มูรินโญ่ : ขาลงของโคตรโค้ชอหังการ
มูรินโญ่ : ขาลงของโคตรโค้ชอหังการ
ในขณะที่สาวก “เรด เดวิลส์” กำลังตื่นเต้นกับโค้ชใหม่ที่ชื่อ ราล์ฟ รังนิก ที่ประเดิมเกมแรกได้อย่างราบรื่นหลังได้ เฟร็ด กองกลางตัวฮายิงประตูชัยสุดสวยเหนือ คริสตัล พาเลซ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บรรยากาศที่ชื่นมื่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ถือเป็น contrast โดยสิ้นเชิงเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นที่กรุงโรม ที่ทุกอย่างสะท้อนออกมาทางสีหน้าอันบึ้งตึงของ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้เคยเป็นอดีตกุนซือของ “ผีแดง” “งานของคุณมันง่ายกว่างานของเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะเงินเยอะกว่าคุณ” คำสัมภาษณ์ฺสไตล์ประชดประชันนักข่าวเป็นอะไรที่แฟนบอลคุ้นเคย มักจะปรากฏขึ้นทุกครั้งเมื่อการคุมทีมของเขาไม่ราบรื่นและตัวเองเริ่มจะต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดัน
กาลครั้งหนึ่งกุนซือวัย 58 ปีเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกุนซือที่เก่งที่สุดในโลก แต่วันนี้คำว่า “กุนซือตกยุค” ถูกนำมาเปรียบเปรยกับเจ้าตัวบ่อยครั้ง หลังผลงานการคุมทีมในช่วงหลังมีทีท่าว่าจะถดถอยหลังลงไปทุกที จริงอยู่ว่าโลกของฟุตบอลเปลี่ยนแปลงไปไวมาก แต่คงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเห็น มูรินโญ่ ตกอยู่ในสถานการ์เช่นนี้ กุนซือชาวโปรตุกีส เริ่มสร้างชื่อให้กับตัวเองจากการคุม ปอร์โต้ คว้าแชมป์ลีกบ้านเกิด ก่อนเป็นที่รู้จักทั่วโลก หลังกลายเป็นม้ามืดคว่ำทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มี เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย และในฤดูกาล 2003-04 “เดอะ ดราก้อนส์” ในมือของเขาแข็งแกร่งถึงขั้นขึ้นไปเถลิง “บิ๊กเอียร์” ได้อย่างยิ่งใหญ่
แชมป์ ยูซีแอล อาจจะผลักดันชื่อของเขาให้เข้าสู่สปอร์ตไลท์ แต่ที่เด็ดกว่าคือ “ฝีปาก” ที่ทำให้กลายเป็นดาวเด่นของวงการลูกหนังไปโดยปริยาย ประโยคที่กล่าวในวันรับตำแหน่งกุนซือของ เชลซี ทำเอาหลายคนหมั่นไส้ไม่น้อย “เรามีผู้เล่นระดับสูง แต่ขอโทษหากผมจะหยิ่งผยอง เรามีผู้จัดการทีมชั้นนำได้โปรดอย่าบอกว่าผมหยิ่ง แต่ผมเป็นแชมป์ยุโรป และผมคิดว่าผมคิด เดอะ สเปเชี่ยล วัน”
อย่างไรก็ตาม มูรินโญ่ ไม่ใช่กุนซือราคาคุย การได้เข้ามาทำงานในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไม่ต่างอะไรกับ “เสือติดปีก” ภายใต้ทรัพยากรที่เพียบพร้อม เขาสามารถเสกแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรก แถมป้องกันแชมป์ได้ด้วยในฤดูกาลต่อมา แม้จะไม่ใช่คนริเริ่ม 4-3-3 แต่ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเขาคือผู้นำเทรนด์ระบบดังกล่าวมายังลีกผู้ดี ฟุตบอลที่ให้ความสำคัญกับการเอาชนะแดนกลาง เลือกใช้หน้าเป้าคนเดียว กลายเป็นแผนแม่บทที่แม้แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซนอล ต้องปรับตาม
หลังแยกทางกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” กุนซือจากแดนฝอยทองโยกไปทำงานในเซเรีย อา อิตาลี กับ อินเตอร์ มิลาน และก็ได้พิสูจน์อีกครั้งว่าเขาเป็น “ของจริง” พาทีมคว้าสคูเด็ตโต้ 2 ปีติดต่อกัน และที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในปี 2010 มูรินโญ่ ถูกยกย่องว่าเป็นกุนซือผู้ล่าความสำเร็จ เขาสามารถการันตีแชมป์ได้ทุกสโมสรที่ได้คุมทีม ไม่เว้นแต่ เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่จากสเปน ที่กลับมาคว้าแชมป์ ลา ลีกา ครั้งแรกในรอบ 4 ปี ก็เกิดขึ้นด้วยน้ำมือการคุมทีมจากชายปากร้ายคนนี้
การคุม เชลซี คำรบสองก็ไม่ทำให้ โรมัน อบราโมวิช ต้องผิดหวัง ใช้เวลาจูนทีมซีซั่นเดียวก็แย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก มาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคของ มานูเอล เปเญกรินี่ มาแบบ Outclass แต้มห่างอันดับ 2 ถึง 8 คะแนน ด้วยโปรไฟล์สุดหรูไม่แปลกใจแต่อย่างใดที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ห่างความสำเร็จไปนานหลัง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ จะเรียกใช้บริการของ มูรินโญ่ บ้างในปี 2016 ทว่่าคราวนี้มันไม่ใช่หนังม้วนเดิมอีกต่อไป กุนซือชาวโปรตุกีส ต้องเจอกับคู่ปรับตัวฉกาจทั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, เจอร์เก้น คล็อปป์ และ อันโตนิโอ คอนเต้ ซึ่งปีแรกเจ้าตัวพาทีมจบอันดับ 6 ยังดีที่คว้าแชมป์ ยูโรป้าลีก ทำให้ได้โควต้าไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลต่อมา ปกติการคุมทีมของ “เดอะ สเปเชี่ยล วัน” มักจะโชว์ของดีในปีที่ 2 แต่ทำไปทำมาชีวิตที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ยิ่งคุมกราฟดูจะยิ่งดิ่งเหว ซีซั่นแรกกลายเป็นภาพจำที่ดีที่สุดหลังได้ 3 แชมป์บอลถ้วย ยูโรป้าลีก, คอมมิวนิตี้ชิลด์ และ ลีก คัพ ด้วยฟุตบอลสมัยใหม่ที่มีความยืดหยุ่นสูงมีทั้ง เกเก้นเพรสซิ่ง, อินไซด์ฟูลแบ็ก และระบบหลัง 3 คนที่กำลังเป็นที่นิยม ทำเอาแท็กติกเดิมๆ ที่ มูรินโญ่ เคยใช้ประสบความสำเร็จกลายเป็นเพียงเด็กอมมือ จากมาตรฐานเดิมที่สูงปรี๊ด มีทีมใหญ่พาเหรดมาจีบไม่ขาดสาย มูรินโญ่ ต้องดร็อปตัวเองมาคุม ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่สุดท้ายก็ไปไม่รอด กุมบังเหียนได้เพียง 1 ปี 5 เดือน ก่อนถูกเชือดทิ้งเพียงไม่กี่วันที่จะพาทีมชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ ชื่อเสียงเก่าๆ ของ มูรินโญ่ ยังคงขายได้อยู่ เจ้าตัวถูกแต่งตั้งเป็นกุนซือใหม่ของ โรม่า ซึ่งผลงานใน เซเรีย อา ที่เคยทำไว้ราวเทพเจ้ากับ อินเตอร์ ทำให้ทีมคาดหวังว่าเขาจะเป็นคนที่ใช่ที่จะปลุก “หมาป่ากรุงโรม” ให้กับมาผงาดอีกครั้ง แรกๆ เหมือนจะดี เปิดหัวซีซั่นชนะรวด 3 เกมติดต่อกัน แต่ตอนนี้ทำไปทำมาเล่นไป 16 นัดพาทีมแพ้ไปแล้วถึง 7 เกม ตามหลังจ่าฝูง เอซี มิลาน ถึง 13 คะแนน แถมสถิติที่เคยอยู่บนหิ้งก็ทยอยถูกทำลายลงเรื่อยๆ คุมทีมแพ้เกมเหย้าในพรีเมียร์ลีก ครั้งแรกหลังคัมแบ็กคุม เชลซี คำรบสอง, พาทีมแพ้ 10 นัดในซีซั่นเดียวเป็นครั้งแรกในอาชีพตอนคุม สเปอร์ส ล่าสุดสถิติไร้พ่ายเกมเหย้าในเซเรีย อา ก็โดนทำลายด้วยน้ำมือของ “ปิศาจแดงดำ” แว่วๆ มาว่า เอฟเวอร์ตัน อยากได้ มูรินโญ่ เข้าไปเป็นนายใหญ่คนใหม่แทนที่ ราฟาเอล เบนิเตซ ที่กำลังร่อแร่ แต่ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง ยิ่งบ่งชี้ว่าระดับความเป็นยอดกุนซือของเขากำลังจะ Downgrade ลงไปอีกขั้นเห็นกราฟชีวิตของ “เดอะ สเปเชี่ยล วัน” แล้วทำให้นึกถึงคำโบราณที่ว่า “มีขึ้นก็มีลง” ไม่มีใครที่จะไร้เทียมทานไปตลอดกาล
คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ข่าวบอล
คอนเทนต์เพิ่มเติม
5 ปัญหาใหญ่ของ ยูไนเต็ด
5 แข้งดังจากอคาเดมี่ อาแจ็กซ์
3 ประเด็นหลังเกม สาลิกา จิก ผี
5 อดีตดาวดังของ ลียง ลงเป็นยิง
