้ายที่ออกไปเยือน ลิเวอร์พูล

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

ซึ่งด้วยผลงานอย่างที่กล่าวไปว่ามาตรฐานคือสิ่งที่ อันโตนิโอ คอนเต้ ควรที่จะใส่ไปในตัวลูกทีมให้ได้ เพื่ออย่างน้อยการไม่เสียแต้มง่ายๆ ก็เพิ่มโอกาสให้ตัวเองมากยิ่งขึ้น เพราะตั๋ว แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างน้อยก็เหมือนของขวัญให้แฟนบอล หลังจากที่ผิดหวังไร้โทรฟี่แชมป์ไปอีกฤดูกาล

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

หลังจากก่อนหน้านี้มีทัพสาลิกาดง แสดงความเหนียวแน่นของแผงเกมรับมาตลอด ทว่าช่วงหลังกลายเป็นทีมที่เสียประตูแทบตลอด โดยเฉพาะ 7 เกมหลังสุดในทุกรายการไม่อาจเก็บคลีนชีตได้เลย จากตอนแรกเกาะที่ 3 อย่างเหนียวแน่น ทว่าด้วยผลที่หลุดเสมอ และแพ้ในช่วงหลังทำให้สถานภาพการลุ้นท็อปโฟร์อาจต้องเร่งสปีดตัวเองกันยกใหญ่

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

ถ้าว่ากันตามขุมกำลังเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน ต้องยอมรับว่า นิวคาสเซิ่ล คือทีมที่ประสบการณ์น้อยที่สุด และขนาดนักเตะในทีมไม่ได้ใหญ่มากนัก รวมไปถึงตัวสำรองในบางตำแหน่งยังไม่อาจทดแทนเหล่าตัวจริงได้มากนักแดนกลางเมื่อขาด บรูโน่ กิมาไรส์ ส่งผลชัดเจน ส่วนเกมรุกเป็นตำแหน่งที่ไม่ใช่จุดเด่นของพวกเขาเท่าไหร่รัก นักเตะในแผนกกองหน้าทั้ง คาลั่ม วิลสัน ที่เพิ่งทำประตูในเกมลีกไปเพียง 7 ตุง หรือ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ก็เข้าโรงหมอบ่อยจนหาความสม่ำเสมอไม่ค่อยได้นัก

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

ทว่าจุดเด่นของทัพสาลิกาดง คือทีมเวิร์คภายใต้การบริหารงานของ เอ็ดดี้ ฮาว ที่สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างยอดเยี่ยม มันเลยทำให้พวกเขายังคงอันตรายอยู่เสมอ ส่วนเรื่องโปรแกรมถือว่าหนักเอาการต้องดวลกับทีมใหญ่ๆ แทบครบแผงทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด (ห), สเปอร์ส (ห), อาร์เซน่อล (ห) และปิดท้ายซีซั่นด้วยการออกไปเยือน เชลซี ที่บางทีอาจเป็นเกมตัดสินโชคชะตาบอลยุโรปของพวกเขาก็เป็นได้

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

ลิเวอร์พูล

จากตอนแรกดูเหมือนโอกาสลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์จะเลือนรางไปบางพอสมควร จากผลงานที่สะดุดอย่างบ่อยครั้ง ทว่าด้วยทีมที่นำหน้าไม่ได้ทำแต้มทิ้งห่าง บวกกับเก็บชัยได้อย่างต่อเนื่องทำให้สถานการณ์กลับมาได้ลุ้นแบบเต็มตัวอีกครั้ง ปัญหาอย่างแรกของ หงส์แดง ในตอนนี้คือเกมเยือนที่ค่อนข้างมีปัญหา เสียแต้มบ่อย และสะดุดเยอะ ซึ่งด้วยสิ่งเหล่านี้ทำให้อันดับ ณ ปัจจุบันรั้งอยู่อันดับ 6 ตามหลัง สเปอร์ส อยู่ 6 คะแนนด้วยกัน

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

ทว่าด้วยความเป็น ลิเวอร์พูล บวกกับการมี เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้ยังคงมีอัตราความน่ากลัวสูงอยู่เสมอ บวกกับลูกประสบการณ์ที่นักเตะในทีมมีมากขึ้น น่าจะเป็นตัวช่วยได้ไม่น้อยและแน่นอนว่าโปรแกรมในเกมลีกถัดจากจากนี้อีก 3 นัดน่าจะเป็นตัวชี้วัดชั้นยอด จากการบุกเยือน แมนฯ ซิตี้ ต่อด้วยพบ เชลซี และกลับมาเล่นใน แอนฟิลด์ ดวลกับ อาร์เซน่อล ถ้า 3 เกมนี้ไร้พ่าย และเก็บได้มากกว่า 6 คะแนน พื้นที่อันดับ 4 คงไม่ไกลจากพวกเขาเท่าไหร่แล้ว

ส่องโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ ของ 4 ทีมพรีเมียร์ลีก

สรุปพื้นที่ท็อปโฟร์ซีซั่นนี้กลายเป็นอีกความสนุกที่น่าสนใจเหลือเกิน กับโปรแกมที่เหลืออีกราว 10 เกม การพลาดเพียงนัดเดียวบางทีอาจส่งผลต่อระยะยาวอยู่ที่ว่าใครยืนระยะ และผิดพลาดน้อยที่สุดเท่านั้นเอง

คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ฟุตบอลคอนเทนต์