โทรเฟ่ เดส์ ชองปิยงส์ : เปแอเช กับโอกาสมาโชว์ผลงานที่เมืองไทย 1 Right Now By Singsanam

โทรเฟ่ เดส์ ชองปิยงส์ : เปแอเช กับโอกาสมาโชว์ผลงานที่เมืองไทย

ข่าวใหญ่เกี่ยวกับวงการลูกหนังในเมืองไทยตอนนี้คงเป็นประเด็นที่ชวนตื่นเต้นคือการแข่งขันรายการ โทรเฟ่ เดส์ ชองปิยงส์ กำลังจะมาโชว์เพลงแข่ง ณ กรุงเทพมหานคร ในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้

หลังจากเมื่อราว 1 ปีก่อนได้เกิดการแข่งขันนัดประวัติศาสตร์อย่าง The Match ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด โคจรมาดวลกับ ลิเวอร์พูล ที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเร็วๆ นี้แฟนบอลในบ้านเรากำลังจะได้ยลโฉมฟุตบอลอีกหนึ่งแมตช์ที่น่าสนใจ

รายการ โทรเฟ่ เดส์ ชองปิยงส์ คือการเอาแชมป์ลีก เอิง มาพบกับ แชมป์เฟร้นช์ คัพ ซึ่งโอกาสในตอนนี้มีมากเลยทีเดียวที่แฟนบอลจะได้ยลโฉมเหล่ายอดแข้งภายใต้สีเสื้อของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เพราะนับจนถึงตอนนี้พวกเขามีสิทธิ์เข้าป้ายคว้าแชมป์ลีก เอิง สูงมากเหลือเกิน ซึ่งการแข่งขันเกมดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กว่าจะเดินทางไปถึงวันนี้ เราไปดูกันหน่อยว่ามีประเด็นบ้างที่น่าสนใจ และมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นเมื่อยอดทีมจากฝรั่งเศสมาโชว์เพลงแข้งในแดนสยาม

โอกาสของทีมที่จะมา

อย่างที่กล่าวไปว่ารายการ โทรเฟ่ เดส์ ชองปิยงส์ คือการเอาแชมป์ ลีก เอิง มาดวลกับแชมป์บอลถ้วย ซึ่งสถานการณ์ ณ ปัจจุบันในเกมลีกก็ถือว่ามีโอกาสมากเหลิอเกินที่ เปแอสเช จะเข้าป้ายคว้าแชมป์ไปครอง เพราะด้วยคะแนนที่ห่างจากอันดับ 2 อย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย 7 คะแนน ทำให้มีลุ้นมากเหลือเกิน ทว่าสิ่งที่น่ากังวลคือผลงานของ เปแอสเช ช่วงหลังในเกมลีกไม่ค่อยสม่ำเสมอมากเท่าไหร่นัก บางเกมเก็บชัยชนะได้แต่ก็กระท่อนกระแท่นมากเหลือเกิน บวกกับตาอยู่กับทัพ “โอเอ็ม” ก็พร้อมสวมรอยทุกเมื่อ มันก็เลยยังไม่อาจการันตีแชมป์ได้แบบ 100% ส่วนในรายการ เฟร้นช์ คัพ ตอนนี้ดำเนินมาถึงรอบรองชนะเลิศกันแล้ว จะมาการดวลกันของ น็องต์ พบ โอลิมปิก ลียง และ อานน์ซี่ พบกับ ตูลูส ซึ่งรายการนี้ปกติเจ้าของที่แทบจะรับสัมปทานในช่วง 7 ปีหลังคือ เปแอสเช ทว่าซีซั่นนี้ต้องบอกว่ามีความสูสีไม่น้อย แม้มองตามศักยภาพ ลียง จะได้เปรียบมากกว่าทีมอื่นๆ ทว่า น็องต์ ก็คือแชมป์เก่าจากซีซั่นที่แล้่ว ส่วน อานน์ซี่ อาจมาจากลีกรอง แต่คงไม่ธรรมดา และไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ฉะนั้นน่าสนใจว่าจะเป็นใครในการก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ทั้ง 4 สโมสรเองก็ถวิลหา ก่อนจะเดินทางพร้อมลุ้นความสำเร็จอีกครั้งที่ประเทศไทยในช่วงกลางปีนี้

โอกาส เปแอสเช คว้าแชมป์ ลีกเอิง

ถ้าถามถึงโอกาสที่ เปแอสเช จะสอยแชมป์ลีกในซีซั่นนี้มากเท่าไหร่ ? คงตอบได้ว่ามีมากกว่า 70% แต่วงเล็บในกรณีที่พวกเขาไม่ประมาณ และพลาดกันง่ายๆ อีก เพราะนี่คือโทรฟี่ใบเดียวที่ยังคงได้ลุ้นอยู่ในตอนนี้ ภายหลังร่วงตกรอบ แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เฟร้นช์ คัพ ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โปรแกรมที่เหลือของ เปแอสเช ก็ถือว่าไม่ได้หนักอะไรมากนัก เพราะผ่านทีมหัวตารางมาหมดแล้ว อาจจะมีหนักหน่อยคือหลังโปรแกรมทีมชาติที่จะกับ โอลิมปิก ลียง ต่อด้วย นีซ ส่วนหลังจากนั้นถือว่าพวกเขาสามารถผ่านได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นกับ อองเช่ร์ ทีมบ๊วยของลีก ทรัวส์ ที่กำลังดิ้นรนการหนีตกชั้น หรือ อฌักซิโอ้ แม้จะเจอทีมเร้ดโซนที่ต้องการคะแนน ทว่าด้วยศักยภาพแล้ว เปแอสเช ดีกว่าหลายช่วงตัวคงไม่มีอะไรผิดพลาด ฉะนั้นกับเส้นทางที่เหลืออยู่ทำให้ เปแอสเช มีโอกาสเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีก เอิง สมัยที่ 11 มาครองได้สำเร็จ พร้อมพกดีกรีเต้ยแห่งวงการลูกหนังแดนน้ำหอมมาโชว์ตัวที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน

สตาร์ดังจะมาไหม ?

ย้อนกลับไปช่วงซัมเมอร์ปีก่อนแฟนบอลหลายคนผิดหวังกับที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผิดหวังที่ไม่ได้เดินทางมากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการมาทัวร์แถบเอเชีย ส่วนครั้งนี้กับสตาร์เบอร์หนึ่งของโลกอีกรายอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ สถานะคงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก เพราะสัญญาของเขากำลังจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์นี้ และไม่มีท่าทีว่าจะขยายออกไป แม้ทางฝั่งบอร์ดบริหารของ เปแอสเช จะออกมาให้สัมภาษณ์ว่าต้องการให้ดาวเตะรายนี้อยู่กับทีมต่อไปก็ตาม ฉะนั้นกับเคสของ เมสซี่ แฟนบอลต้องตามลุ้นกันหน่อย เพราะตอนนี้อนาคตของเจ้าตัวสามารถออกได้ทุกหน้าในรูปแบบที่ไม่อาจประเมินได้ว่าจะจรดปากกาขายสัญญาออกไป หรือย้ายทีม ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเหล่านักเตะ บาร์เซโลน่า ก็ออกมาเร้าเหลือเกินให้กลับไปค้าแข้งในถิ่น คัมป์ นู อีกครั้ง เช่นเดียวกับ เซร์คิโอ รามอส ที่กำลังจะหมดสัญญาช่วงซัมเมอร์ ทำให้อนาคตของเขาไม่รู้จะยังคงได้สวมยูนิฟอร์มของ เปแอสเช หรือไม่ ในรายอื่นๆ อย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป้ มีสิทธิ์ที่จะเดินทางมากับทีมด้วย เพราะสัญญาที่เพิ่งขยายออกไป แม้จะตกเป็นข่าวกับ เรอัล มาดริด อยู่เรื่อยๆ แต่กับดีลนี้ฝั่ง เปแอสเช ไม่ปล่อยหลุดมือไปแบบง่ายๆ แน่ ซึ่งเหตุเดียวที่อาจทำให้ “ประธานเป้” อดมาทัวร์ไทยคือเรื่องของปัญหาอาการบาดเจ็บเพียงอย่างเดียว ข้ามมาที่อีกหนึ่งแนวรุกอย่าง เนย์มาร์ ที่อนาคตก็ยังคงคลุมเครือไม่ต่างจาก เมสซี่ เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าทีมอาจพิจารณาปล่อยตัวออกไป โดยที เชลซี ของเสี่ย ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ พร้อมรับช่วงต่อเอาไปดูแล ทว่าในอีกมุมถ้าไม่ย้ายทีมต้องลุ้นอีกว่าพี่แกจะหายเจ็บกลับมาทันหรือไม่ เพราะล่าสุดก็ต้องเข้าโรงหมอผ่าตัดบริเวณข้อเท้าไปแล้ว ส่วนรายอื่นๆ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า, ฟาเบียน รุยซ์, มาร์โก แวร์รัตติ หรือ อัฟราฟ ฮาคิมมี เหล่านี้น่าจะการันตีการอยู่กับทีมต่อไป และน่าจะมาลุยที่เมืองไทยแบบพร้อมหน้า

กุนซือจะเป็นใคร ?

สถานการณ์ของ คริสตอฟ กัลติเย่ร์ กุนซือของทีมในตอนนี้อย่างน้อยๆ น่าจะอยู่รอดปลอดภัยจนกระทั่งจบฤดูกาล เพราะสื่อในฝรั่งเศสอย่าง อาร์เอ็มซี สปอร์ต ได้ออกมารายงานข่าวในทำนองดังกล่าว ซึ่งผลงานของ กัลติเยร์ ถามว่าน่าผิดหวังไหม ? คงอยู่ในระดับที่ใช้ได้ เพราะผลงานในเกมลีกยังคงเป็นหนึ่งในตัวช่วยชี้วัด ทว่ากับ แชมเปี้ยนส์ลีก การร่วงตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายดูจะไม่ค่อยสวยงาม และน่าประทับใจนัก แต่ถ้าดูจากอดีต เปแอสเช มักจะให้โอกาสกุนซืออย่างน้อย 1 ฤดูกาลขึ้นไปในการทำทีม และค่อยมาพิจารณาว่าควรไปต่อ หรือพอเท่านี้ โค้ชดังอย่าง โธมัส ทูเคิ่ล, คาร์โล อันเชล็อตติ หรือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ต่างได้ช่วงเวลาของตัวเองมาทั้งนั้น และเชื่อว่า กัลติเยร์ ก็น่าจะได้ในรูปแบบที่คล้ายๆ กัน ฉะนั้นถ้าเขาพา เปแอสเช สอยแชมป์ลีกเอิงมาครองได้ ก็มีโอกาสที่จะนำลูกทีมมาทัวร์เมืองไทยในกลางปีนี้เช่นเดียวกัน สุดท้ายต้องมารอดูกันว่าศึกโทรเฟ่ เดส์ ชองปิยงส์ 2023 จะเป็นทีมไหนโคจรมาพบกัน แต่เชื่อว่ากระแสจากแฟนบอลตอบรับ และแห่กันจองตั๋วไปดูยอดทีมระดับโลกที่มาโชว์เพลงแข้งตรงหน้ากันแบบแน่นสนามอย่างแน่นอน